พระเอกมา ‘พิธา’ โดดป้องนักเรียนถูกครูใช้กรรไกรเดินกล้อนผม ขู่ ลงโทษครูที่ละเมิดสิทธิ

‘พิธา’ โดดป้องนักเรียนถูกครูใช้กรรไกรเดินกล้อนผมกว่าร้อยคนจนแหว่งและเสียทรง ตั้งคำถามว่า ‘ทรงผม’ เกี่ยวอย่างไรกับการเรียนรู้ ชูนโยบายก้าวไกล กฎโรงเรียนต้องไม่ขัดหลักสิทธิมนุษยชน ต้องมีมาตรการลงโทษครูที่ละเมิดสิทธิ

8 ก.พ.2566 - นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง ไม่ควรมีใครถูกกล้อนผมในโรงเรียน กฎโรงเรียนต้องไม่ขัดหลักสิทธิมนุษยชน มีเนื้อหาดังนี้
.
ผมรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง ที่วันนี้ได้เห็นภาพเหตุการณ์ที่ถูกนำเสนอโดยกลุ่ม นักเรียนเลว ที่มีครูในโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ ใช้กรรไกรเดินกล้อนผมนักเรียนกว่าร้อยคนจนแหว่งและเสียทรงในระหว่างเข้าแถวตอนเช้า หลังจากนั้นก็บังคับให้นักเรียนทุกคนแก้ทรงผมกลายเป็นทรงนักเรียนขาว 3 ด้านทั้งหมด แม้กฎเรื่องทรงผมโรงเรียนจะไม่ได้บังคับให้นักเรียนต้องตัดผมเกรียนก็ตาม
.
นี่แสดงให้เห็นว่า การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงนามยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ. 2563 เปลี่ยนเป็นการกำหนดแนวปฏิบัติกว้างๆ ให้สถานศึกษาแต่ละแห่งนำหลักเกณฑ์ไปกำหนดเป็นระเบียบเอง ไม่ได้เป็นการปลดปล่อยเสรีภาพเหนือร่างกายของนักเรียน แต่กลับทำให้กฎเกณฑ์เรื่องทรงผมนักเรียนถูกกำหนดอย่าง “ไร้ขอบเขต” กว่าเดิม
.
เราในฐานะคนในสังคม ต้องตั้งคำถามว่า “ทรงผม” เกี่ยวข้องอย่างไรกับการเรียนรู้ และพลเมืองของชาติที่เราอยากเห็นในอนาคต คือคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ เติบโตมาในสังคมที่มีเสรีภาพ หรืออยากให้เป็นคนที่ถูกบีบอยู่ในกรอบของระบบอำนาจนิยม
.
ผมคิดว่าการสอนและสร้างความสำนึกเรื่องสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพของมนุษย์ในโรงเรียน เป็นเรื่องเดียวกันกับการพัฒนาคุณภาพการศึกษา เพราะในโลกยุคปัจจุบันเราไม่สามารถเอาวิธีคิดแบบการผลิตพลทหารของโลกยุค 100 ปีก่อน มาใช้ในการสร้างสรรค์การเรียนรู้
.
สิ่งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการควรต้องทำจริงๆ คือการประกาศระเบียบกระทรวงศึกษาธิการที่ห้ามบุคลากรทางการศึกษาทั้งครูและผู้บริหารโรงเรียนไม่ให้ละเมิดสิทธิมนุษยชนตามนโยบายของพรรคก้าวไกล
.
1. กฎโรงเรียนต้องไม่ขัดหลักสิทธิมนุษยชน
- ออกข้อกำหนด “กฎโรงเรียนต้องห้าม” เพื่อไม่ให้โรงเรียนออกกฎระเบียบของโรงเรียนที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของนักเรียน (เช่น การบังคับเรื่องทรงผม การลงโทษด้วยวิธีรุนแรงทุกประเภท การบังคับให้เด็กบริจาคเงินหรือสิ่งของ การบังคับซื้อของ การบังคับไปทำกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวกับการเรียนการสอน)
.
- อบรมครูและบุคลากรทางการศึกษาอื่นให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ตระหนักถึงความสำคัญของสิทธิในเนื้อตัวร่างกายของเด็ก
.
2. ต้องมีมาตรการลงโทษครูที่ละเมิดสิทธิ ควบคู่ไปกับการให้ความรู้เรื่องสิทธิมนุษยชน และระบบให้คำปรึกษาและช่วยเหลือเมื่อครูต้องเผชิญภาวะกดดัน
- พักใบประกอบวิชาชีพครูทันทีเมื่อมีการละเมิดสิทธิเด็ก (เช่น การทำร้ายร่างกายเด็ก การล่วงละเมิดทางเพศ) เพื่อป้องกันไม่ให้มีการงดโทษหรือลงโทษเพียงแค่ย้ายโรงเรียน ซึ่งอาจนำไปสู่ความไม่ปลอดภัยของผู้เรียนในสถานศึกษาอื่น
.
- แก้ปัญหาการปกปิดความผิดโดยโรงเรียนเมื่อเกิดเหตุการละเมิดสิทธิกับนักเรียน ผ่านการจัดให้มีผู้ตรวจการนักเรียนที่เป็นอิสระ (Student Ombudsman) เพื่อให้เป็นช่องทางร้องเรียนที่เป็นอิสระจริงจากโรงเรียน-เขตพื้นที่
.
- มีการให้เครื่องมือครูในเรื่องหลักจิตวิทยาและวิธีการรับมือเมื่อเผชิญกับสถานการณ์สูง อันอาจส่งผลต่อสภาวะอารมณ์ รวมทั้งต้องมีระบบให้ความช่วยเหลือคุณครูในการจัดการนักเรียนที่มีปัญหา ด้วยวิธีการที่ถูกต้องตามหลักการเรียนรู้และหลักสิทธิมนุษยชนในแบบเดียวกับประเทศที่พัฒนาแล้ว
.
ผมเชื่อว่า การละเมิดสิทธิมนุษยชนในโรงเรียน ไม่ใช่แค่เรื่องเฉพาะโรงเรียนใดโรงเรียนหนึ่ง แต่นี่คือปัญหาร่วมกันของคนทั้งสังคม ถ้าแม้แต่สิทธิขั้นพื้นฐานของนักเรียน เรายังปกป้องไม่ได้ เราคงไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นของระบบการศึกษาไทยได้
.
ผมจึงอยากเชิญชวนทุกคนในสังคมมาร่วมกันแก้ปัญหานี้ครับ ตรีนุช เทียนทอง Treenuch Thienthong // นักเรียนดี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พิธา' เพ้อ เสียดายไม่ได้เข้าทำเนียบฯ ไม่มีอำจาจ ไม่เช่นนั้นจะแก้ปัญหาให้ปชช.ได้

'พิธา' บอก เสียดายไม่ได้เข้าทำเนียบฯ ไม่มีอำนาจ ไม่เช่นนั้นจะแก้ไขปัญหาให้ปชช.ได้ ขณะหอบ 'สส.ก้าวไกล' ลงพื้นที่รับฟังปัญหาเช่าที่ชุมชนริมทางรถไฟ ชี้ ควรราคาถูก-ผ่อนนาน เปรียบต่างชาติยังได้สิทธิ 99 ปี

'เศรษฐา' สั่ง ศธ.เร่งแก้ไขปัญหาเด็กหลุดระบบการศึกษา

นายกฯ ประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงฯ ย้ำเดินหน้าแก้ไขปัญหาเด็กหลุดระบบการศึกษา ช่วยกันปลูกฝังให้เกลียดชังยาเสพติด แนะแบ่งเงินรางวัลนำจับเป็น 2 ส่วน เพื่อสร้างแรงจูงใจการทำงานของเจ้าหน้าที่

'พิธา' ทวงบุญคุณเอ็มโอยูยกเก้าอี้ประธานสภาให้จี้เร่งทำ 3 เรื่อง

'พิธา' ทวงสัญญาพรรคการเมือง-ครม. กลางสภายกเอ็มโอยูตั้ง รบ.ไม่สำเร็จ แต่ขอให้ผลักดัน 3 ข้อ รัฐสภาก้าวหน้า-นิรโทษฯ-ปฏิรูปกองทัพ

ครม.ปรับเงื่อนไขชดใช้ทุนของ รร.วิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย

ครม.มีมติปรับเงื่อนไขการชดใช้ทุนหลังสำเร็จการศึกษาของนักเรียนทุนโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยไปศึกษาต่อ ณ สถาบันโคเซ็น ประเทศญี่ปุ่น

"เพิ่มพูน" เดินหน้า "ปฏิวัติการศึกษาแก้ปัญหาประเทศ" อย่างเร่งด่วน เหตุกระแสโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ผศ. พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และประธานอนุกรรมการพิจารณาจัดการสนับสนุนสมาคมกีฬาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน