'อดุลย์' ร่อนจดหมายเปิดผนึกเฉ่ง 'เพื่อไทย' เตะถ่วงนิรโทษกรรมคดีการเมือง

“อดุลย์”ร่อนจดหมายเปิดผนึกเฉ่ง”พรรคเพื่อไทย”เตะถ่วงนิรโทษกรรมคดีการเมืองเอาประชาชนทุกเสื้อสีเป็นตัวประกันกระตุก”ทักษิณ” ต้องมีสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณช่วยทำให้บ้านเมืองเกิดสันติสุข อย่าเอาแต่ประโยชน์ของตัวเอง แล้วทิ้งประชาชนที่เคยช่วยเรียกร้องต่อสู้ให้กับตัวเอง จี้นายกฯเร่งออกพรก.นิรโทษกรรม เพื่อให้สังคมเกิดความปรองดองโดยเร็ว

3 มี.ค. 2567 – นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 ส่งจดหมายเปิดผนึก ถึง พรรคเพื่อไทย เรื่อง นิรโทษกรรมคดีทางการเมือง ระบุว่า ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยมีความขัดแย้งกันต่อเนื่อง 10 กว่าปีแล้ว ส่งผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ฯลฯ อย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’ 35 ได้ร่วมกับทุกภาคส่วนของสังคม สร้างความรักสามัคคีของคนในชาติมาโดยตลอด มีความห่วงใยในสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังไม่มีข้อยุติความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ และความมั่นคงของชาติ เป็นอุปสรรคสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาบ้านเมือง จึงอยากให้คนในชาติมีความรักสามัคคี เพื่อสังคมไทยเกิดสันติสุขโดยเร็ว

คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 มีความเห็นว่า สังคมไทยต้องมีการนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองให้กับประชาชน เพื่อให้เกิดความปรองดอง สมานฉันท์ อย่างแท้จริง และขณะนี้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้ตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ที่มี นายชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธานกมธ. เพื่อศึกษาหลักเกณฑ์และแนวทางการนิรโทษกรรมให้ได้ข้อยุติ ก่อนเสนอเป็นร่างกฎหมายต่อสภาผู้แทนราษฎร โดยพิจารณาภายใน 60 วัน

อย่างไรก็ตามคณะกรรมาธิการวิสามัญฯแสดงเจตนาชัดเจนเตะถ่วงเวลาพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวที่จะให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน ตามกรอบเวลา และยังได้ตั้งคณะอนุ กมธ.ขึ้นมา เพื่อศึกษาและแยกแยะหมวดหมู่ของคดีทางการเมืองที่มีอยู่ เพื่อให้ กมธ.ชุดใหญ่ ยื้อเวลาออกไปอีก แสดงว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีเจตนาชัดเจนต้องการถ่วงเวลา โดยเอาประชาชนทุกเสื้อสีที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและความยุติธรรมโปรงใส่ของบ้านเมืองเป็นตัวประกันทางการเมือง เป็นการหลอกลวงประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเองเท่านั้น

สำหรับกรณีที่อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เป็นนักโทษหนีคดีทุจริต 8 ปี กลับมาได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ เหลือจำคุก 1 ปี ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ และบัดนี้อดีตนายกฯทักษิณ ได้รับการพักโทษกลับไปอยู่บ้านกับครอบครัวอย่างอบอุ่นแล้ว จึงควรมีสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณช่วยทำให้บ้านเมืองเกิดสันติสุข โดยร่วมผลักดันการนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองให้กับประชาชนทุกกลุ่มเช่นกัน อย่าเอาแต่ประโยชน์ของตัวเอง แล้วทิ้งประชาชนที่เคยช่วยเรียกร้องต่อสู้ให้กับตัวเอง ต้องรู้จักการเสียสละให้คนอื่นด้วย จึงจะได้ความรักกลับคืนมา

คณะกรรมการญาติวีรชนฯ จึงขอเรียกร้องให้ นายกรัฐมนตรี นำเสนอคณะรัฐมนตรี ออกพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) นิรโทษกรรมคดีทางการเมือง ตามแนวทางของคณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่ได้มีการศึกษาเรื่องการนิรโทษกรรมไว้อย่างรอบคอบ ครอบคลุมทุกมิติและตกผลึกแล้ว โดยที่ประชุมสปช.ได้ลงมติเห็นชอบอย่างเอกฉันท์ และเสนอต่อรัฐบาลไปแล้ว ต่อมาสภาผู้แทนราษฎรที่มีนายชวน หลีกภัย เป็นประธานภาฯก็ได้มีมติเห็นชอบอย่างเอกฉันท์เช่นกัน จึงไม่ต้องซื้อเวลาอีกต่อไป และเชื่อว่าหากดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวจะทำให้สังคมไทยเกิดความปรองดอง สมานฉันท์ คนในชาติเกิดความรัก สามัคคี บรรยากาศทางการเมืองจะกลับคืนสู่ปกติ ประชาชนทุกภาคส่วนจะได้ร่วมกันพัฒนาประเทศชาติ ให้เจริญรุ่งเรืองตลอดไป

ทั้งนี้หาก นายกรัฐมนตรี ไม่ดำเนินการออกพระราชกำหนดนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง คณะกรรมการญาติวีรชนฯ มีความจำเป็นต้องยื่นถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ยศชนัน' โวยป้ายหาเสียงถูกทำลาย วอนเล่นการเมืองสร้างสรรค์ มั่นใจรักษาฐานเสียงชายแดน

‘ยศชนัน’ วอนเล่นการเมืองสร้างสรรค์ หลัง ’เพื่อไทย’ ถูกทำลายป้ายหาเสียงหลายเขต บอกไม่ถูกต้อง หลังถูกวิจารณ์เป็นพรรคตัวแปรอันดับ3 เหตุ ปชช. ยังไม่ตัดสิน มั่นใจ รักษาฐานเสียงจังหวัดชายแดนได้ เชื่อประชาชนเข้าใจ

‘อัครนันท์’ ชูหาเสียงไม่รบกวนชุมชน ตั้งหลักคิดคุณภาพชีวิตมาก่อน

“อัครนันท์” ออกแนวทางการหาเสียงไม่กระทบกับชาวบ้านในพื้นที่ ปรับเวลารถแห่ จาก 08.00 น.เป็น 10.00 น. หวังลดผลกระทบด้านเสียง เอาใจ คนในพื้นที่