'แรมโบ้' มอบ 'อานนท์ แสนน่าน' นำป้ายหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันกระจายทั่วไทยให้ครบ 2 หมื่นแห่ง

"แรมโบ้อีสาน" มอบ "อานนท์ แสนน่าน" ระดม 4 ภาค นำป้ายหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันกระจายไปทั่วไทย หวังให้ครบ 20,000 หมู่บ้าน ก่อนวันพ่อแห่งชาติ 2565 ตามสโลแกน “อีสาน ล้านนา อโยธยา อันดามัน” อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี

29 เม.ย.2565 - ณ เครือข่ายหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย ชุมชนพรสวรรค์ ทต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี นายอานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย ร่วมประชุมกับทาง นางนิตยา นาโล ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันภาคอีสาน นายสมชัย แสงทอง ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันภาคเหนือ นายไวทิต ศิริสุวรรณ ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันภาคกลาง นายทวี ประหยัด ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันภาคใต้ และคณะทำงานแต่ละภูมิภาคของประเทศไทย ประชุมหารือรวมพลัง "หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน" 4 ภาค พร้อมกับทำการมอบป้าย “หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน” ให้กับประธานแต่ละภูมิภาคเพื่อนำไปเปิดตามหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และ จังหวัดต่างๆ กระจายไปทั่วประเทศไทยให้ ครบ 20,000 หมู่บ้าน พร้อมประกาศดังๆ ขอ“อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี” ในการรณรงค์ปกป้องสถาบันให้ชาวไทยกว่า 66 ล้านดวงใจมีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตามแนวทาง “แรมโบ้” นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ประชาชนออกมาแสดงพลังแห่งความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่เป็นเสาหลักของพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ

นายอานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า วันนี้ประชาชนชาวอดีตหมู่บ้านเสื้อแดง ทั่วประเทศไทยทั้ง 4 ภาค ต้องการที่จะออกมารณรงค์ให้ประชาชนแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งทุกวันนี้ยังมีกลุ่มคนบางกลุ่มที่ยังออกมาแสดงท่าทีจาบจ้วงต่อสถาบันซึ่งคนกลุ่มนี้ก็เป็นกลุ่มเยาวชนประมาณ 2 – 3 คน ที่ได้รับค่าตอบแทนจาก นักการเมืองบางกลุ่ม และองค์กรต่างประเทศที่ต้องการจะล้มล้างระบอบการปกครองประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่ผ่านมาพวกเราไม่ได้นิ่งนอนใจก็ได้ลงพื้นที่เพื่อรวบรวมรายชื่อร่วมกันขับไล่องค์กรเถื่อนและกลุ่ม NGO ต่างประเทศ ที่มาอาศัยแผ่นดินไทยแต่ก็ไม่เคยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ที่ให้พวกเขาได้อาศัยกันเลย มิหนำซ้ำยังมีความคิดที่จะมาล่มล้างและจาบจ้วงอีก พวกเราจึงยอมไม่ได้ในฐานะของประชาชนผู้จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และไม่ต้องการที่จะให้ใครมาทำลายสถาบันได้อย่างเด็ดขาดด้วยชีวิตของพวกเราจึงได้เปิดแคมเปญ “อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี” โดยจะให้อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแต่ละจังหวัดออกมารณรงค์ปลุก “พลังเงียบที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์” ออกมาแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ตามหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และ จังหวัดต่าง ๆ ตั้งแต่การติดธงชาติ ธงตราสัญลักษณ์ และ กิจกรรมจุดเทียนชัยรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในหลวง ร.9 ทุกวันที่ 13 ของเดือนทุก ๆ เดือน จนไปถึง 13 ตุลาคม 2565 ที่จะมีพระราชพิธีงานใหญ่

นายอานนท์ กล่าวอีกว่า นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้” หลังจากที่ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งทางการเมือง และ สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติแล้ว นอกจากจะเป็นการแสดงจุดยืนในการที่จะไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจของตนเอง และเป็นบรรทัดฐานทางการเมือง เพื่อให้ภาพพจน์ การขับเคลื่อนเป็นไปในทางที่ดีในสายตาของประชาชนแล้ว ยังมีเจตนาที่จะขับเคลื่อนในฐานะของ “ชมรมเครือข่ายปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” ร่วมกับตน และ อดีตกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่กลับตัวกลับใจในการปกป้องสถาบัน ทางตนจึงได้เชิญประธาน 4 ภาค ที่เคยเป็นอดีต “ประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแต่ละภูมิภาค ปัจจุบันเป็น “ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน” ประจำแต่ละภาค เดินทางมารับป้าย “หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน” เพื่อจะนำไปเปิดกันเองให้ทั่วทุก หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และ จังหวัดต่างๆ ให้ได้อย่างต่ำ 20,000 หมู่บ้าน ก่อนวันที่ 5 ธันวาคม 2565 ซึ่งวันนี้จะมีการจัดกิจกรรม “หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน” อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง

“...การรักษาพระมหากษัตริย์ เป็นหน้าที่ยิ่งใหญ่ของคนไทยทุกคน เพราะประเทศไทยและ คนไทยดํารงอยู่ได้อย่างร่มเย็นเป็นสุขมาถึงทุกวันนี้ก็ด้วยพระบารมีของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ ฉะนั้นจึงเป็นหน้าที่ที่คนไทยต้องดูแลรักษาและเทิดทูนสถาบันและองค์พระมหากษัตริย์ไว้ด้วยชีวิต อีกทั้งต้องป้องกันภัยพาลอันเกิดจากวาจาหรือความคิดที่ไม่สุจริตทั้งปวงจึงขอประกาศแคมเปญ อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี เพื่อหล่อหลอมคนไทยให้เป็นหนึ่งใจเดียวกัน และต้องการสนับสนุน ม.112คงเอาไว้และให้ประชาชนผู้มีความจงรักภักดีต่อสถาบันออกมาแสดงพลังช่วยกันไม่อยากให้เป็นพลังเงียบเพราะตอนนี้ยังมีกลุ่ม 3 กีบ และกลุ่มอื่นๆ ที่ทำกิจกรรรมจาบจ้วงสถาบัน และ ต้องการล้มล้างสถาบัน พวกเราพสกนิกรชาวไทยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงทุกพระองค์ ที่มีแผ่นดินไทยมาได้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะว่าพวกเรามี พระมหากษัตริย์...”