'นิพิฏฐ์'ฝากสส.ทบทวน ป.แพ่งและพาณิชย์ ที่บัญญัติ เรื่อง ทรัพย์สินของพระภิกษุ ที่ได้มาในระหว่างเวลาที่อยู่ในสมณเพศ ก่อนที่จะทำลายความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนมากไปกว่านี้
4 พ.ค.2565- หลังจาก อดีตพระกาโตะ วัดเพ็ญญาติ ตำบลกะเปียด อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ยอมรับว่า เบิกเงินวัดไป 6 แสน ในฐานะรักษาการเจ้าอาวาส เพื่อนำเงินไปให้ คนกลาง (จ่ายสีกาตอง และสื่อ) โดยยืนยันว่า จะนำเงินจากญาติ ไปคืนให้วัด ไม่มีเจตนาเอาเงินวัด แต่เพราคนกลางเร่งรัด จะเอาเงินให้ได้
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง และสมชิกพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
*ทรัพย์สินของพระภิกษุ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๒๓ บัญญัติว่า
"ทรัพย์สินของพระภิกษุที่ได้มาในระหว่างเวลาที่อยู่ในสมณเพศนั้น เมื่อพระภิกษุนั้นถึงแก่มรณภาพให้ตกเป็นสมบัติของวัดที่เป็นภูมิลําเนาของพระภิกษุนั้น เว้นไว้แต่พระภิกษุนั้นจะได้จำหน่ายไปในระหว่างชีวิตหรือโดยพินัยกรรม"
* ผมคิดอยู่หลายวัน เห็นว่า ควรทบทวนแต่ไม่กล้าแสดงความเห็น ฝากให้ท่านส.ส.ช่วยทบทวนด้วยครับ ก่อนที่จะทำลายความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนมากไปกว่านี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นิพิฏฐ์' ข้องใจ 'สส.-สว.' ผู้ทรงเกียรติสงขลาเงียบฉี่ปมยิงพระ-เณร
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊ก
'นิพิฏฐ์' ฝากถึงสาวกลุงตู่ เก็บไว้บนหิ้งบูชาก็พอ อย่าถึงกับเอาลุงมาห้อยคอตลอดเวลา
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง "ติ่ง ลุงตู่" ระบุว่า มีคนน้อยใจผมอยู่เหมือนกัน ว่า ผมไปต่อว่าลุงตู่ของเขา หาว่าผมไม่รักลุงตู่บ้างล่ะ
'นิพิฏฐ์' ชี้ชัดคนรักลุงตู่แต่รับได้ที่ รทสช. ร่วมรัฐบาลเป็นประเภทเกลียดตัวกินไข่!
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊ก
ไม่ควรเป็นเรื่องใหญ่! ‘นิพิฏฐ์’ บอกรดน้ำขอพรนายกรัฐมนตรี ผู้มีตำแหน่งสูงกว่าไม่น่าผิดอะไร
มีคนวิจารณ์นายกรัฐมนตรี เรื่องให้ผู้ที่มีอายุมากกว่ารดน้ำ เนื่องในวันสงกรานต์ ผู้ที่วิจารณ์ก็ว่านายกรัฐมนตรีไม่รู้เรื่องประเพณีวัฒนธรรม เพราะปกติการรดน้ำเขาให้คนที่มีอายุน้อยเป็นผู้รดน้ำขอพรผู้สูงอายุ
'นิพิฏฐ์' บอกให้เลือกตั้งครั้งหน้าเดิมพันกันที่ กม.กาสิโนไปเลย
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊ก
'นิพิฏฐ์' กระตุกปชช.เลือกนักการเมือง หากบ้านเมืองเสียหายปชช.ก็ต้องยอมรับชะตากรรม
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า สัปดาห์นี้ ผมได้คุยกับบุคคล 3 ท่าน ที่ควรเอ่ยถึง คือ ท่านชวน หลีกภัย, ท่านอัยการชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง และ นักการเมืองท้องถิ่น 2-3 กลุ่ม