
19 ก.พ.2566-พล.ร.ต.ทองย้อย แสงสินชัย อดีตผู้อำนวยการกองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ กองทัพเรือ โพสต์เฟซบุ๊ก “ทองย้อย แสงสินชัย”เรื่อง “ถวายข้อคิดเพื่อโปรดพิจารณา” ระบุว่า เวลามีการพระราชทานสมณศักดิ์โดยไม่ได้ผ่านกระบวนการพิจารณาของคณะสงฆ์เหมือนเมื่อก่อน ผมได้ยินเสียงบ่นเบาๆ ว่า เป็นการลดอำนาจของคณะสงฆ์
การพระราชทานสมณศักดิ์เป็นกิจของพระราชา การทำเรื่องพระราชทานสมณศักดิ์ก็เป็นหน้าที่ของพระราชา แต่พระราชามีพระราชภารกิจมาก บางเรื่องจึงทรงขอให้พระช่วยทำ เพราะฉะนั้น กิจ-คือการทำเรื่องขอสมณศักดิ์นี้ จึงเป็นการทำเพื่อแบ่งเบาพระราชภาระตามที่ได้ทรงขอให้ช่วย แต่กระนั้นก็หาใช่กิจของสงฆ์ไม่ เวลานี้มีการพระราชทานสมณศักดิ์โดยที่ไม่ได้ผ่านการพิจารณาของคณะสงฆ์ การพระราชทานสมณศักดิ์โดยที่ไม่ได้ผ่านการพิจารณาของคณะสงฆ์นี้เป็นพระราชอำนาจอันมีมาแต่เดิมโดยแท้ เพียงแต่ว่า ยุคสมัยหนึ่งทรงขอให้คณะสงฆ์เป็นผู้พิจารณา อันเป็นการช่วยแบ่งเบาพระราชภารกิจ คณะสงฆ์รับเอาการพิจารณา (ว่าภิกษุรูปไหนควรได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เมื่อไรอย่างไร) มาทำ ครั้นทำนานเข้า ก็เลยรู้สึกไปว่าการพิจารณาเรื่องพระราชทานสมณศักดิ์เป็นอำนาจ เป็นหน้าที่ของคณะสงฆ์ ลืมไปว่า-ความจริงแล้วเป็นพระราชอำนาจโดยสมบูรณ์
ครั้นพอทรงใช้พระราชอำนาจอันเป็นของส่วนพระองค์โดยสมบูรณ์เหมือนเดิม ก็จึงพากันเห็นไปว่า ทรงก้าวก่ายอำนาจของคณะสงฆ์ หรือก้าวก่ายกิจของสงฆ์ ทั้งๆ ที่การพระราชทานสมณศักดิ์นั้นไม่ใช่กิจของสงฆ์แต่ประการใด การพระราชทานสมณศักดิ์เป็นกิจของพระราชา กิจของสงฆ์คือศึกษาธรรม ปฏิบัติธรรม และสอนธรรม จึงต้องแยกให้ออกว่าอะไรเป็นหน้าที่ อะไรไม่ใช่หน้าที่ เวลานี้พระเอาสิ่งที่ไม่ใช่หน้าที่มาทำเหมือนกับเป็นหน้าที่กันมากขึ้น ส่วนหน้าที่จริงๆ กลับละเลยกันมากขึ้น

“สิ่งที่ไม่ใช่หน้าที่” มีอะไรบ้าง ไม่จำต้องแจง มองเฉพาะสิ่งที่เป็นหน้าที่ก็จะได้คำตอบ สิ่งที่เป็นหน้าที่ของพระ คือ ศึกษาธรรม ปฏิบัติธรรม และสอนธรรม
ทั้ง ๓ ส่วนนี้ ส่วนที่เป็นหลักคือ ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรมก็เพื่อเอาธรรมไปปฏิบัติสำหรับตนเอง สอนธรรมหรือเผยแผ่ธรรมก็เพื่อให้คนอื่นเอาธรรมไปปฏิบัติ หัวใจของหน้าที่จึงอยู่ที่-ปฏิบัติธรรม กิจอื่นๆ ที่งอกออกมาหรือพ่วงอยู่กับการศึกษาธรรม ปฏิบัติธรรม และสอนธรรม เป็นกิจแฝงหรือกิจรอง กิจหลักอยู่ที่การศึกษาธรรม ปฏิบัติธรรม และสอนธรรม และหัวใจของกิจหลักคือปฏิบัติธรรม พอเอาสิ่งที่ไม่ใช่หน้าที่มาทำมากเข้า นานเข้า ก็เลยพากันเข้าใจว่านั่นเป็นกิจหลักหรือเป็นหน้าที่
ครั้นพอใครบอกให้ทำหน้าที่จริงๆ-คือปฏิบัติธรรม ก็ชักจะไม่พอใจ ลองเทียบกันดู ระหว่างอำนาจกับหน้าที่ — กรณีพระราชทานสมณศักดิ์เป็นอำนาจโดยตรงของพระราชา ฉันใด กรณีศึกษาธรรม ปฏิบัติธรรม และสอนธรรม ก็เป็นหน้าที่โดยตรงของพระสงฆ์ ฉันนั้นค่อยๆ พิจารณาไป ก็จะเห็นชัดว่าอะไรควรเป็นอย่างไร
ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ ฟังดู เหมือนกับจะเป็นการ “สอน” พระถ้าท่านผู้ใดเห็นเป็นเช่นนั้น ก็ขอกราบขอประทานอภัย มิได้มีเจตนาเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อยเจตนาอยู่ที่-ถวายข้อคิดเพื่อโปรดพิจารณาเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คณะสงฆ์-วัดไทยทั่วโลก ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล เจริญจิตตภาวนา อุทิศถวายพระราชกุศล 'สมเด็จพระพันปีหลวง'
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เผยแพร่มติมหาเถรสมาคม ที่ พิเศษ ๗/๒๕๖๘ เรื่อง แนวทางการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล เพื่ออุทิศถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีเนื้อหาดังนี้
อ.ทองย้อย สะท้อนมุมมอง เรื่อง 'พระเป็นพลเมืองชั้นสอง'
พลเรือตรีทองย้อย แสงสินชัย ภาคีสมาชิก ราชบัณฑิตยสภา โพสต์เรื่อง 'พระเป็นพลเมืองชั้นสอง'
'หลวงพ่ออลงกต' จากสมณเพศแห่งธรรม สู่ผ้าเหลืองในตลาดศรัทธา!
สมณเพศ ที่ควรสูงส่งดัง ระฆังศรัทธากลับแตกกังวานเป็นเสียง บัญชีและตัวเลข “หลวงพ่ออลงกต” คือภาพฉายว่าเมื่อ บาตร กลายเป็น ภาชนะรั่วไหล และ ผ้าเหลือง ถูกแขวนขายกลาง ตลาดบุญ สิ่งที่สังคมสูญเสียมิใช่พระรูปเดียวแต่คือรอยร้าวใหม่ที่สั่นคลอนความเชื่อในพุทธศาสนา
สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระคติธรรม เป็นหลักสำหรับพุทธบริษัทไทย พิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม เพื่อเป็นหลักการสำหรับพุทธบริษัทไทยทุกหมู่เหล่า
'พระสายวัดป่า' ซัดรัฐบาล-ตำรวจคุกคามพระสงฆ์ เหวี่ยงแห 'กวาดลานวัด' บ่อนทำลายพระพุทธศาสนา
เจ้าอาวาสวัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน จ.เชียงใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า นี่! พระสงฆ์กำลังกลายเป็นผู้ต้องสงสัยว่า จะเป็นอาชญากรกันทั้งประเทศแล้วหรือ?
'พุทธะอิสระ' ปูดพระราชาคณะชั้น 'สมเด็จ' ถูกขึ้นแบล็กลิสต์ ห้ามเข้าพื้นที่สำคัญของประเทศ จี้สำนักพุทธเร่งชี้แจงสังคม
นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ พุทธะอิสระ ผู้ก่อตั้งวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม โพสต์เฟซบุ๊กว่า โอ้ย...ตายแล้ว เป็นถึงระดับพระราชาคณะชั้นสมเด็จและชั้นหน กลับถูกขึ้นแบล็คลิสต์ ห้ามเข้าพื้นที่สำคัญของประเทศ

