60 องค์กรประชาชน เรียกร้องเลือกผู้ว่าฯเชียงใหม่

24 เม.ย.2565 – กลุ่มองค์กรประชาชน 60 องค์กร อาทิ สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย,  เครือข่ายจังหวัดจัดการตนเอง,  สถาบันนโยบายศึกษา  ,  คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ,   คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.),ขบวนประชาชน 5 ภาค  ร่วมกันออกแถลงการณ์ สนับสนุนการเรียกร้องสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และการกระจายอำนาจตามแนวคิดจังหวัดจัดการตนเอง

 โดยระบุว่า การรณรงค์เรียกร้องสิทธิที่จะได้เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ของพี่น้องชาวจังหวัดเชียงใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างแข็งขันและกว้างขวางในขณะนี้เป็นสิ่งที่มีคุณค่าและคุณูปการอย่างสูงต่อการจัดการประเทศไทยในอนาคตเกินกว่าที่จะปล่อยวางให้เป็นภาระโดยลำพังของพี่น้องชาวจังหวัดเชียงใหม่ได้ แต่ควรได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่ายโดยเฉพาะภาคประชาชนที่สนับสนุนให้เกิดการกระจายอำนาจที่ชอบด้วยหลักการและมีคุณภาพ

ประเทศไทยเป็นประเทศที่จัดโครงสร้างอำนาจและออกแบบระบบบริหารราชการตามหลักการรวมอำนาจที่ทำให้เกิดการรวมศูนย์เข้าสู่ราชการส่วนกลางที่เข้มข้นมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลกแม้ว่าความพยายามกระจายอำนาจการปกครองที่ชอบด้วยหลักการและมีคุณภาพจะเกิดขึ้นมานานและประเทศไทยได้ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยมานานถึง 90 ปีแล้ว

โครงสร้างอำนาจแบบรวมศูนย์เข้มข้นเช่นนี้เองคือต้นตอของความมั่งคั่งอย่างมหาศาลของอำนาจและผลประโยชน์เฉพาะกลุ่มของคนจำนวนน้อยนิดในภาครัฐ – ภาคเอกชนโดยเฉพาะที่อยู่ในโครงสร้างส่วนบนของสังคมไทยอำนาจที่กระจุกตัวอยู่ในระบบราชการส่วนกลางที่ถูกใช้โดยคณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอและเจ้าหน้าที่รัฐในหน่วยงานสังกัดราชการส่วนภูมิภาคเป็นกลไกทำงานภายใต้การบังคับบัญชาคือ “มือ” ที่จัดสรร “ประโยชน์ในทรัพยากร”ทุกลักษณะที่มีอยู่ในประเทศนี้ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณแผ่นดิน ทรัพยากรธรรมชาติ โอกาส สิทธิ เสรีภาพ ตำแหน่ง หน้าที่ อำนาจ ฯลฯ  

ขณะเดียวกัน มือที่ว่านี้ก็เป็นตัวกำหนดว่าจะ “ผลักภาระ” อย่างไรให้แก่คนกลุ่มใด พื้นที่ใด เช่น ภาระด้านภาษี ความเสี่ยงภัยจากมลภาวะ ความอ่อนแอของสุขภาวะ ความเปลี่ยนแปลงของวิถีชุมชน ฯลฯ  เพื่อให้การเข้าถึงประโยชน์เช่นนั้นของคนกลุ่มน้อยเป็นไปได้ให้มากที่สุดแม้ว่ามันจะเป้นการได้เปรียบแบบอภิสิทธิ์ชนเหนือคนส่วนมากทั่วประเทศ

โครงสร้างของอำนาจรวมศูนย์เข้มข้นเช่นนี้จึงทำให้เกิดระบบการจัดสรรประโยชน์และภาระที่ลำเอียงอยู่ในตัวว่ามันมีอยู่เพื่อผลประโยชน์แก่กลุ่มคนที่เข้าครอบครองหรือเข้าถึงมันได้ ระบบที่ลำเอียงในตัวเองแบบนี้จึงทำให้เกิดการจัดสรรที่ไม่เป็นธรรมแก่คนส่วนใหญ่ทั่วประเทศให้ได้รับประโยชน์ที่จำกัด แต่ต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้ง ในขณะที่มีกลุ่มคนเพียงหยิบมือเดียวที่ได้เปรียบคนทั้งประเทศอย่างมหาศาล

