'จตุพร' ฟาดจริยธรรมเข้มข้น บังคับใช้เท่าเทียม สส.ถูกเชือดหมดสภา 'เศรษฐา' ระทึก!

'จตุพร' ฟาดมาตรฐานจริยธรรม ถ้าใช้เข้มข้นเสมอหน้า เชื่อ สส.ถูกสอบย้อนหลังจนหมดสภา คงไม่มีใครเหลือรอด เท่ากับปฎิรูปการเมือง ตำรวจ ทหาร ได้ผลเป็นที่ประจักษ์ คาดนายกฯ คงหวั่นคำพิพากษาศาลฎีกา เชือด'ช่อ' ระทึก ลับดาบรอคิวถูกประหารอีกไม่นาน

22 ก.ย.2566 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "ฟาด!!" ว่า หากมีการบังคับใช้มาตรฐานทางจริยธรรมอย่างเข้มข้นและเสมอหน้าเท่าเทียมกันแล้ว ประเทศไทยคงไม่เรียกร้องการปฏิรูปการเมืองและข้าราชการตำรวจ-ทหาร เลย เพราะทุกคนจะเหลือรอดมีน้อยมาก หรืออาจไม่เหลือใครสักคนด้วยซ้ำไป

นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าเอามาตรฐานจริยธรรมกรณีคำพิพากษาศาลฎีกาถอนสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตกับช่อ-พรรณิการ์ วานิช อดีต สส.อนาคตใหม่ ซึ่งถูกตัดสิทธิ์การเมือง 10 ปีมาแล้ว มาวัดอย่างเสมอกันกับนักการเมืองทุกคนแล้ว คงไม่เหลือ สส.ในสภาชุดนี้สักคน

อีกอย่าง หากย้อนตรวจสอบจริยธรรมกับข้าราชการอื่นๆ ทั้งตำรวจ ทหาร คงไม่เหลือใครอีกเลยเช่นกัน ดังนั้น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ อาจต้องหวั่นระทึก กับการลงโทษไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจรยิธรรมร้ายแรง เพราะกรณีที่เกิดกับช่อ ราวกับเป็นการส่งสัญญาณลับดาบไว้รอเชือด

“คิดว่า เขารอประหารรายที่ใหญ่กว่า เพราะหลากหลายเรื่องราวเข้าข่ายไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรงทั้งสิ้น เช่นสะพานข้ามพระโขนง กระทั่งเรื่องที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ พูดมาทั้งสามตอน ถ้าเอามาตรวัดทางริยธรรมแล้วจะรอดได้หรือเปล่า”

นายจตุพร เห็นว่า ในอนาคตถ้าใครจะมาทำหน้าที่ทางการเมืองแล้ว ต้องมีความใสสะอาดตั้งแต่เกิด หากมีการกระทำย้อนหลังที่ขัดกับมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง ซึ่งเป็นคำกว้างๆ และยังย้อนกลับไปตรวจสอบเอาผิดได้ไกลถึงตั้งแต่เกิด จึงต้องเตรียมตัวมาเป็นนักการเมืองให้สะอาดผุดผ่อง ไร้รอยมลทินมาตั้งแต่เกิดกันเลย

“มาตรฐานที่ใหญ่กว่าจริยธรรม ก็คือความเสมอภาคทางจริยธรรม ถ้าขีดเส้นใช้กันอย่างเที่ยงตรงเสมอเหมือนกันแล้ว ประเทศนี้จะเปลี่ยนใหม่ เพราะถ้านำทุกคนเข้าเครื่องตรวจจับด้วยมาตรฐานจริยธรรมแล้ว จะเกิดการปฏิรูปโดยปริยายทันที ถึงขั้นที่ประเทศจะได้รับการชำระสะสางกันเลย”

นายจตุพร กล่าวถึงนายเศรษฐา สั่งห้าม รมต.นำการประชุม ครม.มาเปิดเผยนอกห้องประชุมว่า การประชุม ครม.ควรเป็นการเปิดมากกว่าจะปิดลับ และยิ่งวาระปกติทั่วไปต้องมีการถ่ายทอดการประชุมให้ประชาชนได้รับรู้ยิ่งเป็นสิ่งที่ดีด้วยซ้ำไป โดยยกเว้นวาระลับที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง

"นอกจากห้าม รมต.นำการประชุม ครม.มาพูดแล้ว ก็ต้องถ่ายทอดให้ประชาชนได้เห็นและได้รับฟัง เพราะการใช้จ่ายภาษีของประชนแล้ว ประชาชนต้องการรู้ว่ารัฐบาลได้ใช้ตรงกับ พรบ.งบประมาณรายจ่ายหรือไม่” พร้อมทั้งย้ำว่า ยิ่งเปิดเผย ยิ่งโปร่งใส และทำให้เกิดภูมิต้านทานกับรัฐบาลเองด้วย

นายจตุพร กล่าวว่า ยิ่งห้ามพร้อมมีมาตรการลงโทษด้วยแล้ว ประชาชนยิ่งสงสัย ดังนั้น จึงต้องมีการพิสูจน์ให้เห็น เช่น เหมาลำเครื่องบินไปประชุมสหรัฐ แล้วลูกและคนใกล้ชิดจะจ่ายเงินเองได้อย่างไร เพราะเครื่องบินถูกเหมาลำแล้ว มาบอกจ่ายเงินเอง คนยิ่งสงสัยไปกันใหญ่

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง

เอาแล้ว 'จตุพร' เตือน นายกฯหนู แบ่งแยกเยียวยาศพน้ำท่วม 2 ล้าน ระวังทำรัฐบาลพัง

'จตุพร' เตือน นายกฯหนู แบ่งแยกเยียวยาศพน้ำท่วม 2 ล้านระวังทำรัฐบาลพัง แนะน้ำท่วมใต้จากพายุชื่อเหมือนกันต้องเป็นธรรม ชดเชยเท่ากัน อย่าคิดแบบเขลาๆ แถเอาแต่สถานการณ์ฉุกเฉินมาอ้าง จะเกิดเหตุไม่พอใจ ลุกลามไปกันใหญ่

'จตุพร' แนะ แก้รธน.ต้องกินทีละคำอย่าเหลี่ยมคูกินทีละกะละมัง สุ่มเสี่ยงถูกคว่ำล้มครืนลง

'จตุพร' แนะการเมืองยึดมติ กมธ. ปมผ่านแก้ รธน.วาระสอง เตือนอย่าชิงเหลี่ยมคู ขอให้กินทีละคำอย่าโลภอยากกินทีละกะละมัง หวั่นถูกคว่ำจบเห่ ย้ำฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ลงมติ ม.152 ดีกว่าซักฟอก 151 ชี้เวลาเหมาะอภิปรายช่วงสัปดาห์สุดท้าย มกรา 69 พูดเสร็จได้ยุบสภาเลย

อดีตแกนนำคนเสื้อแดง ย้อนชะตากรรม 'ทักษิณ' ทวนย้ำชัดๆ ถูกกลั่นแกล้ง หรือ สารภาพผิดเอง

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน"ชัด ชัด!" โดยกล่าวถึงชะตากรรมทักษิณ ชินวัตร เกือบ 20 ปีตั้งแต่ถูกยึดอำนาจเมื่อปี 2549 กระทั่งได้กลับไทย 22 ส.ค. 2566

'จตุพร' ซัดเพื่อไทยเขียนด้วยมือลบด้วยเท้า แต่ได้ประโยชน์จากชีวิตคนเสื้อแดง

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน เมื่อคืนวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกฯ ปมสลายการชุมนุมของ นปช.ปี 53