20 มิ.ย. 2566 – นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กมีเนื้อหาดังนี้
ผลประโยชน์ของประเทศ
วันนี้ขอพูดเรื่องการจัดประชุมอย่างไม่เป็นทางการเกี่ยวกับเมียนมา. ที่กระทรวงการต่างประเทศจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 มิถุนายน ที่ผ่านมา
การจัดประชุมอย่างไม่เป็นทางการคือ informal meetion เป็นการประชุมที่ไม่อยู่ในกรอบของอาเซียน และไทยได้เคยแจ้งอาเซียนทราบมาก่อนแล้วว่า ไทยจะจัดให้มีการประชุมที่เรียกว่า track 1.5 ไม่เปฺ็นทางการ. และไทยเคยจัดประชุมเช่นนี้มาก่อนหน้านี้สองครั้งแล้ว. และรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียก็เคยมาร่วมประชุมดังกล่าว
ไม่ได้เป็นการเริ่มนโยบายใหม่. แต่ทำเรื่องที่ริเริ่มไว้และค้างคาอยู่ให้เสร็จ. ปูทางให้รัฐบาลใหม่ได้เดินบนกลีบกุหลาบ ด้วยการเมืองระหว่างประเทศที่สร้างสรร ไม่เปฺ็นศัตรูกับใคร. และไม่ผลักมิตรเป็นศัตรู
การสู้รบในเมียนมาเริ่มรุนแรง มีผู้อพยพหนีภัยการสู้รบเข้ามาในไทยและอินเดียจำนวนมาก. มีการลักลอบส่งอาวุธให้กลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลเมียนมา. จนจะกลายเป็นการสร้างประชาธิปไตยบนซากศพของเพื่อนมนุษย์
หากการสู้รบขยายตัว. จะตามมาด้วยการปิดด่านชายแดนที่กระทบต่อการค้าตามแนวชายแดนของทั้งสองประเทศ. คนไทยต้องเดือดร้อนด้วย
ถ้ารัฐบาลใหม่ไม่ชอบแนวทางนี้. ไม่อยากผูกสัมพันธ์อย่างสร้างสรรกับเมียนมา อยากกดดัน. อยาก isolate เมียนมา อยากแซงชั่นเมียนมาอย่างที่ตะวันตกต้องการ. ก็เป็นการตัดสินใจของรัฐบาลใหม่
การจัดประชุมอย่างไม่เป็นทางการเช่นนี้ เป็นการประชุมที่ไม่มีประธานในการประชุม. ไม่มีวาระการประชุม ลักษณะการประชุมเป็นแบบฟรีสไตล์. ใครใคร่พูดอะไร. พูด. ใครใคร่ถาม ถาม ในบรรยากาศสบายๆ. ไม่มีโต๊ะประชุม. ไม่มีการกดดันกัน
การประชุมในครั้งนี้มีประเทศต่างๆส่งผู้แทนมาร่วมประชุม 9 ประเทศ. มีทูตพิเศษจากจีนและอินเดียมาร่วมในการประชุมด้วยในฐานะเพื่อนของเมียนมา Myanmar Friends
ยืนยันว่าการประชุมครั้งนี้ ไม่ใช่การประชุมในกรอบของอาเซียน.และไม่ใช่การจัดประชุมเพื่อตัดหน้าหรือชิงดีชิงเด่นกับใคร. เป็นความพยายามของไทยในการแสวงหาหนทางและโอกาสในการช่วยแก้ปัญหาของ
เมียนมาและดึงเมียนมาให้กลับมาสู่ครอบครัวอาเซียน. เป็นการแสวงหาทางออกทางการเมืองที่ต้องแยกออกจากการทหารและการสู้รบ
การประชุมในลักษณะนี้เป็นเสมือนความพยายามในการสร้างสะพานจากทั้งสองฝั่งแม่น้ำ. ต้องหาจุดร่วม จุดที่ตั้งของตอม่อสะพานจากทั้งสองฝั่งให้ตรงกัน. เพื่อสะพานจะสามารถบรรจบตรงกันได้กลางแม่น้ำโดยไม่คลาดเคลื่อน
ความพยายามของไทยในการผูกสัมพันธ์. Engagement คือ ทุกฝ่ายต้องได้มีโอกาสพูด. อธิบายข้อจำกัด ซึ่งจะเกิดความไว้วางใจ ความเชื่อใจ Trust.
และมีสัญญาณที่ดีมากจากการประชุมในครั้งนี้
ผมไม่เห็นด้วยกับแนวคิดในการกีดกันเมียนมาออกไปจากครอบครัวอาเซียน. ต้องไม่ชี้หน้าใครว่า.” มึงทำผิด ต้องทำอย่างกู. กูทำถูก” ต้องไม่สั่งให้ใครทำอะไร. เพราะทุกประเทศมีอธิปไตยของตนเอง ต้องไม่เอามาตรฐานของตัวเองไปตัดสินใคร มิเช่นนั้น ความขัดแย้งและสงครามจะไม่สื้นสุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ปานปรีย์' เก็บของ อำลาข้าราชการ กต. ยอมรับตกใจแห่กันมาแน่นกระทรวง
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร เดินทางเข้ากระทรวงการต่างประเทศ เพื่อ เก็บของในห้องทำงาน และ อำลาข้าราชการ
‘นันทิวัฒน์’ ชม ‘ปานปรีย์’ รักษาศักดิ์ศรี ‘รมว.ต่างประเทศ’ อย่างสมเกียรติ
ที่ผ่านมารัฐมนตรีต่างประเทศจะดำรงตำแหน่งรองนายกฯด้วย เพื่อเป็นการให้เกียรติให้ความสำคัญกับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ
สุ่มเสี่ยง! 'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' เตือนไม่ควรให้ผู้ใหญ่ลงพื้นที่สู้รบ หวั่นถูกตีความส่งสัญญาณผิด
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กหัวข้อ สุ่มเสี่ยง มีเนื้อหาดังนี้
'นันทิวัฒน์' ตั้งข้อสังเกตรัฐบาลไม่ฟังแบงก์ชาติท้วงติงแจกเงินดิจิทัล คุกไว้ว่ากันทีหลัง
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า นี่หรือจะช่วยคนจน การท้วงติงของแบ๊งค์ชาติเรื่องเงินดิจิตอล
อดีตบิ๊กข่าวกรอง ชี้ 'บิ๊กทิน' กินยาผิด! ยันทหารไม่อยากยึดอำนาจถ้านักการเมืองไม่โกง
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart หัวข้อ
'เศรษฐา' บินด่วนแม่สอด เกาะติดสถานการณ์ชายแดนเมียนมา
"เศรษฐา" บินด่วนแม่สอด หลังประชุมครม. 23 เม.ย. ตรวจผลกระทบสถานการณ์เมียนมา แผนเผชิญเหตุ-ศก.ชายแดน