สิ่งที่น่าเสียดายและห่วงกังวลอย่างยิ่งมีว่า ความเหลื่อมล้ำของประโยชน์และภาระดังกล่าวนี้เกิดขึ้นแล้วและจะดำรงอยู่ต่อไป ในขณะที่คนในพื้นที่ทั่วประเทศซึ่งล้วนมีความชอบธรรมที่จะได้และใช้ประโยชน์ทรัพยากรทั้งปวงเหล่านั้น ไม่มีโอกาสได้ยื่น “มือของตัวเอง” นำศักยภาพในตัวเองออกมาใช้จัดสรรทรัพยากรต่างๆ  จัดการพื้นที่และสังคมของตนเองให้ประชาชนในพื้นที่ของตนเองและทั้งประเทศได้รับทั้งประโยชน์และภาระอย่างเป็นธรรม โดยสอดคล้องกับความต้องการของตนเองและของประเทศไปพร้อมกัน

ตราบใดที่โครงสร้างอำนาจรวมศูนย์เข้มข้นยังคงดำรงอยู่ ความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยจะยังดำรงอยู่ ศักยภาพและพลังของคนและทรัพยากรต่างๆ ในพื้นที่ทั่วประเทศจะกดทับไว้ให้รอความหวังอย่างเลื่อนลอยต่อไปว่าจะมีมือที่ดีๆ เข้ามาทำหน้าที่กำหนดจัดสรรสิ่งเหล่านี้ภายใต้โครงสร้างอำนาจที่เป็นปัญหาในตัวเองเช่นนี้ (ซึ่งไม่เคยเป็นจริง)

ปัญหาใหญ่ที่สุดของประเทศไทยจึงเป็นปัญหาโครงสร้างอำนาจรวมศูนย์และการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดถึงต้นตอคือการกระจายอำนาจที่เพียงพอและมีคุณภาพด้วยการปรับโครงสร้างให้ประชาชนในท้องถิ่นได้จัดการหรือปกครองตนเอง ถ่ายโอนอำนาจของกระทรวง ทบวง กรมมายังท้องถิ่น ค่อยๆ ลดและในที่สุดยกเลิกราชการส่วนภูมิภาคตามแบบอย่างอารยะประเทศมากมายที่มีความเจริญก้าวหน้าด้วยการปรับโครงสร้างอำนาจให้ความสมดุลยิ่งขึ้นตามแนวทางนี้  

ในโอกาสนี้ เราจึงขอแสดงการสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อเสียงเรียกร้องของพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่ที่ขอมีสิทธิเลือกผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เองเช่นเดียวกับกับที่ชาวกรุงเทพมหานครมีสิทธิเลือกผู้ว่าฯ ของตนเอง และขอสนับสนุนเช่นเดียวกันนี้หากจะมีประชาชนชาวจังหวัดอื่นๆ ลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิเดียวกันนี้

เราเห็นว่าเสียงเรียกร้องเช่นนี้คือส่วนหนึ่งของความพยายามอันชอบธรรมที่จะลดทอนผลร้ายของโครงสร้างอำนาจแบบรวมศูนย์เข้มข้นดังกล่าวและเป็นการแสวงหาโอกาสของประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ที่จะได้ใช้ศักยภาพของตนเองและทรัพยากรของจังหวัดเชียงใหม่มาจัดการให้เกิดความผาสุขและเติบโตในมิติต่างๆ อย่างสมดุลและยั่งยืนทั้งในระดับเฉพาะพื้นที่จังหวัด ระดับภูมิภาคและระดับประเทศ และขอสนับสนุนการรณรงค์เพื่อให้เกิดการกระจายอำนาจอย่างจริงจังโดยเฉพาะตามแนวคิดจังหวัดจัดการตนเอง เพื่อให้เกิดการปรับโครงสร้างอำนาจรวมศูนย์เข้มข้นนี้ไปยังประชาชน – ชุมชนท้องถิ่นทั่วไปประเทศต่อไป. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลโอนเยียวยาน้ำท่วมใต้ครั้งที่ 6 'สงขลา-ตรัง' 40,935 ครัวเรือน กว่า 300 ล้านบาท

โฆษกเผยการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 แบบเหมาจ่ายในอัตราครัวเรือนละ 9,000 บาท ใน 4 รูปแบบ

รบ.ชวนภาคธุรกิจ ใช้สิทธิจัดประชุมสัมมนาเมืองรอง ลดภาษี 2 เท่า หนุน ศก.ภูมิภาค

รัฐบาลชวนภาคธุรกิจใช้สิทธิ ‘จัดประชุม–สัมมนาเมืองรอง ลดภาษี 2 เท่า’ หนุนเศรษฐกิจภูมิภาค หมดเขต 15 ธ.ค.นี้

สมาคมสถาบันการเงิน ผนึกกำลังแบงก์รัฐ ผุด 3 โครงการฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้

สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ขานรับนโยบายรัฐบาล ผนึกกำลังแบงก์รัฐประกาศช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ผุด 3 โครงการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู

ส้มขีดเส้นโหวตก่อนปีใหม่!

'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'

'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน

'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.