ร้อง ป.ป.ช. ฟันจริยธรรมร้ายแรง 'ส.ส.ก้าวไกล' ทำร้ายแฟนสาว

‘ศรีสุวรรณ’ ร้อง ป.ป.ช. สอบ ‘ส.ส.ก้าวไกล’ ทำร้ายร่างกายแฟนสาว ผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ ข้องใจพรรคต้นสังกัดย้อนแย้ง หาเสียงสังคมต้องเท่าเทียม

3 ก.ค. 2566 – เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนสอบสวนเอาผิด ส.ส. พรรคก้าวไกล ที่มีพฤติการณ์ทำร้ายร่างกายแฟนสาวจนมีการแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.บ่อวิน ชลบุรี อันถือเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก มีผู้เสียหายเพศหญิง อายุ 26 ปี ชาว กทม. ได้เข้าแจ้งความเอาผิด ส.ส.พรรคก้าวไกล กทม. ที่ สภ.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.66 ในข้อหาทำร้ายร่างกายและทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องร้ายแรง เป็นความอาญาแผ่นดิน แม้เรื่องที่เกิดขึ้น ส.ส. พรรคก้าวไกล ผู้ตกเป็นผู้ต้องหาจะโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวยอมรับผิดแล้ว แต่ก็มิได้ไปพบพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนตามที่นัดหมายแต่อย่างใดไม่ ทำให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์สร้างความเสื่อมเสียให้กับสถาบันการเมืองเป็นอย่างมาก

กรณีดังกล่าว เมื่อย้อนกลับไปดูประวัติของการหาเสียงของ ส.ส. รายดังกล่าวพบว่า เคยมีบทบาทในการรณรงค์การใช้ความรุนแรงต่อสตรีและส่งเสริมบทบาทของสตรี เพื่อสังคมที่คนเท่ากันมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาหาเสียงที่ผ่านมา แต่ทว่าเหตุที่ถูกแจ้งความกลับเป็นเรื่องย้อนแย้งโดยสิ้นเชิง และยังเพิกเฉยต่อการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามครรลองของกฎหมาย ซึ่งผู้แทนราษฎรพึงปฏิบัติให้รวดเร็วเป็นเยี่ยงอย่างที่ดีของสังคม แต่กลับประวิงเวลาออกไป อันชี้ให้เห็นถึงตัวตนและพรรคการเมืองต้นสังกัดที่โฆษณาชวนเชื่อทางนโยบายมาโดยตลอดว่า “สังคมต้องเท่าเทียมกัน”

การที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกระทำผิดกฎหมายเยี่ยงนี้ รัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดให้ ป.ป.ช.ทำหน้าที่ไต่สวนเอาผิดนักการเมืองเหล่านี้ได้ ซึ่งเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมฯ 2561 อันเป็นความผิดหลายข้อ อาทิ ต้องยึดมั่นหลักนิติธรรม และประพฤติตนอยู่ในกรอบศีลธรรมอันดีของประชาชน และต้องไม่กระทําการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่ง รวมทั้งไม่กระทําการอันมีลักษณะเป็นการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ จนเป็นเหตุทําให้ผู้ถูกกระทําได้รับความเดือดร้อนเสียหายหรือกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ เป็นต้น

อนึ่ง กรณีดังกล่าวเป็นความผิดเกี่ยวกับอาญาแผ่นดิน เป็นความผิดที่สำเร็จแล้ว ไม่สามารถยอมความได้ ความพยายามที่จะเกี๊ยะเซี๊ยะกัน เพื่อยุติเรื่อง โดยมีการแจ้งว่าผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความแล้วนั้น ผู้เสียหายอาจเข้าข่ายแจ้งความเท็จต่อเจ้าหนักงานตาม ปอ.137 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ด้วยเหตุดังกล่าวองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงจำต้องนำความมาร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการไต่สวนเอาผิดว่าการกระทำหรือพฤติกรรมของ ส.ส.รายดังกล่าวว่าเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ หากพบว่าเป็นการฝ่าฝืนให้รีบดำเนินการส่งเรื่องให้ศาลฎีกาพิจารณาลงโทษตามครรลองของกฎหมาย ป.ป.ช.ต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตั้งป้อมชน 'ระบอบทักษิณใหม่' ประเดิม 18 ธ.ค. บุก ป.ป.ช. หึ่งล็อบบี้หนักล้มคดีชั้น 14

วงหารือฝ่ายต้านรัฐบาล ตั้งป้อมชน 'ระบอบทักษิณใหม่' นำร่อง 18 ธ.ค. บุกตึก ป.ป.ช. หลังได้กลิ่นล็อบบี้หนัก 3 กรรมการฯ ล้มคดีชั้น 14

รวมพลังไทย “สู้ให้สุด หยุดการโกง” ในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย)

ฮอลล์ 7 อาคารศูนย์การประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี : 9 ธันวาคม 2567 - รัฐบาล ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงาน ป.ป.ท. องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน

ค้าน ‘VAT’15% ‘พิธา’ สอน ‘อิ๊งค์’ ต้องปฏิรูปภาษี

"พิธา" แนะรัฐบาลปฏิรูปภาษีทั้งระบบ ดีกว่าเจาะจงที่แวต ถามตัวเลข 15% มาจากไหนไม่เข้าใจ ด้านประธานหอการค้าขอนแก่นระบุการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มควรขึ้นไม่เกิน 10%

'พิธา' แนะรัฐบาลปฏิรูปภาษีทั้งระบบ มากกว่าปรับขึ้น VAT 15% สงสัยอยู่ดีๆก็โพล่งมา

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวรัฐบาลมีแนวคิดขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 15% ว่า ภาษีในประเทศ มีทั้งภาษีทางตรง