พิโธ่! ก้าวไกลตั้งคณะทำงานป้องกันความรุนแรงทางเพศแต่ไม่พูดถึง สส.หื่น

'ก้าวไกล' ตั้งคณะทำงานพิเศษป้องกัน-แก้ไขปัญหาความรุนแรงทางเพศ ชู 'เบญจา' นั่งเป็นประธาน หวังยกระดับมาตรฐานการทำงาน

18 ต.ค. 2566 - น.ส.เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เปิดเผยว่า พรรคก้าวไกลได้จัดตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงทางเพศ เพื่อยกระดับความเข้าใจเกี่ยวกับการรับมือและการป้องกันปัญหาการคุกคามและความรุนแรงทางเพศ ให้ทุกองคาพยพของพรรค มีความเข้าใจที่เท่าเทียมกัน สอดคล้องกับคุณค่าหลัก (Core Value) ของพรรคที่ยึดถือในเรื่องความเสมอภาคทางเพศ ต่อต้านการคุกคามและยุติความรุนแรงทางเพศเพื่อให้สอดคล้องกับพลวัตของสังคม

โดยคณะทำงานพิเศษชุดนี้ ประกอบด้วยคนในพรรคและคนนอกที่มีความรู้ มีทักษะ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ มาทำงานร่วมกัน โดยมีตนเองเป็นประธาน สำหรับองค์ประกอบเบื้องต้น ได้แก่ 1.นักวิชาการ 2.สหวิชาชีพ เช่น นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ ที่จะช่วยยกระดับความเข้าใจด้านการช่วยเหลือผู้ที่ถูกคุกคามหรือถูกกระทำความรุนแรงทางเพศ ให้กล้าออกมาเรียกร้อง เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นแนวทางให้พรรคในอนาคต ว่าหากเผชิญสถานการณ์เช่นนี้ จะเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ถูกกระทำอย่างไร 3.ประธานคณะกรรมการวินัยของพรรค 4.ตัวแทนทีมนโยบายของพรรค 5.ฝ่ายจัดการอบรมของพรรค โดยในอนาคตอาจมีการร่วมออกแบบคู่มือ (Guidebook) สื่อประชาสัมพันธ์ เพื่อเผยแพร่แก่บุคลากรฝ่ายต่างๆ และ 6.ตัวแทนจากฝ่ายเครือข่ายของพรรค เพื่อให้สามารถนำเรื่องนี้ไปทำงานในระดับพื้นที่ด้วย

น.ส.เบญจา กล่าวต่อว่า จากการหารือในที่ประชุม สส. เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ทุกคนต่างเห็นพ้องกันว่าเรื่องการแก้ไข ป้องกันปัญหาการคุกคาม และความรุนแรงทางเพศ เป็นวาระสำคัญเร่งด่วนที่พรรคต้องดำเนินการ รวมถึงเป็นวาระของสังคมที่ทุกพรรคการเมืองต้องร่วมกันผลักดันและถูกตรวจสอบ โดยหลังจากนี้อีก 1 สัปดาห์ จะออกแบบการทำงานและผลลัพธ์ที่คาดหวังจากคณะทำงานพิเศษฯ เพื่อเสนอต่อกรรมการบริหารพรรคต่อไป

น.ส.เบญจา กล่าวด้วยว่า สิ่งที่คาดหวังจากการมีคณะทำงานพิเศษนี้ ไม่ได้ต้องการเพื่อยกว่าพรรคก้าวไกลมีมาตรฐานเรื่องนี้สูงส่งกว่าคนอื่น แต่เพื่อยกระดับการทำงานของพรรค ด้านการรับมือและป้องกันปัญหาจากการคุกคามและความรุนแรงทางเพศ ให้สอดคล้องกับพลวัตของสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย สร้างกระบวนการบนพื้นฐานของความเข้าใจที่ตรงกัน ส่งเสริมความเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่ทำให้เกิดการละเมิดเสรีภาพทางเพศตามมา โดยคณะทำงานพิเศษฯ จะจัดทำข้อเสนอต่อพรรคถึงแนวทางในปรับโครงสร้าง กระบวนการ และมาตรการต่างๆ เช่น การทบทวนองค์ประกอบและสัดส่วนกรรมการวินัย การทบทวนกระบวนการในการรับเรื่องร้องเรียนและดำเนินการ การสร้างความตระหนักรู้เรื่องความเท่าเทียมทางเพศแก่บุคลากร การสร้างสถานที่ทำงานที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน เพื่อแก้ไขป้องกันปัญหาการคุกคามและความรุนแรงทางเพศ ส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ ให้สมกับที่ประชาชนคาดหวัง

