'เทพไท' มึนทำไม 'พิธา' ไม่เรียนรู้จาก 'ธนาธร' ต้องมาเสียเวลากว่า 6 เดือน!

25 ม.ค.2567 - นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “พิธา” ไม่สรุปบทเรียน “ธนาธร” ระบุว่า ข้อหาของผู้สมัคร สส.ถือหุ้นสื่อ เป็นคุณสมบัติต้องห้าม ซึ่งกำหนดไว้ตามรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมาเคยมีผู้สมัคร สส. และผู้ที่ได้รับเลือกเป็น สส.หลายคนถูกตัดสิทธิ์ด้วยข้อหาถือหุ้นสื่อมาแล้ว แต่นักการเมืองหลายคนไม่สรุปบทเรียนกัน ไม่เข็ดหลาบ ไม่เกรงกลัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีของ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แม้ว่าจะรอดพ้นจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไปแล้วก็ตาม แต่ก็เป็นประเด็นปัญหาที่ทำให้คุณพิธา ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. และมาเสียเวลากับการสู้คดีในศาลรัฐธรรมนูญเป็นเวลาหกเดือนด้วย ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นใดๆ เลย ถ้าหากคุณพิธาได้สรุปบทเรียนจากกรณีของคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หรือ สส.คนอื่นๆ ที่เคยโดนข้อหานี้มาก่อนแล้ว

ที่ผมแปลกใจมากที่สุดก็คือ ทำไมคุณพิธาไม่จัดการเคลียร์ตัวเองให้ปลอดจากการถือหุ้นสื่อให้เสร็จเสียก่อน ตั้งแต่วันที่คุณธนาธร หรือ สส.ของพรรคก้าวไกลถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ให้พ้นจากตำแหน่ง สส.ไปก่อนหน้านี้แล้ว

ผมอยากจะเรียนไปยังนักการเมืองทุกคน ผู้คิดที่จะสมัคร สส.ว่า ก่อนที่จะสมัครต้องตรวจสอบคุณสมบัติ เรื่องการถือหุ้นสื่อเสียก่อน ถ้ามีก็ต้องโอนออกไปให้หมด อย่าให้เป็นประเด็นในการพิจารณาของ กกต.และศาลอีกเลย เพราะการวินิจฉัยในประเด็นการถือหุ้นสื่อ ยังมีความเห็นต่างกันระหว่างศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง กับศาลรัฐธรรมนูญ

กรณีนักการเมืองถือหุ้นสื่อ ศาลฎีกา เคยมีคำวินิจฉัยไว้แล้ว (คำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง 24/2566 คดีชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ถือหุ้น AIS 200 หุ้น) ถือหุ้นในสัดส่วนที่น้อย ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง ครอบงำ สั่งการใดๆ ได้ แต่ในส่วนของศาลรัฐธรรมนูญ ได้วินิจฉัยบทบัญญัติมาตรา 98 (3) “เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ” แม้ถือหุ้นเพียงหุ้นเดียว ก็เข้าข่ายตามมาตรา 98 (3) นี้ ไม่เกี่ยวกับจำนวนหุ้นว่ามีจำนวนมากน้อยเพียงใด จะส่งผลครอบงำ หรือสั่งการได้หรือไม่

ผมขอตั้งข้อสังเกตไว้ว่า ถ้าตราบใดยังไม่มีการยกเลิกมาตรา 98 (3) บุคคลใดก็ตาม ถ้าจะมาเป็นนักการเมือง ลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. ต้องไปตรวจสอบให้ดีว่า ตนเองถือหุ้นสื่อหรือไม่ เพราะการถือหุ้นเพียงหุ้นเดียว ก็ขาดคุณสมบัติทันที

ผมมีข้อแนะนำว่า ถ้าจะสมัคร สส.ต้องเคลียร์ตัวเองให้ปลอดจากการถือหุ้นสื่อ ก่อนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย แบบซ้ำซากอีกเลย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'กรณ์' แนะ ปปง. ยึดทรัพย์สแกมเมอร์รายใหญ่ ต้องสาวให้ถึงคนไทย แฉพยายามโยกย้ายทรัพย์สิน

นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการที่พรรคประชาธิปัตย์ได้นำเอกสารหลักฐานชี้ให้เห็นถึงธุรกรรมที่ผิดปกติเกี่ยวโยงกับบุคคลที่ถูกกล่าวหา โดยสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาว่าเกี่ยวโยงกับวงการสแกมเมอร์ และอาจจะเป็นกิจกรรมที่สะท้อนถึงความพยายามในการฟอกเงินที่ได้มาจากธุรกรรมเหล่านั้น

อยากได้ก็ตั้งให้! ‘นิพิฏฐ์’ แนะนำ ‘อนุทิน’ ใช้นามสกุล ‘โอษฐภัย’

นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ   อดีตส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความเรื่อง “โอษฐภัย” โดยมีรายละเอียดว่า ผมฟังท่านนายกรัฐมนตรี อ

เทพไท ไม่แปลกใจ 'อภิสิทธิ์-ปชป.' ฉุดกระแสใต้คืนชีพ ห่วง สส.เขต โดนกระสุนดินดำเอาไปกิน

เทพไท ชี้ ผลการสำรวจของนิด้าโพล อาจวัดความนิยมของพรรคการเมือง และจะบ่งบอกถึงส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ แต่สำหรับส.ส.ในระบบเขต ยังเชื่อว่าพรรคการเมืองที่มีทรัพยากรพร้อม มีกระสุนดินดำเป็นจำนวนมาก และยิงเข้าเป้า ก็จะมีโอกาสชนะการเลือกตั้ง

ปชป. ขานรับกระแสดีภาคใต้ ลั่นพร้อมสร้างการเมืองสุจริต

“ประชาธิปัตย์” ขอขอบคุณ ความไว้วางใจที่คนไทยมอบให้ พร้อมสร้าง “การเมืองสุจริต” ทำงานด้วย “ความมืออาชีพ” ด้วยนโยบายที่ “ทำได้จริง” เปิดรับสมัคร สส. วันสุดท้ายของแคมเปญ “สส.ที่ดี คุณเองก็เป็นได้นะ”

'อภิสิทธิ์' นำทีม ปชป. ลงเรือช่วยอพยพผู้ติดค้างในบ้าน พบปัญหาไร้ระบบประสานงาน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยผู้บริหารพรรคบางส่วน อาทิ นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรค ดูแลพื้นที่ภาคใต้ นายวีระพงษ์ ประภา รองหัวหน้าพรรค ตามภาระกอจ นายพงศกร ขวัญเมือง โ

‘โบว์ ณัฏฐา’ ชี้ภาพเลือกตั้งเริ่มชัด เหลือสองพรรคที่ขยับขึ้นมาเด่น

“โบว์ ณัฏฐา” วิเคราะห์แนวโน้มจากโพลชุดล่าสุด ระบุศูนย์กลางการแข่งขันเริ่มขยับเหลือสองพรรคที่โดดขึ้นมา ขณะที่เพื่อไทยถูกทิ้งระยะ แม้คนยังไม่ตัดสินใจมีจำนวนมาก แต่สุดท้ายก็ต้องเลือกระหว่างตัวเลือกที่เด่นที่สุดในตอนนี้