19 ธ.ค.2565 - เวลา 16.00 น. พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงความคืบหน้า ในการค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย จากเหตุเรือจมจากคลื่นลมแรง ขณะทำการลาดตระเวน อยู่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ในการนี้ กองทัพเรือได้ตั้ง ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ขึ้นมาทำหน้าที่ในการประสานการปฏิบัติ เพื่อดำเนินการในการให้ความช่วยเหลือกำลังพลและกู้เรือหลวงสุโขทัย พร้อมทั้งส่งเรือและอากาศยาน ประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงกระบุรี เฮลิคอปเตอร์แบบซีฮอว์ค เครื่องบินลาดตระเวนแบบดอร์เนีย รวมถึงชุดป้องกันความเสียหายและกู้ภัยเรือ เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน นอกจากนี้ได้ประสานหน่วยภายนอกเข้าร่วมให้การช่วยเหลือ โดยปัจจุบันมีกำลังพลที่ได้รับความช่วยเหลือและนำขึ้นฝั่งณ ท่าเรือบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เรียบร้อยแล้ว จำนวน 72 นาย โดยมีกำลังพลจำนวน 11 นาย ถูกส่งเข้ารับการรักษาตัว ณ โรงพยาบาลบางสะพาน และกำลังพลจำนวน 61 นาย อาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงของ อบต.แม่รำพึง ส่วนกำลังพลอีก 2 นาย ขณะนี้ที่อยู่บนเรือน้ำมัน “STRAITS ENERGY” กำลังเดินทางไปยังท่าเรือมาบตาพุด จังหวัดระยอง
สำหรับการปฏิบัติในพื้นที่เกิดเหตุ ในขณะนี้ เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงกระบุรี รวมถึงอากาศยานของกองทัพเรือและกองทัพอากาศได้ร่วมกันปฏิบัติภารกิจในการลาดตระเวนค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลที่เหลือ โดยในช่วงเช้า เรือหลวงกระบุรีสามารถเข้าไปช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย เพิ่มอีกจำนวน 1 นาย ขณะสวมชูชีพลอยคออยู่กลางทะเล
ทั้งนี้ เรือและอากาศยาน ยังคงทำการค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลที่เหลืออีก 31 นาย โดยได้กำหนดพื้นที่ค้นหา ขนาดพื้นที่ 20 X 15 ตารางไมล์ ซึ่งอยู่ทางใต้ห่างจากจุดที่เรือหลวงสุโขทัยจมลง ประมาณ 18 ไมล์ทะเล โดยคำนวนจากทิศทางของกระแสน้ำและกระแสลม รวมทั้งบริเวณที่ตรวจพบและช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยล่าสุด นำมาพิจารณาพื้นที่ที่เป็นไปได้ว่ากำลังพลที่เหลือจะอยู่ตรงบริเวณดังกล่าว
โดยสรุป การดำเนินการในขณะนี้ ตรวจพบและให้การช่วยเหลือกำลังพลที่ประสบภัยได้แล้ว 75 นาย คงเหลือกำลังพลที่ยังต้องค้นหาและช่วยเหลืออีก 31 นาย ทั้งนี้ ญาติพี่น้องของกำลังพลประจำเรือ สามารถติดสอบถามได้ที่ ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยหมายเลขโทรศัพท์ 038182435 และ 0840023554
โฆษกกองทัพเรือกล่าวว่า จากการที่มีการนำเสนอข่าวว่าพบกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย 10 นาย เสียชีวิต 1 นาย และอยู่ในสภาพอิดโรย 9 นาย นั้น จากการตรวจสอบ ขอยืนยันว่า ไม่ใช่กำลังพลเรือหลวงสุโขทัย แต่เป็นลูกเรือจากเรือสินค้าอนุภูมิ ซึ่งได้อับปางลงเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา จากเหตุคลื่นลมแรงเช่นกัน
ล่าสุด มีรายงานว่า กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ได้ออกประกาศคำเตือนเพื่อการเดินเรือ ที่ 91/2022 และ ที่ 92/2022 แจ้งชาวเรือหลีกเลี่ยงพื้นที่ค้นหา ช่วยเหลือผู้ประสบภัยรอบบริเวณ เรือหลวงสุโขทัย อัปปาง ตำบลที่ 11 องศา 00 ลิปดาเหนือ ลอง 99 53 ลิปดาตะวันออก สำหรับรายละเอียดการปฏิบัติเพิ่มเติม สำนักงานโฆษกกองทัพเรือ จะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ผบ.ทสส.' สั่ง ศป.กฉ.ส่วนหน้า 8 ข้อ เร่งฟื้นฟู 'หาดใหญ่'
'ผบ.ทสส.' สั่ง ศป.กฉ.ส่วนหน้า 8 ข้อ จัดระเบียบ ‘ศูนย์พักพิง-การแพทย์’ เร่งเปิดระบบ ‘ไฟฟ้า-ประปา’ แจกถุงยังชีพ-อาหาร มาตรการ รปภ. เก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต ตั้งจุดรวบรวมขยะ 4 พื้นที่ ย้ายยานพาหนะกีดขวาง
น้ำยังสูง! นาวิกโยธิน ส่งรถสะเทินน้ำสะเทินบก AWAV ลงพื้นที่สิงหนคร ลำเลียงอาหาร-น้ำดื่ม ช่วยปชช.
นาวิกโยธิน จัดชุดยานเกราะล้อยาง AWAV เข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่โรงเรียนบ้านบางไหน อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ซึ่งยังคงมีน้ำท่วมสูง
ทร. ส่ง 'เรือหลวงอ่างทอง' ลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือชาวใต้ ถึงหาดใหญ่ 1 ธ.ค.
กองทัพเรือ ส่งเรือยกพลขึ้นบก “เรือหลวงอ่างทอง” ลำเลียงเครื่องอุปโภคบริโภคหลายตัน เร่งช่วยเหลือชีวิตชาวใต้ประสบอุทกภัย
กองทัพเรือโต้สนั่น! ยัน 'หน่วยซีลไม่ถูกจับตัวประกัน' เรียกค่าไถ่เขต 8 เป็นเฟคนิวส์
กองทัพเรือชี้กระแสข่าวจับซีลเรียกค่าไถ่ 40,000 บาทเป็นข้อมูลเท็จ เผยกำลังพลลงเขต 8 เพื่อช่วยผู้ประสบภัย ไม่ได้พกอาวุธติดตัว พร้อมย้ำภาพทหารถือปืนที่ถูกแชร์ในโซเชียลเป็นภาพ AI
หน่วยซีลเข้าเขต 8 หาดใหญ่ ขนย้ายผู้ป่วยฟอกไต 18 ราย เปิดฐานทัพเป็นศูนย์พักพิง
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ ให้ข้อมูลว่าจากการส่งชุด ปฏิบัติการพิเศษลงพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ในวันนี้ (26 พฤศจิกายน 2568) ได้รับรายงานว่าชุดปฏิบัติการพิเศษจากหน่วยซีล กองทัพเรือ ชุดที่ 1
ซีล-รีคอน-อีโอดี กองทัพเรือ ผนึกกำลังช่วยผู้ประสบอุทกภัยตลอด 24 ชม.แล้ว
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ชุดปฏิบัติการพิเศษ (ชปพ.) ของกองทัพเรือ รวม 15 ชุด จากหน่วยซีล หน่วยลาดตระเวน นาวิกโยธิน และหน่วย EOD ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดสงขลาอย่างต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืน

