'ทั่นโรม' สบช่อง โยง 3 เหตุการณ์กราดยิงพันตั๋วช้าง อัดคนมีสีชั้นผู้น้อยใกล้เคียงกับอาชญากร จี้รัฐบาลเร่งปฏิรูปทหาร-ตรำวจ ชู 4 ข้อเสนอแนะ พร้อมประกาศหากไม่ทำก้าวไกลเป็นรัฐบาลทำแน่
12 ต.ค.2565 - นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล(ก.ก.) แถลงข่าวกรณีเหตุการณ์กราดยิง ที่จังหวัดหนองบัวลำภู ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า น่าเศร้าสลดเสียใจเป็นอย่างยิ่ง จึงจำเป็นต้องเท้าความว่าเหตุการณ์ในลักษณะแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศของเรา โดยก่อนหน้านี้ในวันที่ 8 ก.พ.2563 ก็มีเหตุการณ์การกราดยิงที่ จ.นครราชสีมา โดย จ.ส.อ.นายหนึ่ง ซึ่งสาเหตุสำคัญคือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บังคับบัญชา โดยเหตุการณ์ในครั้งนั้นนำไปสู่ความสูญเสียต่อชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ถึง 30 ราย ต่อมาวันที่ 14 ก.ย.2565 ก็มีเหตุการณ์ที่ลักษณะคล้ายกันเกิดที่วิทยาลัยการทัพบก โดยจ.ส.อ.นายหนึ่ง ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 2 ราย และล่าสุดที่เกิดขึ้นในวันที่ 6 ต.ค.2565 มีผู้เสียชีวิตมากถึง 38 รายซึ่งเป็นเด็กเล็กจำนวน 22 ราย เหตุการณ์เหล่านี้นำไปสู่คำถามว่าตกลงแล้วเหตุการณ์ต่างๆ จะนำไปสู่การเรียนรู้อะไรของสังคม เราจะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ซ้ำอีกได้อย่างไร ทุกคนทราบดีว่าเราไม่มีทางป้องกันเรื่องนี้ได้ 100% แต่อย่างน้อยที่สุดการกราดยิงที่หนองบัวลำภูจะต้องนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้ทุกองคาพยพ ทุกส่วนของระบบราชการที่จะต้องป้องกันให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำอีก
“ผมต้องเรียนอย่างตรงไปตรงมาว่าเราแทบไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไร ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือตำรวจ เราไม่เห็นความเป็นไปได้ของความพยายามที่จะเกิดการปฏิรูป แล้วทำให้ปัญหาลักษณะแบบนี้ไม่เกิดขึ้นซ้ำอีกแล้ว สิ่งที่ผมอาจจะสรุปต้นตอปัญหาของเกิดกราดยิง ก็คือสภาพแวดล้อมภายในองค์กร ไม่ว่าทหารหรือตำรวจ มีปัญหา ถามว่ามีปัญหาได้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่อทุจริต การใช้เส้นสาย การคอร์รัปชันบางครั้งทำให้สวัสดิการหรือแม้กระทั้งอาหารของเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยไม่ได้รับอย่างเพียงพอ ซึ่งบางครั้งก็เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติดบ่อนการพนัน สถานบันเทิง การที่ธุรกิจผิดกฎหมายเหล่านี้ของคนมีสีเกิดขึ้นได้จำเป็นต้องมีการสมคบกัน ของคนมีสีหลายคน และจำเป็นต้องมีแขนขา ตำรวจ ทหารชั้นผู้น้อย คอยปฏิบัติการช่วยเหลือ ซึ่งยังนับเรื่องตั๋วช้าง หรือตั๋วตำรวจทั่วๆไป” นายรังสิมันต์กล่าว
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า คนที่อยู่ในองค์กรดังกล่าวจะสามารถปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ต่อประชาชนได้อย่างไรทหาร ตำรวจชั้นผู้น้อย หลายคนมีความใกล้เคียงกับการเป็นอาชญากรที่ทำเรื่องผิดกฎหมายมากขึ้นเรื่อยๆ แตกต่างอย่างเดียวคือมีเครื่องแบบเท่านั้นเอง ดังนั้นปัญหาเหล่านี้คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าโครงสร้างขององค์กรเหล่านี้มีปัญหาเป็นอย่างมาก โดยทันที่เกิดเหตุการณ์กราดยิงที่ จ.หนองบัวลำภู เราได้เห็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เป็นการกระทำส่วนตัวจะป้องกันได้อย่างไร ซึ่งการโยนความผิดให้กับคนร้ายเพียงคนเดียว โดยไม่กลับมามองตนเองมันทำให้ความเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างจะไม่มีวันเกิดขึ้นเท่ากับเป็นระเบิดเวลาที่รอคอยให้ทหาร ตำรวจชั้นผู้น้อย ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ควรจะอยู่ เกิดเหตุการณ์อย่างที่เกิดขึ้นได้อีก
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า หากไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ซ้ำขึ้นอีก เราจึงขอเสนอหลักการ 4 ข้อ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น อันจะเป็นการช่วยลดโอกาสในการเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นซ้ำ และจะนำไปสู่การปฏิรูปตำรวจและกองทัพ ดังนี้ 1.จะต้องมีการจัดการอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดการซื้อขายตำแหน่งกัน เพื่อป้องกันระบบตั๋วช้าง ซึ่งเป็นสิ่งชักนำสำคัญที่ทำให้เกิดคนมีสีเข้าไปเกี่ยวกับธุรกิจที่ผิดกฎหมาย 2.จะต้องมีการดูแลเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยอย่างสม่ำเสมอทำให้พวกเขาสามารถเข้าถึงการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในยามที่พวกเขามีปัญหา ขณะเดียวกันองค์กรเหล่านี้จะต้องมีกระบวนการในการช่วยเหลืออย่างเป็นธรรม และโปร่งใส 3. รัฐบาลจะต้องเข้ามาช่วยเหลือเพื่อทำให้ต้นทุนของการปฏิบัติหน้าที่ในราชการมีน้อยที่สุด โดยจะต้องไม่เป็นการผลักภาระต่อผู้ปฏิบัติหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็น การซื้อปืน การซื้อน้ำหมึกหรือกระดาษเอง สิ่งเหล่านี้จะต้องไม่เกิดขึ้น ตลอดจนการเลิกภารกิจที่ไม่มีความจำเป็น เช่น ทหารรับใช้ตำรวจรับใช้ เป็นต้น และ 4.กรณีที่พวกเขาต้องออกจากองค์กร รัฐและองค์กรต้นสังกัดต้องเข้ามาดูว่าคนเหล่านี้สามารถอยู่ร่วมกันกับคนในสังคมได้หรือไม่ ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องรักษาหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ภาครัฐก็ต้องเข้ามามีบทบาทต่อเรื่องนี้ด้วย
“หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้อเสนอทั้ง 4 ข้อ จะเป็นความเปลี่ยนแปลงทั้งในองค์กรตำรวจและทหาร เพื่อให้สังคมของเราได้อยู่อย่างปลอดภัยต่อไป และไม่เกิดเหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลดขึ้นอีก”
เมื่อถามว่า อยากเรียกร้องไปยังรัฐบาลอย่างไร นายรังสิมันต์ กล่าวว่า จากการแถลง ไม่ได้วิจารณ์อย่างเดียวแต่เราพยายามว่าหนทางการแก้ปัญหาเป็นอย่างไร คาดหวังว่าอยากเห็น 4 ข้อที่เรียกร้องไปมีการปฏิบัติของทั้งทหารและตำรวจ ซึ่งก่อนหน้านี้เราเคยพิจารณาเรื่อง พ.ร.บ.ตำรวจไปแล้ว บางข้อก็มีเรื่องที่ดีขึ้น เช่น การกำหนดการเลื่อนตำแหน่งต่างๆ ต้องมีหลักเกณฑ์อย่างไร แต่ก็ต้องยอมรับว่า หากจะประจักษ์เรื่องเส้นสายตำรวจจริงๆ เราจำเป็นต้องทำมากกว่านั้น เช่น การตั้งภรรยาน้อย ในการรับตำแหน่งต่างๆ อาจจะมีการไปแซงการเลื่อนตำแหน่งใครหรือไม่หรือกรณีที่มีการตั้งทหารรับใช้ ซึ่งเป็นการนำเอาทรัพยากรของรัฐมาทำในนามส่วนตัว เป็นการเอาเปรียบ ซึ่งตนเชื่อว่าในองค์กรทหารและตำรวจก็รู้เรื่องพวกนี้ ฉะนั้นหากเราไม่แก้ไขเรื่องพวกนี้ แรงกดดันและสภาพจิตใจของคนที่เป็นชั้นผู้น้อยก็จะอยู่ในสภาพที่มีความเป็นมนุษย์น้อยลงเรื่อยๆ ฉะนั้น การที่เขาอาจจะหาทางออกที่เลวร้อย ก็อาจจะมีความเป็นไปได้สูง คิดว่าในช่วงเวลาที่เหลือก็อยากให้รัฐบาล นำข้อเสนอที่ได้เสนอไป ไปปรับปรุงแก้ไข อย่างไรก็ตามการปฏิรูปกองทัพเป็นนโยบายที่สำคัญของพรรคก้าวไกลอยู่แล้ว หากรัฐบาลนี้ไม่ทำ และเราได้เป็นรัฐบาล เราก็จะทำ
