รัฐบาลหนุนท่องเที่ยวแบบมูเตลูแต่เตือนใช้วิจารณญาณก่อนเชื่อบูชา!

'ไตรศุลี' เผยรัฐบาลหนุนการท่องเที่ยวเชิงศรัทธาและวัฒนธรรมอันดีงาม ขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณก่อนเชื่อหรือบูชายกสิ่งใดเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีสติไม่ลุ่มหลงป้องกันการถูกหลอกลวง

17 ส.ค.2566 - น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ปรากฎว่าการท่องเที่ยวเชิงความเชื่อ ความศรัทธา หรือที่นิยมเรียกว่าเที่ยวแบบมูเตลู ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในระยะหลายปีที่ผ่านมา แนวโน้มดังกล่าวได้สนับสนุนท่องเที่ยวโดยเฉพาะในท้องถิ่น ชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศมีความคึกคักสร้างโอกาสในการหารายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ ที่พัก อาหาร บริการนำเที่ยว การขายของที่ระลึกต่างๆ ซึ่งด้วยกระแสการให้ความสนใจจากทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ได้ทำให้มีการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว หรือสิ่งศักดิ์สิทธิใหม่ๆ ที่บางสิ่งที่มีการแนะนำจากบุคคลที่มีชื่อเสียง สื่อสังคมออนไลน์มีการโพสต์ภาพ ส่งต่อภาพจนเกิดกระแส มีการชักชวนประชาชนนักท่องเที่ยวไปกราบไหว้นับถือ แต่ได้มีการตั้งข้อสงสัย ข้อคำถามจากนักวิชาการ ผู้มีความรู้ทางประวัติศาสตร์วัฒนธรรมไทยถึงที่มาที่ไปของการเกิดขึ้น กรณีเช่นนี้ขอให้ประชาชนใช้วิจารณาญาณ ศึกษาความเป็นมาก่อนเชื่อและนับถือ ศรัทธาและกราบไหว้ พิจารณารอบด้านว่ากรณีที่กำลังมีการเชิญชวนนั้นเข้าลักษณะทำการตลาด หรือมีธุรกิจแอบแฝงหรือไม่

“เกี่ยวกับความเชื่อหรือเลือกนับถือศรัทธาสิ่งใดนั้นถือเป็นสิทธิของประชาชนทุกท่าน ประเทศไทยเราไม่มีกฎหมายห้ามตราบเท่าที่ไม่มีการกระทำที่เกินขอบเขตกฎหมาย เช่น การหลอกลวง ฉ้อโกงต่างๆ แต่ในกรณีสิ่งใดที่เกิดเป็นกระแสใหม่ๆ ในสื่อโซเชียลมีเดียนั้นอยากขอให้ประชาชนพิจารณาถึงประวัติความเป็นมา ความน่าเชื่อถือ วัฒนธรรมอันดีงามของไทย การไม่เบียดเบียนชีวิตอื่น หรือหากเชื่อในสิ่งใดของให้เชื่ออย่างมีสติ ไม่ลุ่มหลงจนอาจตกเป็นเหยื่อและถูกหลอกลวงจากผู้ไม่ประสงค์ดีได้”น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การท่องเที่ยวแบบมูเตลู ซึ่งจะมีลักษณะเป็นการท่องเที่ยวเพื่อขอพร, บนบาน, ชมสถานที่สำคัญ, สิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมไปถึงการบูชาเครื่องรางของขลัง ถือเป็น Soft Power ที่หลายประเทศใช้ในการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและเผยแพร่วัฒนธรรม ในส่วนของไทยเองก็มีศักยภาพเนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีประวัติความเป็นมาเชิงประวัติศาสตร์ที่ยาวนานอยู่จำนวนมาก

กระทรวงพาณิชย์เคยเก็บรวบรวมข้อมูล ณ ปี 2562 พบว่าในประเทศไทยเฉพาะการแสวงบุญนั้นสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากถึง 10,800 ล้านบาท คิดเป็น 0.36% ต่อมูลค่าการท่องเที่ยวโดยรวมของประเทศ ซึ่งด้วยกระแสที่การท่องเที่ยวลักษณะนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นในขณะนี้ทำให้คาดว่ามูลค่าดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นมากพอสมควร ส่วนข้อมูลระดับโลกจากรายงานของ Future Markets Insight ระบุว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจของการท่องเที่ยวเชิงศรัทราของทุกประเทศทั่วโลก ณ ปี 2565 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.37 หมื่นล้านดอลลาร์ และคาดการณ์จะเพิ่มขึ้นถึง 4.09 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2576 ซึ่งเพิ่มสูงขึ้น 3 เท่าตัวภายในระยะเวลา 10 ปี

โดยที่ผ่านมารัฐบาลจะให้การสนับสนุนการท่องเที่ยวแบบมูเตลู ซึ่งหน่วยงานเกี่ยวข้องเช่นการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ร่วมงานกับท้องถิ่นจัดกิจกรรมเพื่อแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไปในแต่ละพื้นที่ แต่ทั้งหมดให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้รู้จักวัฒนธรรมอันดีงามในแต่ละท้องถิ่น แต่ไม่สนับสนุนให้เกิดความเชื่องมงาย ดูแลให้มีความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจกับผลกระทบที่อาจเกิดจากการบิดเบือนให้เกิดความเข้าใจผิด จนเป็นความลุ่มหลง และเปิดโอกาสให้เกิดการหลอกลวงจากผู้ไม่ประสงค์ดี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ท่าแร่สว่างทั้งเมือง เปิดยิ่งใหญ่ “เทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส” ขบวนแห่คึกคัก–โดรนโชว์สุดตระการตา ดึงนักท่องเที่ยวคับคั่ง ยกระดับประเพณีศรัทธาสู่ Signature Thailand Event

ค่ำคืนวันที่ 23 ธันวาคม 2568 เทศบาลตำบลท่าแร่ จังหวัดสกลนคร จัดพิธีเปิดงาน “เทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส ท่าแร่ จังหวัดสกลนคร ประจำปี ค.ศ. 2025” โดยนายชูวิทย์ ศิริเวชกุล รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เดินหน้านโยบาย Quick Big Win เต็มสูบ เสริมแกร่งผู้ประกอบการ SMEs และเพิ่มมูลค่าสินค้าไทย เตรียมจัดใหญ่…แฟรนไชส์ Roadshow 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เตรียมจัดงานแฟรนไชส์ Roadshow 4 ภูมิภาค 4 จังหวัด ทั่วประเทศ ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต และอุดรธานี ยกระดับธุรกิจแฟรนไชส์ไทยสู่การเติบโตเชิงรุก พร้อมสร้างโอกาสให้ประชาชนในภูมิภาคเป็นเจ้าของธุรกิจอย่างเป็นระบบ ช่วยงสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้