ท่าอากาศยานเชียงใหม่เข้ม! ใช้มาตรฐานเดียวกับตรวจโควิดสกัด 'ฝีดาษวานร'

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เฝ้าระวัง 'โรคฝีดาษลิง' ใช้มาตรการเข้มเดียวกันกับการคัดกรองโรคโควิด-19 ล่าสุดยังไม่พบความเสี่ยง

25​ พ.ค.2565 - นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตามที่มีการระบาดของโรคฝีดาษวานรหรือฝีดาษ​ลิงในหลายประเทศ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ในฐานะที่เป็นหนึ่งในช่องทางเข้า-ออกประเทศสำคัญ​ ได้มีมาตรการเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ โดยใช้มาตรการคัดกรองเข้มงวดเช่นเดียวกันกับมาตรการคัดกรองโรคโควิด-19 ซึ่งเมื่อผู้โดยสารเดินทางมาถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่ จะต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายด้วยเครื่องเทอร์โมสแกน หากอุณหภูมิร่างกายเกิน 37.3 องศาเซลเซียส จะให้นั่งพักปรับอุณหภูมิร่างกาย และวัดซ้ำด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิอีกครั้ง หากอุณหภูมิปกติ จึงจะเข้าสู่กระบวนการตรวจ Thailand Pass และกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองต่อไป ทั้งนี้ปัจจุบันท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีเที่ยวบินตรงในเส้นทางจากต่างประเทศ​ไม่กี่เส้นทางมีเพียง สิงคโปร์ - เชียงใหม่ – สิงคโปร์ โดยสายการบินสกู๊ต SCOOT TIGER AIR และเส้นทาง กัวลาลัมเปอร์ - เชียงใหม่ – กัวลาลัมเปอร์ โดยสายการบินแอร์เอเชีย AIR ASIA ผู้โดยสารเฉลี่ยเที่ยวบินละ 80-100 คน​ แต่ก็ไม่ประมาที่จะเฝ้าระวังตลอดเว​ลา

ด้านนางวราพันธุ์ พรวิเศษศิริกุล หัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศท่าอากาศยานเชียงใหม่ ให้ข้อมูล​เพิ่มเติมว่า กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดนิยามผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคฝีดาษวานร สำหรับด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ คือ ผู้เดินทางที่มีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส หรือมีประวัติไข้ร่วมกับมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้แก่ เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง และต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่นกระจายตามลำตัว มีลักษณะเป็นตุ่มนูน ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง หรือตุ่มตกสะเก็ด และเดินทางมาจาก หรืออาศัยในประเทศที่มีการรายงานการระบาดของโรคฝีดาษวานรในประเทศ ภายใน 21 วัน ซึ่งหากพบผู้โดยสารที่มีลักษณะอาการเข้าข่ายดังกล่าว จะเข้าสู่กระบวนการส่งต่อผู้ป่วยตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขต่อไป ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาจากการตรวจสอบประเทศต้นทางของผู้โดยสารในระบบ Thailand Pass พบผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง คือประเทศอังกฤษบ้าง แต่ก็จะคัดกรองด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายและซักประวัติการสัมผัส ซึ่งยังไม่พบผู้โดยสารที่เข้าข่ายตามเกณฑ์ความเสี่ยงแต่อย่างใด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลห่วงยอดโควิดพุ่ง แต่ขอให้มั่นใจโรงพยาบาลพร้อมรับมือ!

'เกณิกา' เผยรัฐบาลห่วงใยยอดโควิดยังพุ่งหลังสงกรานต์ ขอให้ประชาชนมั่นใจโรงพยาบาลทุกแห่งมีความพร้อมรับมือผู้ป่วยโควิด แนะใส่หน้ากากอนามัยในพื้นที่แออัด รีบตรวจ ATK หากมีอาการคล้ายหวัด

เร่งทำงานหนัก 'ชลน่าน' ลงพื้นที่ปัตตานีพาหมอไปหาประชาชนฯ

หมอชลน่านลงปัตตานีเปิดโครงการพาหมอไปหาประชาชนฯ จัดคลินิกคัดกรองความผิดปกติบนใบหน้าและมือเด็ก ช่วยเข้าถึงการผ่าตัดแก้ไขปัญหา

โควิดพุ่งตามคาด! สายพันธุ์ไม่เปลี่ยน อาการคล้ายหวัด

กรมควบคุมโรคเผยสถานการณ์โรคโควิด 19 พบแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นหลังเทศกาลสงกรานต์ เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้เมื่อต้นปี สายพันธุ์ไม่เปลี่ยนอาการคล้ายหวัด แนะ กลุ่มเสี่ยง 608 ระมัดระวังหากมีอาการสงสัยป่วยควรปรึกษาแพทย์

โควิดสงกรานต์พุ่ง! ไทยติดเชื้อรอบสัปดาห์ 849 ราย

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 7 - 13 เมษายน 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ รักษาในโรงพยาบาล (รายสัปดาห์) 849 ราย