เมื่อถามถึง กรณีที่ พล.อ.ประวิตร ตอบคำถามเหมือนโยนบาปให้คนอื่น จะมีแนวทางในการแก้ไขอย่างไรให้เป็นรูปธรรมหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ยืนยันว่า คนที่ใช้อาวุธปืนกราดยิงที่หนองบัวลำภู เป็นคนผิดแน่ๆ และสิ่งที่เขาทำเป็นสิ่งที่เลวร้าย แต่หากเราต้องการแก้ปัญหาไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอีก หรือเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด คิดว่าองคาพยพโดยเฉพาะในองค์กรตำรวจ หรือทหาร จะต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญ เช่น จะเป็นไปได้หรือไม่ที่อาจจะมีการตรวจสุขภาพจิตทุก 6 เดือน หรือ ปีละครั้ง หรือสร้างกลไกให้เขาสามารถร้องทุกข์ในกรณีที่เขามีปัญหา หรือแม้กระทั่งการครอบครองอาวุธปืนจะเป็นไปได้หรือไม่ที่อาจจะทำใบอนุญาตใหม่
“สิ่งที่พล.อ.ประวิตร ตอบคำถาม ซึ่งในวันนั้นผมเข้าใจว่า พล.อ.ประวิตร ยังมีบทบาทสำคัญในรัฐบาล คำถามคือการที่ท่านตอบคำถามเช่นนี้ เราจะแก้ปัญหาได้อย่างไร เพราะคำตอบของท่านคือตำรวจไม่ผิด สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ผิด ความผิดทั้งหมดอยู่ที่ตำรวจคนนั้นผู้เดียว วิธีคิดเช่นนี้เท่ากับไม่ต้องปฏิรูปอะไรเลย ตำรวจดีอยู่แล้วหมายความว่าเหตุการณ์เช่นนี้ก็จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ได้ตลอดเวลา“นายรังสิมันต์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พสกนิกรโคราชปลูกต้นไม้ 9 พันต้น เฉลิมพระเกียรติ 'ในหลวง ร.9'
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดกิจกรรมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 5 ธันวามหาราช
ประชุม คกก.ถอดบทเรียนอุทกภัยนัดแรกเล็งลอกการบ้านแดนปลาดิบ
'บวรศักดิ์' ประชุม คกก.ถอดบทเรียนอุทกภัยนัดแรก ชี้ประเทศมี กม.แก้ภัยพิบัติเพียบ แต่เกิดเหตุฉับพลันอำนาจสั่งการไม่ได้ เตรียมถอดบทเรียนแบบญี่ปุ่น ก่อน 'นายกฯ อนุทิน' นั่งหัวโต๊ะนำประชุมต่อ
'อนุทิน' แบ่งงานรัฐมนตรีคุมเยียวยาน้ำท่วมใต้รายจังหวัด
'อนุทิน' ลงนามคำสั่งสำนักนายกฯ แบ่งงานรัฐมนตรี คุมเยียวยาน้ำท่วมใต้รายจังหวัด
'บวรศักดิ์' ซัดน้ำท่วมหาดใหญ่ส่วนหนึ่งมาจากความล้มเหลวการบริหารจัดการของท้องถิ่น!
'บวรศักดิ์' ยกเหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ เป็นความล้มเหลวการบริหารจัดการของท้องถิ่น และท้องถิ่นต้องเปลี่ยนการทำงาน ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซาก
'บวรศักดิ์' ร่ายยาวอบรม 'วันนอร์' ปมยื่นซักฟอกยังยุบสภาได้
'บวรศักดิ์' เตือน 'วันนอร์' เป็นประธานสภาหลายครั้งแล้ว ให้ตีความญัตติซักฟอกอย่างที่เคยทำมา ติงฝ่าย กม.แปลกๆ บอก ยกร่าง ม.151 มากับมือ ยันแม้ฝ่ายค้านยื่นแต่ยังยุบได้ เหตุต้องอิงข้อบังคับ ตรวจสอบญัตติก่อน
'สุชาติ' คุยทูตศรีลังกา 19 พ.ย. พาพลาย 'ประตูผา-ศรีณรงค์' กลับบ้าน
'สุชาติ' นัดทูตศรีลังกา 19 พ.ย. หารือนำช้างพลาย 'ประตูผา-ศรีณรงค์' กลับไทย เน้นเจรจาทางการทูตไม่ให้กระทบความสัมพันธ์