น.ส.เบญจา กล่าวทิ้งท้ายว่า ในระยะยาวหวังว่าหากทำได้สำเร็จ จะไม่ได้เป็นเพียงการยกระดับการยุติความรุนแรงทางเพศภายในพรรคเท่านั้น แต่จะเป็นจุดเริ่มต้นในการยกระดับการเมือง ยกระดับมาตรฐานสังคมไทยในภาพรวมไปพร้อมกัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เท้ง' ไม่ตอบเสียงส้มไหลช่วย 'ภท.' ไล่ 'พท.' ปรับปรุงตัวแพ้เลือกตั้งซ่อม

'หัวหน้าเท้ง' ปัดตอบ คะแนนพรรคส้มไหลช่วย 'ภูมิใจไทย' ทำชนะเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ ย้อน 'เพื่อไทย' ประเมินปรับปรุงตัวเอง

เดือด! รังสิมันต์ซัดเพื่อไทยพรรคไร้กระดูกสันหลัง

'รังสิมันต์' จวก 'เพื่อไทย' ไร้กระดูกสันหลัง ไม่ควรเรียกตนเองเป็นตัวแทนนักสู้ประชาธิปไตย ละเลยผู้เห็นต่างให้ติดคุกต่อ ขอบคุณ '6 สส.' โหวตหนุนร่างนิรโทษกรรม 'ภาคประชาชน-ก้าวไกล' ยังพอยกมือไหว้ได้

ดันทุรัง! ณัฐพงษ์ฟุ้งเปิดประตูนิรโทษกรรมให้กว้างที่สุดในชั้นกรรมาธิการ

'ณัฐพงษ์'​ เผย 'ปชน.' พร้อมทำหน้าที่อย่างมีวุฒิภาวะในชั้น กมธ. แม้ ฉบับภาคประชาชน-ก้าวไกล ถูกตีตก บอกจะไม่ละทิ้งความหวัง ใช้กลไกเปิดประตูนิรโทษให้กว้างที่สุด

'ปิยบุตร' โหยอดีต! รีรันคำปราศรัยเลือกตั้งปี 66 เสียงระฆังแห่งการเปลี่ยนแปลงดังอุโฆษอยู่หน้าประตูบ้านทุกท่านแล้ว

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า นำคำปราศรัยการเลือกตั้งส.ส.ปี 2566 กลับมาโพสต์อีกครั้ง โดยระบุว่า[ครบรอบ 2 ปี ก

'โรม' ข้องใจปม ป.ป.ช. ล็อกเป้าเชือด 12 สส.พรรคประชาชน

'รังสิมันต์' ตั้งข้อสังเกตจงใจหรือไม่ หลัง ป.ป.ช. จัดกลุ่ม 44 สส.ตัวตึงพรรคสีส้ม จ่อถูกสอยคดีแก้ 112 ลั่นเกลียดพวกเราได้ แต่ทำแบบนี้ประเทศได้อะไร หากฝ่ายค้านอ่อนแอ ข้องใจพวกสมคบคิด-เคลียร์คดีกัน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ กลับไม่ได้รับการแก้ไข

‘พิธา’ ชี้ 5 ปี สิ่งที่ไม่เปลี่ยน คือพยายามทำลายทางเลือก ปชช. มั่นใจพลังประชาธิปไตยไม่ถูกยุบตามพรรค

พิธา ระบุ5 ปีผ่านไป สิ่งที่เปลี่ยนคือบริบท สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคือความพยายามทำลายทางเลือกของประชาชน แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อมั่นเสมอ—พลังของประชาธิปไตยไม่ได้ถูกยุบไปพร้อมกับพรรค