หนาวแน่! เครือข่ายปกป้องสถาบันฯ จ่อชง 'รมว.แรงงาน' เขี่ยแอมเนสตี้พ้นไทย

21 พ.ย.2565 - มีรายงานข่าวแจ้งว่า วันที่ 24 พ.ย.นี้ ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) นำโดยนายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศปปส. พร้อมด้วยกลุ่มนักรบองค์ดำ และศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด buly ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) เตรียมเดินทางไปยังกระทรวงมหาดไทย เตรียมยื่นหนังสือต่อนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อพิจารณาเพิกถอนสัญญาแอมเนสตี้ในประเทศไทย เนื่องจากเห็นว่าแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทยยุยงปลุกปั่นให้ประชาชน คิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์

นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศปปส. เผยว่าสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2565 ทางศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน(ศปปส.) ได้รับหนังสือตอบกลับจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีที่ นร.0105.04/43146 โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ประสานส่งเรื่องให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ที่มีหน้าที่รับผิดชอบรับไปพิจารณาแล้ว ทางศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน กลุ่มนักรบองค์ดำและศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกละเมิด buly ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) ซึ่งได้ติดตามความคืบหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2565 โดยมีนางนลินี มหาขันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน ปฏิบัติราชการแทนปลัดสำนักนาย กรัฐมนตรีได้เซ็นลงนามในหนังสือตอบกลับดังกล่าว

แต่ผลปรากฏว่าทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ได้แจ้งว่าทางพม.ไม่ได้มีหน้าที่โดยตรงกับเรื่องที่ร้องมาและชี้แจงว่าให้ไปที่กระทรวงมหาดไทย ซึ่งในวันดังกล่าวทางผู้ร้อง ก็ได้เดินทางต่อไปยังกระทรวงมหาดไทยซึ่งทางกระทรวงมหาดไทย ก็แจ้งมาว่าเรื่องที่ผู้ร้อง ร้องนั้นกระทรวงมหาดไทยไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรง โดยชี้แจงว่าต้องไปที่กระทรวงแรงงาน

ดังนั้นศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน(ศปปส.) กลุ่มนักรบองค์ดำและศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกละเมิด buly ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) จึงทำหนังสือมายังนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรง งานตามคำชี้แจงของกระทรวงมหาดไทย

อนึ่งศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน(ศปปส.) กลุ่มนักรบองค์ดำและศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกละเมิด buly ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) ได้ติดตามความเคลื่อนไหวขององค์กรไม่แสวงหากำไรหรือ amnesty มาโดยตลอดจนถึงปัจจุบันก็ยังเห็นว่าองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรหรือ amnesty เคลื่อนไหวยุยงปลุกปั่น และแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทยอยู่เป็นเนืองนิจ ซึ่งล่าสุดผู้จัดการออนไลน์ได้เสนอข่าวที่น่าเชื่อถือตามลิงค์ข่าวนี้

“เพจดัง” แฉเอกสาร “แอมเนสตี้” หนุน “ทุกม็อบ” ป่วน “เอเปก” แทรกแซง “กม.” ไทย “จรัล” ต้อนรับ “ธนาธร”

https://mgronline.com/politics/detail/9650000108015

ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน(ศปปส.) กลุ่มนักรบองค์ดำและศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกละเมิด buly ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) จึงอยากนำเรียนให้นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้พิจารณาและเพิกถอนสัญญาแอมเนสตี้ในประเทศไทย เนื่องจากแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทยยุยงปลุกปั่น ให้ประชาชนคิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์

"โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทางกระทรวงแรงงานจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติและเล็งเห็นว่าองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรหรือ amnesty เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ที่เห็นสมควรพิจารณากับพ้นประเทศไทยไปเสียโดยเร็ว" ประธานศปปส. ระบุ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ในประเทศที่เสรีภาพดังขึ้นทุกวัน แต่เสียงของมารยาทเบาลงเรื่อย ๆ

แผ่นดินไทยในยุคนี้เต็มไปด้วยเสียงของการแสดงออก ใคร ๆ ก็พูดได้ คิดได้ โพสต์ได้ และเชื่อว่าการส่งเสียงของตนคือส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย

กรรมการสิทธิฯ ออกแถลงการณ์ กังวล 'สว.อังคณา' ถูกข่มขู่คุกคามเพราะความเห็นต่าง

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เผยแพร่แถลงการณ์ เรื่อง ขอให้ทุกฝ่ายเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง และไม่ยอมรับการสร้างความเกลียดชัง โดยมีรายละเอียดดังนี้

กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ แถลงป้อง 'อังคณา' ขอทุกฝ่ายรักชาติอย่างมีสติ มีวุฒิภาวะ

กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ แถลงเรียกร้อง รัฐบาล-หน่วยงาน คุ้มครองปัญหาข่มขู่คุกคาม ป้อง "อังคณา" เป็นเพียงผู้ส่งสาร ไม่ควรมีความผิดใด ๆ ขอ ปชช. อย่าปฏิเสธเรื่องสิทธิมนุษยชน หวั่น เสียเปรียบในเวทีโลก วอน ทุกฝ่ายรักชาติอย่างมีสติ

‘อังคณา’ร้องตร.ขอคุ้มครอง

"สว.อังคณา" ควง "สุณัย" ยื่นขอ ผบ.ตร.นำตำรวจคุ้มครองความปลอดภัย หลังถูกขู่ฆ่าเอาชีวิตจากเอฟซี "กัน จอมพลัง" ยันเป็นคนไทย รักชาติไม่น้อยไปกว่าใคร

‘สว.อังคณา-สุณัย’ ยื่นขอ ผบ.ตร.ส่งตำรวจคุ้มครองความปลอดภัย

นางอังคณา กล่าวว่า วันนี้มายื่นหนังสือถึงผบ.ตร.ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ตนถูกคุกคามทางสื่อออนไลน์ โดยมีลักษณะข่มขู่เอาชีวิตต่อตัวเองและครอบครัว รวมไปถึงนายสุณัย ตั้งแต่หลังจากไปออกรายการดังหลายรายการ หลังจากนั้นแฟนคลับของ “กัน จอมพลัง” ก็โจมตีตน ทำให้รู้สึกว่าไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน