'เทพมนตรี' จี้ 'พิธา' ขอขมาเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์และทายาทตระกูล 'อภัยวงศ์'

'เทพมนตรี'ซัด'พิธา' เขียนเพื่อให้ได้แสงอย่างไร้มารยาทอ้างตึกจวนสมุหเทศาภิบาลมณฑลบูรพาเคยเป็นที่พำนัก'บ้านคุณยาย' เมื่อทายาทคนในตระกูลอภัยวงศ์ออกมาปฏิเสธว่าไม่รู้จักพิธาและไม่เคยนับเป็นเครือญาติ 'พิธา'ควรขอขมาเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์และทายาทตระกูล'อภัยวงศ์'

7 ก.พ.2567 - นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า

พิธาควรขอขมาเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์และทายาทตระกูล “อภัยวงศ์”
https://www.facebook.com/share/ACgE43S8HrsGjEjC/?mibextid=WC7FNe
การอ้างว่าตึกจวนสมุหเทศาภิบาลมณฑลบูรพาเมื่อแรกสร้าง เคยเป็นที่พำนัก “บ้านคุณยาย” นั้นหมายถึงคุณยายของคุณพิธาต้องเป็นบุคคลสำคัญเกี่ยวข้องกับคนในตระกูลอภัยวงศ์เป็นอย่างดี และเป็นบรรพบุรุษของคนในตระกูลอภัยวงศ์สายใดสายหนึ่ง เมื่อปรากฏว่าทายาทคนในตระกูลอภัยวงศ์ออกมาปฏิเสธว่าไม่รู้จักคุณพิธาและไม่เคยนับเป็นเครือญาติ และคนในตระกูลเขามีรหัสประจำตัวเมื่อแรกเกิด คำถามที่ตามมาก็คือ คุณพิธามีคุณยายเป็นบรรพบุรุษในตระกูลนี้ แล้วคุณแม่ที่ชื่อ ลิลฎา นามสกุล อภัยวงศ์ ด้วยหรือไม่ และรหัสประจำตัวคุณพิธามีหมายเลขอะไร

การไม่ตอบคำถามคือการไม่แสดงความรับผิดชอบ ในฐานะผู้แทนราษฎรที่ชิงชัยในศึกเลือกตั้งแต่มีปัญหาเรื่อง “ปากมาก ปากมัน พูดสนุกปาก “ เสมอมา
สังคมไทย คงไม่คาดหวังอะไร เพราะวาดหวังกับคนเยี่ยงนี้ไม่ได้

คุณพิธา พูดถึง ตึกหลังงามศิลปะแบบโคโลเนียล ซึ่งสร้างขึ้นในช่วงระยะเวลาที่สยามยังมีปัญหาหนักกับอินโดจีนฝรั่งเศส และพึ่งเสียดินแดนที่อ้างว่าจะอาศัยพรมแดนธรรมชาติเป็นเส้นแบ่งเขตแดนสุดท้ายในอนุสัญญา ค.ศ. 1904

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ทรงโทมนัสกับราชการงานเมืองที่ว่านี้ ทรงตระหนักถึงปัญหาในระบบการเมืองการปกครอง ทรงมีพระราชปณิธานอย่างวิริยะอุตสาหะในการพัฒนาบ้านเมืองให้มีความทันสมัยทัดเทียมนานาอารยะประเทศ ทรงปฏิรูปการปกครองสร้้างระบบมณฑลเทศาภิบาลขึ้นมาโดยหวังว่าเราจะไม่ต้องสูญเสียดินแดนให้อินโดจีนฝรั่งเศสหรืออังกฤษอีก

และบ้านคุณยายที่คุณพิธาอ้างนั้น ก็คือที่ทำการมณฑลเทศาภิบาลมณฑลบูรพา ซึ่งปกครองท้องที่สามเมืองใหญ่คือเสียมราฐ ศรีโสภณ และพระตะบอง ผมจึงไม่คิดว่าคุณพิธาจะกล้าดีแอบอ้างเรื่องนี้ขึ้นมา

