ไม่ยึดหลักสากล 'แอมเนสตี้' โวยตร.ไม่แยกคนทำรุนแรงออกไป แล้วให้มีการชุมนุมโดยสงบต่อไป

19 พ.ย.2565 - นางปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่าปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานสากลตามที่กล่าวอ้าง แทนที่จะอำนวยความสะดวกในการจัดการชุมนุม กลับสลายการชุมนุมที่รุนแรงโดยการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่มุ่งเป้าเพื่อการปะทะและการจับกุมผู้ชุมนุม ถือเป็นการละเมิดการใช้สิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบ และเป็นการปิดปากผู้เห็นต่าง

“ผู้ชุมนุมประท้วงส่วนใหญ่ไม่ได้มีส่วนร่วมในพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายหรือรุนแรงใดๆ แต่กลับได้รับความกระทบกระเทือนทั้งทางร่างกายและจิตใจจากการกระทำของตำรวจ มีผู้ชุมนุมที่บาดเจ็บจากการถูกยิงด้วยแก๊สน้ำตา มีสื่อมวลชนที่ถูกทุบตี ได้รับบาดเจ็บ และขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งๆ ที่ใส่ปลอกแขนสื่อมวลชนและแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเพราะพวกเขากล้าที่จะใช้สิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบ”

นางปิยนุช กล่าวว่า ทางการต้องยกเลิกข้อกล่าวหาและปล่อยตัวผู้ชุมนุมโดยทันทีและอย่างไม่มีเงื่อนไข ในส่วนของการควบคุมการชุมนุม ทางการไทยควรเคารพ คุ้มครองและประกันการใช้สิทธิมนุษยชนของผู้จัดการชุมนุมและผู้เข้าร่วม รวมทั้งมีมาตรการรับมือและป้องกันความเสี่ยงต่างๆ โดยไม่ใช้ความรุนแรง และยังต้องประกันความมั่นคงปลอดภัยของผู้สื่อข่าว ผู้สังเกตการณ์การชุมนุม และประชาชนทั่วไปที่ร่วมสังเกตการณ์การชุมนุมด้วย”

“เราขอเรียกร้องทางการไทยให้ปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศของตน และอำนวยความสะดวก ในการใช้สิทธิในเสรีภาพการชุมนุมโดยสงบ ทางการไทยต้องอนุญาตให้ผู้ชุมนุมโดยสงบสามารถแสดงความคิดเห็นของตน โดยต้องไม่ทำให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มมากกว่านี้”

เธอ กล่าวว่า ตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และมาตรฐานการใช้กำลังตำรวจควบคุมฝูงชน เจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายต้องหาทางหยุดยั้งและแยกตัวบุคคลที่กระทำความรุนแรงออกไป แต่ต้องไม่ไปขัดขวางบุคคลอื่นที่ยังต้องการชุมนุมโดยสงบต่อไป ตำรวจอาจใช้กำลังได้เป็นแนวทางสุดท้าย เฉพาะเมื่อมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด และเฉพาะเมื่อจำเป็นแก่การปฏิบัติตามหน้าที่ของตนเอง การใช้กำลังควรมุ่งที่การยุติความรุนแรง และให้ใช้ได้ในลักษณะที่จำกัดอย่างยิ่ง โดยมุ่งลดอาการบาดเจ็บและมุ่งรักษาสิทธิที่จะมีชีวิตรอด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นักสิทธิมนุษยชนหายไปไหน! กัมพูชายกเลิกเปิดด่านคลองลึก ไม่ให้คนไทยกลับบ้าน

จากกรณีที่สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสนอความเห็นต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ให้พิจารณาระงับการเดินทางข้ามพรมแดนทั้งหมดของประชาชนกัมพูชาและประชาชนไทย

2553 จากรัฐบาลที่ถูกบีบด้วยอาวุธ สู่ประวัติศาสตร์ที่คนรุ่นหลังเลือกจำ

เหตุการณ์ในรั้ว จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อกลุ่มนิสิตบางส่วนชูป้ายว่า “สลายการชุมนุม 53 คนสั่งฆ่าอยู่นี่” ระหว่างที่ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตนายกรัฐมนตรี มาบรรยายพิเศษให้หลักสูตรปริญญาเอกสาขานโยบายสาธารณะ

‘อนุทิน’เป็นปลื้ม! ไทยกลับเวทีโลก

นายกฯ ดีใจไทยได้กลับมาในเวทีโลกแม้เปลี่ยนรัฐบาล ผู้นำหลายประเทศตอบรับดี ชู 3 แนวทางเวทีเอเปก “ส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาค-เป็นผู้นำพัฒนา AI-เน้นเสริมพลังสังคมรับสูงวัย”

นายกฯยันข้อตกลง‘เขมร’แนวโน้มดี

“อนุทิน” ยันกัมพูชาเริ่มปฏิบัติตามที่ตกลงกันไว้ มีแนวโน้มไปในทางที่ดี “วินธัย” แจงปมของบริจาคทหารชายแดน ยันส่วนกลางมีบันทึกข้อมูลการส่งมอบอย่างเคร่งครัด

นายกฯอนุทิน ปลื้มไทยกลับเวทีโลก ยันสัมพันธ์กัมพูชาคืบหน้า

นายกรัฐมนตรีเผย ดีใจที่ไทยได้รับการยอมรับจากผู้นำหลายประเทศในเวทีเอเปก ย้ำความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาแนวโน้มดี ระบุทั้งกองทัพ

นายกฯ ชู 3 แนวทางบนเวทีเอเปก 'ร่วมมือภูมิภาค-พัฒนาAI-เสริมพลังสังคมสูงวัย'

นายกฯอนุทิน ร่วมเวทีผู้นำเอเปกที่เกาหลีใต้ เสนอแนวทางขับเคลื่อนภูมิภาคให้พร้อมรับอนาคต เน้นความร่วมมือ การพัฒนาเทคโนโลยีอย่างรับผิดชอบ และการสร้างสังคมที่แข็งแรงในยุคสูงวัย