
อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ชี้เมื่อฝ่ายค้านเล่นการเมืองสนับสนุนเด็กออกมาก่อกวน ไม่คำนึงถึงผลกระทบจากโรคระบาด และวิกฤติการณ์อื่นๆ ประดิษฐ์วาทะกรรม สร้างกระแสผิดๆเพี้ยนๆ ลุงตู่ก็อยู่ต่อไปเรื่อยๆละกัน จนต้องคลานกันมาทำงานนั่นแหละ
24 ก.ค. 2565 –พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง “ใครทำให้บิ้กตู่อยู่มาจนจะครบ8ปีแล้ว ไม่ใช่ตัวลุงตู่เองแน่นอน” ระบุว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ครั้งที่ผ่านไป พล.อ.ประยุทธ์กลายเป็นเป้าหมายหลัก ให้ฝ่ายค้านดาหน้าออกมาถล่มทุกวัน แต่ก็ไม่ระคายผิวครับ คุณโทนี่ เลยพลอยโดนหางเลขเหวี่ยงกลับให้สำลักเลือดเล่นด้วยผมจึงขอนำเรื่องเดิมๆมาเล่าให้ฟังอีกว่าทำไม พล.อ.ประยุทธ์ถึง“อยู่ยงคงกระพัน” หนักหนา
ทหารนั้น เป็นองค์กรขนาดใหญ่ ดังนั้นทหารส่วนใหญ่ แม้จะมีค่านิยมที่คล้ายคลึงกันในเรื่องการรัก ชาติ, ศาสน์, กษัตริย์ และประชาชนแต่เนื่องจากเป็นองค์กรที่มีสมาชิกมากกว่า 4 แสนคน จึงทำให้บุคลากรในองค์กรมีแนวความคิดทางการเมืองที่แตกต่างกันออกไปตามสภาพแวดล้อมที่แต่ละคนประสบมา
ทหารเป็นองค์กรที่มีสถาบันการศึกษาของตัวเองและมีหลักสูตร เฉพาะทางในทุกขั้นตอนของการรับราชการ นอกจากนั้นนายทหารยังนิยมที่จะเพิ่มคุณวุฒิการศึกษาสายสามัญในระดับปริญญาโท ทางด้านสังคมศึกษา(เป็นส่วนใหญ่) ซึ่งทำให้ผ่านการเรียนรู้และพูดคุยปัญหาทางการเมืองในชั้นเรียนมาแล้วในระดับหนึ่ง ดังนั้น “การเมืองจึงเป็นเรื่องที่ไม่ไกลตัวทหารสักเท่าไร” อย่างไรก็ตามไม่ว่าทหารจะมีแนวคิดทางการเมืองที่แตกต่างกันอย่างไร แต่ทหารทุกคนจะต้องมีความผูกพันกับแนวคิดสำคัญที่ได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่เริ่มเข้ารับราชการของเป็นทหารว่า การเมือง ต้องมีความสำคัญน้อยกว่าความมั่นคงของชาติ
ความมั่นคงแห่งชาติไทย คงไม่มีอะไรซับซ้อนเท่ากับของสหรัฐฯ แต่ก็ยังมีหลากหลายมิติ ซึ่งสรุปได้เป็นองค์ประกอบสำคัญอยู่ที่ (1) รัฐต้องบังคับใช้กฎหมายต่อประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน จึงจะได้รับความเคารพนับถือจากทหาร (2) รัฐต้องไม่ทุจริต
(3) ทุกองค์กรภาครัฐต้องทำตามหน้าที่ของตนให้ครบถ้วน โดยทหารจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง ถ้าไม่มีความเร่งด่วนอะไรเกิดขึ้น
และ(4) องค์ประกอบสำคัญคือ “ต้องการให้ความเคารพต่อพระมหากษัตริย์”ซึ่งทรงเป็นจอมทัพไทย
จากภารกิจและหลักนิยมดังกล่าว จึงทำให้ทหารแตกต่างกว่า ตำรวจและข้าราชการทั่วไป ที่ต้องทำงานรับใช้รัฐบาลและประชาชนตามหน้าที่ โดยทหารเป็นองค์กรของชาติ มีหน้าที่หลักในการปกป้องประเทศ รักษาเขตแดน อธิปไตย และรักษาความมั่นคงของประเทศ ในยามสงบ ทหารจึงไม่ใช่เครื่องมือของนักการเมืองที่เข้ามาบริหารประเทศโดยตรง แต่ทหารจะ”สนับสนุนรัฐบาล” ในขอบเขตภารกิจทุกประการ ถ้ารัฐบาลบริหารประเทศอย่าง”ถูกต้องตามกฎหมาย” ทหารก็
จะเข้าไปทำอะไรรัฐบาลไม่ได้เลย
ปัจจุบัน ก็มีหน่วยงานอีกหลายแห่งที่ไม่ใช่เครื่องมือของรัฐบาลในลักษณะที่คล้ายคลึงกับทหาร เช่น อัยการ , ศาล และองค์กรอิสระต่างๆ ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้มักจะมีทิศทางการทำงานเข้ามาปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน มากกว่าผลประโยชน์ของรัฐบาล
สรุป. ทหารอาชีพยังมีมากกว่า”ทหารรับจ้าง”มากมายนัก และลักษณะที่ทหารดีต้องมี ประกอบไปด้วย 1.ต้องเห็นอิทธิพลทางการเมืองสำคัญน้อยกว่าเรื่องของประเทศชาติ ถ้าการเมืองผิด ต้องตักเตือน ถ้าผิดมาก ต้องออกมาแสดงท่าทีให้ชัดเจนว่า “ทหารจะไม่สนับสนุนบทบาททางของกลุ่มการเมืองดังกล่าว” เช่น กรณีรัฐบาลทุจริตเห็นได้ประจักษ์ การไม่ยอมรับฟังคำตัดสินของศาล และการทักท้วงของประชาชน ทหารก็ต้องออกมาให้ห่างรัฐบาล ไม่เช่นนั้นก็เท่ากับทหารสนับสนุนการทุจริตด้วย
2.การคุ้มครองประชาชน (อยู่ในคำมั่น ท่ีให้ไว้กับประชาชน เห็นได้ตามค่ายทหารทั่วไป) เมื่อประชาชนเกิดขัดแย้งกับรัฐบาล
ปกติทหารจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ยกเว้นถ้าความขัดแย้งดังกล่าวรัฐบาลใช้กำลังเข้าปราบปราม ในขณะที่การเคลื่อนไหวของประชาชนเหล่านั้น อยู่ในแนวทางสันติ แต่ถูกทำร้ายจากกลไกของรัฐ ติดต่อกัน ทหารท่ีดีก็ควรออกมาปกป้อง โดยพิจารณาจากการกระทำตามกฎหมายว่าใครถูก ก็สนับสนุน ใครผิด ก็ไม่ช่วยแค่นั้น (เช่น กรณีเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อปี 52-53 เมื่อศาลได้ระบุว่าเป็นการชุมนุมโดยผิดกฎหมาย และรุนแรงถึงขั้นทำลายการประชุมระหว่างประเทศ ทหารจึงออกมาทำหน้าที่ช่วยเหลือรัฐบาล ซึ่งไม่ใช่การปกป้องรัฐบาล แต่เป็นการเข้ามาทำหน้าที่รักษาความสงบของชาติ)
3.การพิทักษ์ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างจริงจัง ไม่คบหาสมาคมกับคนพวกที่เคลื่อนไหวกระทบต่อสถาบันฯ เพราะในหลวงทุกพระองค์มีสถานะผูกพันกับทหารมาแต่โบราณกาล ในฐานะที่เป็นองค์จอมทัพไทย ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ เมื่อมาดูสถานการณ์ ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะทำการรัฐประหาร ในปี 2557นั้น นั้น จะเห็นได้ว่า เกิดเหตุการณ์ที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติมากมาย ทั้งเรื่องการทุจริตของรัฐบาล, การล่วงละเมิดสถาบันฯ, การไม่เคารพกฎหมาย และการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เท่าเทียมกัน ต่อเนื่องกันมาเกือบ 2 ปี แต่ทหารก็ยังเฉย เมื่อ นายกรัฐมนตรี ถูกถอดถอน มวลชนของผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่าย เตรียมพร้อมจะเข้าปะทะกันอยู่ตลอดเวลา เพราะอีกฝ่ายถูกโจมตีด้วยอาวุธสงครามอย่างต่อเนื่องรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความคิดที่จะป้องกันตัวเองของฝ่ายที่ถูกโจมตี ก็เกิดขึ้นมาบ้าง ซึ่งในกรณีปลายรัฐบาล
คุณยิ่งลักษณ์นั้น ศาลได้มีคำสั่งถอดถอน ทำให้คุณยิ่งลักษณ์ ไม่ได้เป็นนายกแล้ว ถือว่ารัฐบาลมีความผิดครบถ้วนแล้วทุกประการ ดังนั้นทหารที่ดีจึงต้องออกมาให้ห่างจากรัฐบาล และพร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือประชาชน แต่การออกมาของทหารต้องมีขั้นตอน เพราะทหารเป็นองค์กรที่ใช้อาวุธเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงานจึงจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เหมาะสม โดยหาทางไกล่เกลี่ยให้ได้ผลมากที่สุด ครั้งนั้นมี ทหารบางส่วน ที่ฝักใฝ่ฝ่ายรัฐบาล(ที่ผิดกฏหมาย)พยายามทำให้การไกล่เกลี่ยนั้น ล้มเหลว รวมถึง คุณ โทนี ด้วยเรื่องถึงบานปลายยาวมาถึงตอนนี้
แม้ว่า เงื่อนไขที่ทหารดีจะต้องออกมาสนับสนุนประชาชนนั้นครบถ้วนแล้ว ทหารก็ยังรออยู่อีก จนกระทั่ง พรรค ปชป.ไม่ยอมลงรับสมัครเลือกตั้ง ก็เท่ากับพรรค ปชป.ออกมายืนยันถึงความไม่ชอบธรรม ของรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง ทหารก็ควรออกมาได้แล้ว แต่ พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังคอยอยู่อีกนาน ผู้คนนับล้านในท้องถนน และตามบ้านเรือน (รวมทั้งตัวผมด้วย) ต่างพากันเรียกร้องและตำหนิ พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะ ผบ.ทบ ที่ไม่ดูแลประชาชน ตามคำมั่นที่ติดไว้หน้าหน่วยทหาร นี่คือข้อเท็จจริง ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า ประชาชนเอง เป็นฝ่ายยอมให้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่มาเรื่อยๆ จนเกือบครบ 8 ปีแล้ว
ผมไม่อยากจะเดาเลยว่า เมื่อฝ่ายค้านเล่นการเมืองกันแบบนี้ ทั้งสนับสนุนเด็กออกมาก่อกวน ไม่คำนึงถึงผลกระทบจากโรคระบาด และวิกฤติการณ์อื่นๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เอาแต่สนุกสนาน ประดิษฐ์วาทะกรรม สร้างกระแสผิดๆเพี้ยนๆ คิดวิธีการเล่นที่เห็นว่า“โก้” แต่ไร้วุฒิภาวะ มาแสดงออกทางการเมือง เห็นแล้วก็อนาถใจครับ ..บ้านเมืองเป็นอะไรไปแล้ว สามัญสำนึก
ทำไมถึงบกพร่องกันปานนี้ เติบโตกันมาได้อย่าไร แล้วยังเรียกร้องขอมีส่วนในการบริหารประเทศ..
ถ้าทำแบบนี้ ลุงตู่ก็อยู่ต่อไปเรื่อยๆละกัน จนต้องคลานกันมาทำงานนั่นแหละครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลโอนเยียวยาน้ำท่วมใต้ครั้งที่ 6 'สงขลา-ตรัง' 40,935 ครัวเรือน กว่า 300 ล้านบาท
โฆษกเผยการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 แบบเหมาจ่ายในอัตราครัวเรือนละ 9,000 บาท ใน 4 รูปแบบ
รบ.ชวนภาคธุรกิจ ใช้สิทธิจัดประชุมสัมมนาเมืองรอง ลดภาษี 2 เท่า หนุน ศก.ภูมิภาค
รัฐบาลชวนภาคธุรกิจใช้สิทธิ ‘จัดประชุม–สัมมนาเมืองรอง ลดภาษี 2 เท่า’ หนุนเศรษฐกิจภูมิภาค หมดเขต 15 ธ.ค.นี้
สมาคมสถาบันการเงิน ผนึกกำลังแบงก์รัฐ ผุด 3 โครงการฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้
สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ขานรับนโยบายรัฐบาล ผนึกกำลังแบงก์รัฐประกาศช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ผุด 3 โครงการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู
ส้มขีดเส้นโหวตก่อนปีใหม่!
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน
'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.
โอนเงินเยียวยาน้ำท่วม สำเร็จแล้ว 4.9 พันล้าน 5 แสนครัวเรือน
'ภราดร' เผยยอดโอนเงินเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ช่วง 1-4 ธ.ค. โอนสำเร็จแล้ว 548,126 ครัวเรือน วงเงินรวม 4.9 พันล้านบาท