ถ้าศึกษาประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง ก็ไม่สมควรด้วยประการทั้งปวงที่จะอ้างคุณยาย ไปล้อเลียน ท่านเจ้าของตึกหลังนี้ เพราะมันมีความหมายเป็นอนุสรณ์เตือนใจ แรกสร้างตึกหลักนี้เสร็จไม่เกิน 2 ปี สยามต้องเสียดินแดน 3 เมืองในมณฑลบูรพาให้ฝรั่งเศสตามสนธิสัญญาค.ศ.1904 ท่านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์และครอบครัวเป็นข้าราชการต่างพระเนตรพระกรรณทรงไว้วางพระราชหฤทัยได้ตัดสินใจที่จะเทครัวออกจากพระตะบองไปพำนักในดินแดนตอนในที่เมืองปราจีนบุรี สิ่งที่ลงทุนลงแรงไปก็เสียประโยชน์โดยสิ้น ตึกที่สร้างขึ้นมาต้องมอบเป็นส่วนควบให้อินโดจีนฝรั่งเศสเจ้าอาณานิคมนำไปเป็นที่ทำการฟรีๆ

คุณพิธาเคยคิดไหมว่า ความสนุกปากกับมือที่เขียนเพื่อให้ได้แสงในครั้งนั้น มันเป็นความคิดอย่างไร้มารยาท ไม่มีความเห็นอกเห็นใจทายาทในตระกูลอภัยวงศ์ และเป็นการแอบอ้างนำเอาบาดแผลทางประวัติศาสตร์มาใช้เป็นเครื่องสนองตัณหาความอยากดูดีของตนให้สาวกได้ปลาบปลื้ม

ต่อมาเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ท่านจึงนำเอาแบบแปลนของตึกหลังนี้ไปสร้างที่เมืองปราจีนบุรีอีกครั้ง เพราะคงรักหวงแหนอาลัยต่อตึกหลังนี้ ตั้งใจมั่นให้ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ทรงประทับ แต่ก็สวรรคตเสียก่อน

ผมจึงมองว่าคุณพิธา ควรออกมาแสดงความรับผิดชอบ สารภาพผิดในครั้งนี้ ประกาศขอขมาให้สาธารณชนได้ทราบต่อดวงวิญญาณท่านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์เสีย…..

….จึงจะเรียกได้ว่าเป็นพ่อเทพบุตรจุติมาในโรงยี่เก!

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่ได้ปาดหน้า! 'พิธา' ตั้งใจมาเชียงใหม่จริง ลั่น ก.ก.ได้อันดับ 1 ต้องช่วยกันทำงาน

'พิธา' รับตั้งใจมาเชียงใหม่จริง แต่ไม่ได้ปาดหน้า 'ทักษิณ' ยัน ไม่มีนัยยะการเมือง มองกระแสพื้นที่ ไม่มีใครเป็นเจ้าถิ่น ลั่น 'ก้าวไกล' ได้รับคะแนนความไว้วางใจได้ สส.มากเป็นอันดับ 1 ก็ต้องช่วยทำงาน​

ฝ่ายค้านกู้ศรัทธา? 'พิธา' บอกลาสภา

การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ระหว่างวันที่ 3-4 เม.ย.ที่ผ่านมา ถือเป็นเวทีของฝ่ายค้านนำโดยพรรคก้าวไกล และพรรคประชาธิปัตย์ ซ้อมใหญ่ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมสภาหน้าตามรัฐธรรมนูญ 151

‘พิธา’ ชี้ยุบพรรคคือการติดเทอร์โบให้พรรคที่ถูกยุบ ได้แต้มต่อเลือกตั้งครั้งหน้า

ที่โรงแรมเมเปิ้ล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2567 วันนี้ ถึงการอภิปรายทั่วไปตาม ม.152