
'อ.หริรักษ์' เชื่อกนง.ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต้องมองในภาพรวมแล้ว จะมีผลบวกมากต่อเศรษฐกิจมากกว่าลดอัตราดอกเบี้ย เตือนนายกฯคิดรอบคอบ ปลดผู้ว่าฯธปท.จะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี
10 ม.ค. 2567 - รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า
นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน แสดงออกอย่างชัดแจ้งว่าไม่เห็นด้วย หรือจะเรียกว่าออกมาตำหนิก็คงไม่ผิด ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศขึ้นดอกเบี้ยนโบาย 0.25% โดยนายกรัฐมนตรีให้เหตุผลที่ไม่เห็นด้วยก็เพราะเป็นช่วงเวลาที่อัตราเงินเฟ้อกำลังติดลบ
ดอกเบี้ยนโยบายคือ อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกลางจ่ายให้กับธนาคารพาณิชย์ที่เอาเงินมาฝาก หรืออัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกลางเก็บจากธนาคารพาณิชย์ที่มากู้เงิน
ดอกเบี้ยนโยบายเป็นเครื่องมือทางการเงินของธนาคารกลาง หรือธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อใช้ในการดูแลสภาพเศรษฐกิจของประเทศ เช่นเดียวกันรัฐบาลมีหน้าที่ใช้เครื่องมือ หรือนโบายการคลัง นั่นคือการใช้จ่ายของรัฐบาล หรือใช้งบประมาณแผ่นดินดูแลสภาพเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งโดยหลักการ ทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน
คณะกรรมการนโยบายการเงินหรือ กนง เป็นคณะบุคคลที่มีหน้าที่กำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย มีผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นประธาน กรรมการประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารแห่งประเทศไทย 2 คน และผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก 4 คน รวมเป็น 7 คน
หากไปส่องดูประวัติการศึกษาและหน้าที่การงานของ กนง แต่ละคนแล้วจะพบว่าแต่ละคนมีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่เราจะมอบให้เป็นผู้ที่จะใช้เครื่องมือทางการเงินดูแลเศรษฐกิจของประเทศ ลองเปรียบคุณสมบัติกับผู้บริหารกระทรวงการคลังดูก็ได้ว่าใครมีคุณสมบัติเหมาะสมในหน้าที่มากกว่ากัน
คิดหรือว่ากนง จะไม่เข้าใจหลักเศรษฐศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ที่บอกว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะช่วยชะลออัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงเกินไป และการลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดังนั้น การที่กนง ตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อกำลังติดลบ แสดงว่ากนง ต้องเห็นแล้วว่า บวกลบคูณหารกัน หรือมองในภาพรวมแล้ว การขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในขณะนี้ จะมีผลบวกมากต่อเศรษฐกิจของประเทศ มากกว่าการลดอัตราดอกเบี้ย
ด้วยเหตุนี้ แทนที่จะรีบออกข่าวแสดงความไม่เห็นด้วย กระทั่งตำหนิธนาคารแห่งแห่งประเทศไทย จนเกิดข่าวลือสะพัดว่ารัฐบาลจะปลดผู้ว่าฯ นายกรัฐมนตรีน่าจะขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยส่งผู้แทนหรือคณะผู้แทนมาชี้แจงเหตุผลที่ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้ เพื่อจะได้มีความเข้าใจที่ดีขึ้น
หากคิดจะปลดผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเพราะเหตุนี้จริง ก็ขอบอกว่า นายกรัฐมนตรีต้องคิดให้รอบคอบ เพราะจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดีต่อทั้งรัฐบาลและต่อประเทศชาติอย่างแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อดีตรองอธิการบดี มธ. สะกิด 'สภาหอการค้า-สภาอุตฯ' หนุน 'นายกฯ' หาตลาดใหม่สู้สหรัฐ
อดีตรองอธิการบดี มธ. ขอเชียร์ให้นายกรัฐมนตรียึดมั่นในความถูกต้อง ไม่ยอมก้มหัวให้ประเทศมหาอำนาจ จัดการกับกัมพูชาให้จบให้ได้ หากทำได้โอกาสที่จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหลังการเลือกตั้ง จะเท่ากับ 100%
อดีตรองอธิการ มธ. ฟันธง 'อนุทิน' นายกฯ ชี้พรรคร่วมรบ.แทงกั๊ก แค่รอ 'ปชน.' ตัดสินใจ
พรรคร่วมรัฐบาลเดิมที่ยังแทงกั๊ก ไม่ตัดสินใจ อ้างว่าจะให้สมาชิกพรรคหรือกรรมการบริหารพรรคตัดสินใจ แต่แท้ที่จริง รอดูว่าพรรคประชาชนจะเลือกใคร
อดีตรองอธิการบดี มธ. สะท้อน 10 อุปนิสัย 'ช่อ-พรรณิการ์' ต้นแบบทางความคิดชาว 3 นิ้ว
ณพรรณิการ์ วานิช เป็นหนึ่งในแกนนำคณะก้าวหน้า ที่เป็นต้นแบบทางความคิด ซึ่งนำไปสู่พฤติกรรมของพรรคก้าวไกล และพรรคประชาชนในปัจจุบัน
'อมรเทพ' แนะผู้ว่าฯธปท.คนใหม่ ลงจากหอคอย สู่ท้องทุ่ง เพื่อฟังเสียงจากรากหญ้า
ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า


