'ส.ศิวรักษ์' หนุน 'นักการเมืองดี' แม้มีน้อยยังคงแพ้ไฟ สร้างรัฐสภาที่มีศักดิ์ศรี

“ชวน” ปาฐกถา ย้ำ ‘คนดี-รัฐธรรมนูญดี’ ต้องควบคู่กัน ด้าน ส.ศิวรักษ์ ขอให้นักการเมืองดี แม้มีน้อยยังคงแพ้ไฟ สร้างรัฐสภาที่มีศักดิ์ศรี เป็นรัฐบาลของปชช.อย่างแท้จริง

10 ธ.ค.2566 – ที่รัฐสภา ในการปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ ‘ความสำคัญของวันรัฐธรรมนูญ’ โดยนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตประธานรัฐสภา 

โดยนายชวน กล่าวกล่าวย้อนถึงบทบาทสำคัญของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ที่มีต่อเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิ.ย. 2475 ว่า ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการถือกำเนิดรัฐธรามนูญฉบับแรก และได้มีการกล่าวถึงคำปรารภ ที่ระบุอยู่ใน พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว 2475 เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญว่า ภายหลังจากการอภิวัฒน์สยาม ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองอันนำไปสู่ระบอบประชาธิปไตยอันแท้จริง ผ่านรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุด ที่เป็นตัวกำหนดโครงสร้างต่างๆ ทางสังคม 

“ในมาตรา 2 ระบุว่า อำนาจอธิปไตยย่อมมาจากปวงชนชาวสยาม  พระมหากษัตริย์ย่อมใช้อำนาจภายใต้บทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ตัวนี้แหละครับที่เป็นบทบัญญัติในมาตรา 3 ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับ โดยพระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจผ่าน นิติบัญติ บริหาร และตุลาการ ผ่านทางสถาบัน รัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล การที่เราเขียนรัฐธรรมนูญในปี 2475 อำนาจอธิปไตยย่อมมาจากปวงชนชาวสยาม ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราคิดว่า เรายอมรับว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน เพียงแต่ระบอบที่มีพระมหากษัตริย์เป็นปาะมุข เราถวายพระเกียรติให้พระมหากษัตริย์ ทรงใช้อำนาจผ่านสถาบันเหล่านี้” นายชวน ระบุ

นายชวน กล่าวถึงพัฒนาการของรัฐธรรมนูญฉบับสำคัญๆ ผ่านชีวิตการเป็นนักการเมืองของตนเอง ว่า บางฉบับก็ก้าวหน้าไปตามกาลเวลาที่เป็นสากลมากขึ้น และบางฉบับก็มีการสร้างขึ้นเพื่อรักษาไว้ซึ่งอำนาจของคณะรัฐประหาร รวมถึงการเปลี่ยนผ่านเนื้อในของรัฐธรรมนูญ ในหลายกรณี อาทิ การไม่ระบุถึงความจำเป็นว่ารัฐบาล การแถลงนโยบายจะต้อง ผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภา และการที่บัญญิติเพิ่มเติมในรัฐธรรมนูญ ถึงความจำเป็นที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งจำเป็นต้องมีสังกัดพรรคการเมือง เพื่อป้องการขายตัว หลักได้เป็น สส. แล้ว

นายชวน กล่าวทิ้งท้ายว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญที่จะเป็นประชาธิปไตย มีความสำคัญก็จริง แต่ขณะเดียวเหนือสิ่งอื่นใดคือ ต้องเป็นคนดี ดังนั้น ประเทศต้องการทั้งรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย  และต้องการการเมืองที่เป็นคนดี ที่ไม่ดีเฉพาะคำพูด อันนี้คือสิ่งที่หวังให้ประชาธิปไตยของประเทศเดินหน้าก้าวต่อไป เป็นที่พึ่งของประชาชน นำพาประเทศไปสู่ความสำเร็จ 

ขณะที่นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ ปัญญาชนสยาม ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ ‘ประวัติศาสตร์ของวันรัฐธรรมนูญ’ ถึงความสำคัญของวันที่ 10 ธ.ค. ในอีกฐานะซึ่งเป็นวันสิทธิมนุษยชนสากล ดังนั้น ประเทศที่มีการปกครองในรูปแบบเสรีนิยมประชาธิปไตย จึงมักเฉลิมฉลองกันทุกประเทศ รวมถึงยังเป็นวันรัฐธรรมนูญของไทย พร้อมกล่าวถึงความสำคัญของธรรมนูญการปกครองฯ นั้นถือได้ว่า เป็นการประกาศสิทธิมนุษยชน ให้ราษฎรสยามเป็นครั้งแรก โดยการร่างของนายปรีดี พนมยงค์ หัวหน้าคณะราษฎรฝ่ายพลเรือนขึ้น

“ในมาตรา 1 กำหนดไว้ว่า ‘อำนาจสูงสุดของประเทศเป็นของราษฎรทั้งหลาย’ ข้อความดังกล่าวปรากฏขึ้นครั้งแรกและครั้งเดียว ในประวัติศาสตร์ของรัฐธรรมนูญไทย รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นการประกาศสิทธิมนุษยชน สำหรับทุกคนในประเทศ มิใช่สงวนแค่กับราษฎรสยามเท่านั้น เพราะรัชกาลที่ 7 ลงพระปรมาภิไธยประกาศให้เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ” ส.ศิวลักษณ์ ระบุ

นอกจากนี้ ส.ศิวรักษ์ ทิ้งท้ายว่า บัดนี้เรามีประธานสภาที่ดำรงตำแหน่ง ในขณะที่อายุของนายปรีดี พนมยงค์ อายุครบศตวรรษ และมีสมาชิกรัฐสภาหลายคน ที่มีความกล้าหาญทางจริยธรรม หลายคนได้รับเลือกตั้งมาโดยไม่มีการซื้อเสียง พร้อมออกนโยบายที่น่าชื่นชม ซึ่งเอ่ยถึงรัฐสวัสดิการและประเด็นสิทธิมนุษยชน ตลอดจนเสรีภาพทั้งการพูดและการเขียน 

“แม้สมาชิกที่มีจุดยืนดังกล่าว ยังเป็นน้ำน้อย ที่แพ้ไฟอยู่ ก็หวังว่าน้ำนิ่งจะไหลลึก ให้ใช้สติวิจารณญาณประกอบสันติประชาธรรม ไปในที่สุดเราจะมีรัฐสภาที่แท้จริง ปราศจากวุฒิสมาชิกที่มาจากการแต่งตั้งจากเผด็จการ สส.ส่วนใหญ่จะไม่ซื้อเสียงและอุทิศตนเพื่อมนุษยธรรม และความยุติธรรมทางสังคม เพื่อสิทธิเสรีภาพ รับฟังความเห็นต่าง แล้วรัฐสภาแห่งนี้ก็จะมีศักดิ์ศรี มีรัฐบาลที่มาจากประชาชนจริงๆ ว่าที่กล่าวมาทั้งหมด จะประโยชน์กับท่านที่ตั้งใจจริง สามารถสร้างประเทศให้เป็นประชาธิปไตย และมีรัฐธรรมนูญอันมีเนื้อหาสาระที่เกี่ยวข้องกับเสรีภาพ ภราดรภาพ และความเสมอภาค อย่างแน่นอน” ส.ศิวรักษ์  ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'โรม' เขย่ารัฐบาล ทำประชามติ 2 ครั้ง ไม่เปลืองงบฯ ปชช.แบกรับความสูญเสีย

“รังสิมันต์’ มอง ทำประชามติ 2 ครั้งเพียงพอแล้ว เหตุทำ 3 ครั้ง เปลืองงบ-เสียเวลา เตือน หากทุกฝ่ายกลัวการตีความกฎหมาย คนแบกรับความสูญเสียคือ ปชช.  เรียกร้อง ‘วันนอร์’ รีบบรรจุวาระแก้รธน. เข้าสภาฯ

โฆษก ปชป. ยืนยันไม่จริง 'ชวน' หมดสิทธิลงสมัคร สส. มั่นใจ 'เฉลิมชัย' ไม่คิดเช่นนี้

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถีงกรณีที่มีบุคคลให้ข่าวว่า “ชวน หลีกภัย” อาจหมดสิทธิลงสมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ทั้งระบบเขต และบัญชีรายชื่อว่า

'ติ๊งต่าง' จี้ ปชป. แจงข่าวลือจะไม่ส่ง 'ชวน' สมัคร สส. ถ้าจริงต้องมีคำตอบให้สังคม

นางกาญจนี วัลยะเสวี หรือ “ติ๊งต่าง” เจ้าของฉายาไฮโซสปอร์ตคลับ และแกนนำกลุ่ม ชาวไทยหัวใจรักสงบ อดีตแม่ยกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า มีข่าวลือว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ส่งคุณชวนลงสมัครสส.เขต และไม่ให้เป็นสส.บัญชีรายชื่อ

ฝ่ายค้านกู้ศรัทธา? 'พิธา' บอกลาสภา

การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ระหว่างวันที่ 3-4 เม.ย.ที่ผ่านมา ถือเป็นเวทีของฝ่ายค้านนำโดยพรรคก้าวไกล และพรรคประชาธิปัตย์ ซ้อมใหญ่ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมสภาหน้าตามรัฐธรรมนูญ 151

'นิพิฏฐ์' ซัด ปชป.ตาขาวไม่ป้อง 'ชวน' โต้นายกฯเก็บค่าผ่านทาง 5 บาท 10 บาท

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตสส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊ก "ประเทศปกครองด้วยกฎหมาย มิใช่ปกครองโดยรัฐบาล" ระบุว่า ผมฟัง นายกเศรษฐา ปะทะคารม กับอดีตนายกชวน หลีกภัย ในสภาเมื่อวาน ก็เพียงคิดเล่นๆ