
28 พ.ย.2566- ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า ตอนลุงตู่อยู่เศรษฐกิจไม่ได้วิกฤต ไม่ได้ดำดิ่งลงเหว แต่เพื่อไทยตอนเป็นฝ่ายค้าน ก็หาว่าลุงตู่เป็นแค่ รปภ. บริหารเศรษฐกิจไม่ได้
ตอนหาเสียงเลือกตั้งก็บอกว่าพรรคตัวเองคิดใหญ่ทำเป็นจะมากอบกู้เศรษฐกิจของประเทศ แล้วตอนนี้เป็นไง
อ้างวิกฤตเศรษฐกิจ เพื่อจะกู้เงินมาแจกเป็นเงินดิจิทัล ใครท้วงติงเท่าไหร่ ยังไงก็ไม่ฟัง ดันทุรังจะแจก
การบอกว่าเศรษฐกิจไทยมีวิกฤต แล้วจะชวนใครมาลงทุนได้ล่ะ ใครที่ไหนใครจะอยากมาลงทุนในประเทศที่มีวิกฤตเศรษฐกิจ
ถ้าหากประเทศจะมีวิกฤตเศรษฐกิจ คงไม่ใช่สมัยลุงตู่ แต่เป็นสมัยนี้นี่แหละ หุ้นร่วง ขายของไม่ได้ นักท่องเที่ยวจีนหดหาย
คิดเอาเถิดว่าใครหาเงินได้ ใช้เงินเป็น และใครที่หาเงินไม่ได้ ใช้เงินเปลือง ทำเศรษฐกิจประเทศตกต่ำ ดำดิ่งในขณะนี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความจริงเทียมทำร้ายสังคม
การสื่อสารของสื่อสารมวลชนที่ทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าประตูข่าว เลือกข่าวที่จะนำเสนอ และปิดข่าวที่ไม่ต้องการเสนอ ทำให้สังคมรับรู้ความจริงเทียม (Pseudo-reality)
เมื่อผู้ใหญ่จัญไรอัปรีย์...จะมีอะไรดีให้ลูกหลาน
ลองวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองของไทยเราขณะนี้ เราก็จะเห็นว่าประเทศไทยเรากำลังตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ เพราะมีผู้ใหญ่เห็นแก่ตัว ทำตัวชั่วช้าสามานย์
ศิลปาชีพ...ส่งเสริมอาชีพของปวงชน สร้างเศรษฐกิจด้วยคุณค่าแห่งวัฒนธรรม
โครงการศิลปาชีพภายใต้พระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ส่งผลดีอย่างกว้างขวาง
แม้เสด็จสู่สวรรคาลัย น้ำพระทัยสถิตในใจชนจนนิรันดร์
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีโครงการในพระราชดำริมากกว่า 4,000 โครงการ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ขอความร่วมมือไม่ได้แปลว่า ‘บังคับ’
ไม่อยากจะเชื่อว่าในประเทศไทยที่เจริญพัฒนามาถึงจุดนี้ได้ด้วยพระปรีชาสามารถ พระวิสัยทัศน์ พระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจที่ยังประโยชน์ให้แก่ความผาสุกของปวงชน
คุณหนูลาออกไป...เพื่อไทยก็ไม่ฟื้น
คุณหนูหนอคุณหนู น่าจะลาออกไปตั้งแต่ Uncle ปล่อยคลิปแล้ว เพราะเนื้อหาในการสนทนานั้นมันชัดเจนว่าคุณหนูกับ Uncle เป็นพวกเดียวกัน และคุณหนูที่เป็นฝ่ายรัฐบาลอยู่ตรงกันข้ามกับทหาร


