
3 ก.ย.2566-นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “ใจ!!” โดยระบุว่า เมื่อทักษิณ ชินวัตร ได้รับการลดโทษเหลือติดคุก 1 ปีแล้ว ย่อมเข้าเงื่อนไขได้รับพิจารณาให้พักโทษได้โดยทันที ทักษิณ ได้ลดโทษจาก 8 ปี เหลือติดคุก 1 ปี มาเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นกลาง ถ้าในปีนี้มีการอภัยโทษอีกครั้ง จะเข้าข่ายได้รับการพ้นโทษโดยอัตโนมัติ เพราะเหลือโทษติดคุกต่ำกว่า 1 ปี เข้าตามหลักเกณฑ์พิจารณาให้พักโทษได้ อีกทั้งเมื่อการพักโทษของทักษิณและขณะนี้เข้าเงื่อนไขแล้ว คงไม่มีคณะกรรมการพักโทษคนใดจะมีความเห็นคัดค้านเป็นอย่างอื่น อีกทั้งไม่ต้องเป็นภาระต่อรัฐบาลใหม่ด้วย ดังนั้น วันจันทร์ (5 ก.ย.) ที่จะถึงนี้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังทำน้าที่อยู่ ก็ควรทบทวนความคิด แล้วเสนอปล่อยตัวให้ทักษิณ ได้รับสิทธิ์พักโทษได้เลยจะดีกว่า
“ถ้าการติดโทษอยู่โรงพยาบาลเหมือนการติดคุกแล้ว รัฐบาลควรพักโทษให้ทักษิณ ได้กลับบ้านจะดีกว่า อีกอย่างประชาชนไม่ต้องมาติดใจเรื่องนี้กันอีกว่า ป่วยจริงหรือไม่จริง เมื่อมาถึงไหนกันแล้ว ประชาชนจะไม่ต้องจับตาเฝ้าดูว่า เป็นนักโทษอภิสิทธิ์หรือไม่ ซึ่งจะได้จบเรื่องนี้กัน จะได้ไปคิดเรื่องชาติบ้านเมืองอย่างอื่นกันต่อ”
นายจตุพร กล่าวว่า รัฐบาลชุดใหม่จะแถลงนโยบายวันที่ 11 ก.ย.นี้ สิ่งสำคัญต้องจับตากรณีของนายเศรษฐา จะถูกร้องเรียน ตรวจสอบด้านมาตรฐานจริยธรรมทางการเมืองเป็นอย่างยิ่ง โดยมีกรณีตัวอย่างของนางปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ถูกตัดสิทธิ์การเมืองตลอดชีวิต ทั้งที่ได้รับช่วงถือครองที่ดินมา และไม่ได้เป็นผู้บุกเบิกถือครองที่ดินในป่าสงวนมาก่อนเลย จึงสะท้อนถึงจริยธรรมทางการเมืองมีมาตรฐานสูงและมีโทษรุนแรง กว้างขวางต่อนักการเมือง
ส่วนการแถลงนโยบายของรัฐบาลคงไม่น่าสำคัญเท่าใดนัก เพราะเป็นเพียงองค์ประกอบทำให้ครบเงื่อนไขตาม รธน.เพื่อรัฐบาลจะได้ทำหน้าที่ สิ่งต้องติดตามจึงอยู่ที่การทำหน้าที่ของฝ่ายค้านทั้งพรรคก้าวไกล ประชาธิปัตย์ ไทยสร้างไทย และพรรคเป็นธรรม จะมีประสิทธิภาพแค่ไหน อีกทั้งข้อมูลของนายเศรษฐา ก่อนมาเป็นนายกฯ นั้น นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จัดส่งให้ สส.และ สว.ครบทั้ง 750 คน ดังนั้น หลังจากรัฐบาลแถลงนโยบายแล้ว ฝ่ายค้านและ สว.คงถือเป็นวันเริ่มนับหนึ่งตรวจสอบนายเศรษฐาและอาจสั่นคลอนรัฐบาลจนเสถียรภาพส่ออาการอ่อนแอให้เห็นได้
“สิ่งสำคัญ นักการเมืองที่เสียสัตย์ (กับประชาชน) ไม่ทำในสิ่งที่พูดไว้ แล้วเข้ามาเป็นรัฐบาล ยังจะมีหน้าไปถวายสัตย์กับพระเจ้าแผ่นดินอีกเหรอ แต่การเมืองที่ไร้ยางอายพันธุ์แบบนี้ อะไรก็เกิดขึ้นมาได้”
นายจตุพร เชื่อว่า พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลและไม่คุมงานด้านเศรษฐกิจเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนนั้น ย่อมเป็นการส่งเสริมให้พรรคก้าวไกลได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นโดยทันที รวมทั้งโพลนิด้าสะท้อนชัดเจนว่า มีประชาชนนิยมก้าวไกลมากกว่า 62% ยิ่งเมื่อเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีด้วยแล้ว คงเขย่ารัฐบาลนายเศรษฐา ต้องสะดุดและส่อแนวโน้มหลุดพ้นกันทั้งยวงได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อิ๊งค์' โพสต์ภาพคู่ 'ทักษิณ' สุขสันต์วันพ่อ อดทนไว้ เราจะได้ไปเที่ยวรอบโลกด้วยกัน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
'ทักษิณ' ร่วมเวที 'เสก โลโซ' ร้องเพลงใจสั่งมา ในเรือนจำกลางคลองเปรม
"ทักษิณ" ขึ้นเวทีเรือนจำฯ ควงไมโครโฟนร้องเพลง "ใจสั่งมา" บรรยากาศอบอุ่นมวลความสุข เพื่อนผู้ต้องขังกว่า 1,000 คน ต่างลุกโชว์สเต็ปแด๊นซ์
เพจดังงัดภาพใหม่กว่า ตบหน้าแฟนคลับพรรคแดง ขว้างงูไม่พ้นคอ ทักษิณก็รู้จัก 'เบน สมิธ'
จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังปรากฏภาพนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมเฟรมกับบุคคลระดับสูงในแวดวงการเมืองไทย ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง


