
21 ก.พ. 2567 - รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา เผยแพร่บทความ เรื่อง การควบคุมคอรัปชั่น: บทเรียนจากเยอรมัน มีเนื้อหาดังนี้่
ในภาพรวมเยอรมนีเป็นประเทศที่มีการคอรัปชั่นค่อนข้างต่ำ เพราะประชาชนมีอุปนิสัยตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์และมั่นคงในหลักการ รวมถึงกฎหมายเยอรมนีมีการต่อต้านการ คอรัปชั่นที่เข้มงวด กระนั้นก็ดีมีนักการเมืองจำนวนหนึ่งที่ถูกตรวจพบว่ามีการใช้อำนาจโดยมิชอบ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ขัดกับหลักคุณธรรมทางการเมืองในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ตัวอย่างเช่นนายลุดวิค-โฮลเกอร์ ฟาลซ ( Ludwig-Holger Pfahls) อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม (2530-2535) ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีรับสินบนกว่า 2 ล้านยูโรจากบริษัทค้าอาวุธที่ไปขายรถถังให้ซาอุดิอาระเบียในช่วงสงครามเปิดเมื่อปี 2534 และการเลี่ยงภาษีโดยการหลบหนีออกจากประเทศเยอรมันเป็นเวลาถึงห้าปีก่อนจะถูกตำรวจฝรั่งเศสจับกุมได้ในปี 2548 เขาถูกศาลพิพากษาจำคุกในปี 2548 เป็นเวลา 2 ปี 3 เดือน แต่มีเหตุบรรเทาโทษ ศาลจึงลดโทษให้เหลือจำคุกกึ่งหนึ่ง ต่อมาในปี 2554 ในวัยเกือบ 70 ปี เขาถูกตัดสินจำคุก 4 ปีครึ่ง ฐานสร้างหลักฐานเท็จเกี่ยวกับการล้มละลาย ส่วนภรรยาของเขาในวัย 68 ปี ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 2 ปี 9 เดือน ด้วย เนื่องจากบัญชีธนาคารของเธอถูกใช้ในการโอนเงินที่เกี่ยวข้อง
จะเห็นได้ว่ารัฐบาลเยอรมันมีการติดตามจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างจริงจัง แม้ว่าบุคคลดังกล่าวจะมีมีอิทธิพลและหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ จนกว่าจะมีการนำตัวมาพิพากษาตัดสินคดีและรับโทษจำคุกตามกฏหมาย
ในปี 2555 นายคริสเตียน วาลฟ (Christian Wulff) ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีได้ลาออกเนื่องจากถูกดำเนินคดีในข้อหาคอรัปชั่น ฐานรับเงินราว 700 ยูโร (ประมาณ 27,000 บาท) เป็นค่าเข้าพักโรงแรมและอาหารในช่วงเทศกาลเบียร์ (Oktoberfest) อย่างไรก็ดีในปี 2557 ศาลตัดสินให้เขาพ้นผิดในข้อหาคอรัปชัน
ในปี 2564 นายฟรานซิสกา กิฟเฟ (Franziska Giffey) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการครอบครัว ผู้สูงอายุ สตรีและเยาวชนได้ขอลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบจากการที่ถูกมหาวิทยาลัยถอดถอนปริญญาเอกในประเทศเยอรมนี การลอกเลียนวิทยานิพนธ์ของผู้อื่นถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อศีลธรรมอย่างร้ายแรง จึงเข้าข่ายเป็นความผิดทางด้านคอรัปชั่น ซึ่งก่อนหน้านี้ยังมีนักการเมืองเยอรมนีมากกว่า 20 คนถูกถอดถอนปริญญาและต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งทางการเมืองด้วยเหตุผลจากความไม่ซื่อสัตย์ในการทำวิทยานิพนธ์ อาทิเช่น นายคาร์ล ธีโอดอร์ กุตเตนแบร์ก (Karl Theodor zu Guttenberg) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมขอลาออกจากตำแหน่งในปี 2554 และนางแอนเนตเต ชาฟาน (Annette Schavan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลาออกจากตำแหน่งในปี 2556 ตามลำดับ สำหรับในประเทศเยอรมันแล้วการกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำผิดทางด้านอาญาในสายตาประชาชน เป็นพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความไม่ซื่อสัตย์ จึงต้องมีความรับผิดชอบทางการเมือง (ข้อมูลจากชิดตะวัน ชนะกุล, “ ยุติ-ธรรมไทย: บทเรียนจากเยอรมนี”, ใน นสพ.กรุงเทพธุรกิจ,19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 25567: 7)
ความแตกต่างของการคอรัปชั่นระหว่างเยอรมันกับไทยมีสาเหตุหลายประการ ทั้งจากตัวสถาบันของกฎหมายและสถาบันของสังคม ในแง่การบังคับใช้กฎหมายมีความแตกต่างกันประการหนึ่งคือ ประชาชนชาวเยอรมันมีความเชื่อมั่นต่อการบังคับใช้กฎหมายเรื่องการคอรัปชั่นของหน่วยงานภาครัฐสูง ส่วนของประเทศไทยความเชื่อมั่นดังกล่าวค่อนข้างเป็นปัญหา เนื่องจากประชาชนมีความไม่ไว้วางใจในเรื่องความเป็นกลางทางการเมืองขององค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบทางการเมือง ตลอดจนสถาบันในกระบวนการยุติธรรมที่ประชาชนกังขาว่ามักจะมีการดำเนินการแบบสองมาตรฐาน กล่าวคือต่อผู้มีอำนาจและมีอิทธิพลมีมาตรฐานหนึ่ง และสำหรับประชาชนทั่วไปเป็นอีกมาตรฐานหนึ่ง
ประการที่สอง ในประเทศเยอรมัน ความผิดด้านจริยธรรมของนักการเมืองถือเป็นการคอรัปชั่น ส่วนของไทยความผิดด้านจริยธรรม ยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องของความผิด เพราะสำหรับเจ้าหน้าที่ภาครัฐและนักการเมืองที่มีความผิดด้านจริยธรรมอาจจะมีความผิด หรือไม่มีความผิดทางด้านกฎหมายก็ได้ เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องของการเมืองและการต่อรองทางการเมือง
ประการสุดท้ายที่สำคัญคือ สำหรับนักการเมืองที่กระทำความผิดในข้อหาคอรัปชั่นในประเทศเยอรมัน จะถูกประชาชนชาวเยอรมันลงโทษด้วยมาตรการทางสังคม (Social Sanction) ควบคู่กันไปด้วย ซึ่งจะทำให้นักการเมืองที่ถูกลงโทษว่ามีความผิดจากการคอรัปชั่นไม่มีพื้นที่ๆ จะยืนอยู่ในสังคมเยอรมันได้อีกตลอดไป นามสกุลของเขาจะถูกสังคมปฏิเสธ คนในครอบครัวทุกคนพลอยได้รับการลงโทษจากสังคมตามไปด้วย ส่วนในสังคมไทยผู้ที่ถูกตัดสินลงโทษว่ากระทำความผิดจากข้อหาการทุจริต ไม่ใคร่ถูกสังคมลงโทษ และยังมีที่ยืนอยู่ในสังคมได้ เมื่อพ้นระยะเวลาจากการลงโทษทางกฎหมายแล้วสามารถกลับเข้าสู่การเมืองได้อีกวาระหนึ่ง ในขณะที่ในประเทศเยอรมัน นักการเมืองประเภทนี้ รวมถึงลูกหลานของเขาจะไม่มีโอกาสเช่นว่านี้ตลอดไป
สาเหตุที่คนเยอรมันลงโทษนักการเมืองที่คอรัปชั่นได้อย่างรุนแรงและทั่วทั้งสังคมได้นั้น น่าจะมาจากกระบวนการขัดเกลาทางสังคม (socialization) ของคนในสังคมเยอรมันเอง ทั้งที่มาจากสถาบันของครอบครัว และสถาบันการศึกษาในทุกระดับที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของหน้าที่ความเป็นพลเมืองของคนเยอรมัน ด้วยเหตุนี้ คนเยอรมันทุกคนจึงกลายเป็นอาวุธที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเรื่องจริยธรรมของนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ภาครัฐอย่างเป็นปกติวิสัย (Habitat) และอย่างเป็นปกติในชีวิตประจำวัน เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของคนเยอรมันไปแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อดีตผู้พิพากษาฟันธงจนท.เกี่ยวข้องคดี 'ชั้น14' ผิดหมด รอวัดใจบังคับโทษทักษิณ
อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ รอวัดใจศาลฎีกาฯ 9 ก.ย.สั่งบังคับโทษจำคุกทักษิณใหม่หรือไม่ ชี้ปมชั้น 14มีปัญหา จนท.เกี่ยวข้องผิดหมด หวังองค์คณะฯ เคลียร์หมดทุกจุด โดยเฉพาะการใช้อำนาจเข้าไต่สวน
'พิยดา'ตั้งเป้า2เหรียญทอง จากยิมนาสติกลีลา กีฬาม.โลกที่เยอรมัน
ทัพนักกีฬาปัญญาชนของไทย ทั้ง 62 ชีวิต เดินทางมุ่งหน้าสู่ประเทศเยอรมัน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเตรียมเข้าร่วมแข่งขัน กีฬามหาวิทยาลัยโลกฤดูร้อน 2025 (ครั้งที่ 32 ) โดยใช้ชื่อว่า FISU World University Games Summer 2025 ที่เมืองเอสเซน ประเทศเยอรมนี หรือ “ไรน์-รูห์ร เกมส์” ระหว่างวันที่ 16-27 กรกฏาคม 2568
'สังศิต' เรียกร้องนักการเมืองกล้าหาญทางจริยธรรมนำ 'สปิริตแบบพระเจ้าตาก' ค้ำจุนนาวาไทย
ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เผยแพร่บทความเรื่อง สปิริตแบบพระเจ้าตาก มีเนื้อหาดังนี้
ทัพปัญญาชน62คน ลุยกีฬาม.โลกที่เยอรมัน ตั้งเป้า2ทอง,เตรียมทัพสู้ซีเกมส์
เมื่อวันอังคารที่ 1 กรกฎาคม ที่อาคารพระจอมเกล้า สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ศาสตราจารย์ ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงอว. พร้อมด้วย , นางสาววราภรณ์ รุ่งตระการ รองปลัดกระทรวงอว.ร.ศ.ภาสกร นันทพานิช รองประธานกรรมการบริหารกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย (ก.ก.ม.ท.) และร.ศ.ชาญชัย สุขสุวรรณ์ รองประธานกรรมการบริหาร กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย (ก.ก.ม.ท.) ผู้เกี่ยวข้อง และผู้สนับสนุน
ท่าทีของเยอรมนี หลังการประชุมสุดยอด G7
กลุ่มประเทศ G7 ต้องการเพิ่มแรงกดดันต่อรัสเซีย เพื่อโน้มน้าวเครมลินให้เจรจายุติสงครามในยูเครน ในการประชุมสุดยอด G7 ที่เมืองคานานาสกิส ประเทศ
'ดร.สังศิต' แพร่บทความ สถานบันเทิงครบวงจร : มุมมองด้านเศรษฐกิจ
รศ.ดร. สังศิต พิริยะรังสรรค์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมลํ้า วุฒิสภา เผยแพร่บทความ เรื่อง สถานบันเทิงครบวงจร : มุมมองด้านเศรษฐกิจ มีเนื้อหาดังนี้


