ชายแดนเมียนมายังดุเดือด ไทยยืนหลักมนุษยธรรมช่วยผู้พลัดถิ่น

ไทย เดินหน้าช่วย ‘เมียนมา’ ด้านมนุษยธรรม ผู้พลัดถิ่น 3 จุด ‘สภากาชาด’ เตรียมส่งมอบของพรุ่งนี้  ’กองทัพภาคที่ 3’ ประเมินเหตุการณ์ระอุช่วงฤดูแล้ง เตรียมแผนรองรับผู้อพยพ ยอมรับทหารประเทศเพื่อนบ้าน หนีตายข้ามมาฝั่งไทย 50 นาย ส่งกลับเรียบร้อยแล้ว

24 มี.ค.2567 – มีรายงานว่า ในวันที่ 25 มี.ค.นี้ ผู้แทนสภากาชาดไทย พร้อมผู้แทนกระทรวงต่างประเทศ จะเดินทางมาเป็นประธานในพิธี ส่งมอบถุงให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แก่ผู้พลัดถิ่นชาวเมียนมาภายในประเทศ (Internally Displaced People – IDPs) ณ จุดผ่านแดนถาวร สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2

โดยมี นายกเหล่ากาชาด จ.ตาก นายกกิ่งกาชาด อ.แม่สอด ทำหน้าที่เป็นผู้แทนสภากาชาดไทย ส่งมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์จำนวน 4,000 ชุด ให้สภากาชาดเมียนมา เพื่อลำเลียงไปสู่พื้นที่พักพิง 3 จุด ได้แก่ บ้านนะบู , ไป่จง และ ตามัญญะ

สำหรับ กองกำลังนเรศวร ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3สนับสนุนการดำเนินการตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมการ, การบรรจุสิ่งของ, การเคลื่อนย้ายสิ่งของ และการอำนวยความสะดวกอื่นๆ ผ่านกลไกความร่วมมือทวิภาคี ไทย – เมียนมา ระดับท้องถิ่น (TBC) นอกจากนั้นยังติดตามสถานการณ์การสู้รบ ของกองกำลังชนกลุ่มน้อยกับกองกำลังทหารเมียนมาร์อย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะที่มีการประเมินว่าจะเกิดเหตุการณ์ปะทะรุนแรงขึ้นในช่วงหน้าแล้งในเดือน เม.ย.- พ.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังเกิดเหตุปะทะระหว่างกองกำลังทหารเมียนมาและชนกลุ่มน้อย โดยมีการเข้าโจมตีฐานทหารเมียนมา บริเวณพื้นที่เนะจิกง เขาตะโกโจ ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองบังคับการกองพัน 300 จากนั้นกองกำลังทหารเมียนมา ได้ปฏิบัติการหยุดกองกำลังต่อต้านที่เข้าล้อมในพื้นที่ดังกล่าวโดยส่งอากาศยานเป็นเครื่องบินแบบ y-12 ลาดตระเวนและทิ้งระเบิด พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนใหญ่วิถีโค้งยิงเข้าใส่พื้นที่ฝั่งตรงข้าม

ด้าน พ.อ.ไมตรี ชูปรีชา รองผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร ( รอง ผบ.กกล. นเรศวร) กล่าวถึงสถานการณ์การสู้รบด้านพื้นที่ตรงข้ามจังหวัดตากว่า ยังมีการปฎิบัติการทางทหารระหว่าง กองทัพเมียนมา กับกองกำลังชนกลุ่มน้อย ส่วนการปฎิบัติของฝ่ายเรายังคงต้องติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังในเรื่องของการสู้รบว่าจะมีผลกระทบที่ส่งผลถึงฝั่งเราหรือไม่

รอง ผบ.กกล. นเรศวร กล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วงคือผลกระทบต่อฝั่งไทย ซึ่งมีแผนเดิมดูแลอยู่แล้ว ปัจจุบันการสู้รบก็ยังคงมีอยู่ แต่ในฝั่งเขาก็มีการเตรียมพื้นที่รองรับอยู่แล้ว สำหรับประเด็นทางทหารในเรื่องการรุกล้ำอธิปไตยหรือมีกระสุนอาวุธหนักมาตก ในฝั่งประเทศไทยนั้น ในปัจจุบันยังไม่มี โดยเป็นส่วนที่เราต้องระมัดระวังและเฝ้าติดตามสถานการณ์ต่อไป

เมื่อถามว่า สถานการณ์จะรุนแรงเหมือนปี 2566 หรือไม่ พ.อ.ปรีชา กล่าวว่า มีการประเมินว่ามีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้น ซึ่งเป็นช่วงที่เราต้องติดตามสถานการณ์ แต่ก็มีแผนรองรับอยู่แล้วเป็นขั้นตอน ส่วนปัจจัยที่ที่จะส่งผลให้เกิดเหตุรุนแรงนั้นก็ดูจากสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ชนกลุ่มน้อยต่างๆ มีการปฏิบัติค่อนข้างมาก เกรงว่าวันหนึ่งวันใดจะมีการตอบโต้หรือไม่อย่างไร ก็ต้องติดตามวิเคราะห์ต่อไป ในส่วนกำลังของเราก็ดูแลประชาชนคนไทยตามแนวชายแดนโดย ซึ่งมีแผนอพยพรองรับไว้ในทุกพื้นที่ และจะต้องประสานงานกับส่วนราชการ เช่น ฝ่ายปกครอง และ ผู้นำท้องถิ่นด้วย

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าทหารเมียนมาหลบหนีการสู้รบเข้ามาฝั่งไทยนั้น รอง ผบ. กกล.นเรศวร กล่าวว่า จากข้อมูลที่ปรากฏเป็นผลกระทบมาจากการสู้รบ ในส่วนของพวกเราในฐานะเป็นมีประเทศมีพื้นที่ติดกันและคนที่เข้ามาไม่ใช่ศัตรูของเรา ก็ให้การดูแลไปตามหลักมนุษยธรรม
ในประเด็นนี้กองทัพเรามีแนวทางในการปฏิบัติที่ชัดเจนอยู่แล้วในการเข้าช่วยเหลือตามขั้นตอนในปัจจุบัน ได้มีการส่งกลับไปเรียบร้อยแล้วจำนวนประมาณ 50 นาย.




เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ด่วน! ทหารเหยียบกับระเบิดขาที่ 11 ขณะเข้าเคลียร์พื้นที่ 'สัตตะโสม'

ทหารเหยียบกับระเบิดขาที่ 11 ทบ.เผยเกิดเหตุในพื้นที่ "สัตตะโสม"ขณะที่เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดน เพจกองทัพบกเดือด จี้กัมพูชาต้องชัดเจนเรื่องเก็บกู้ทุ่นระเบิด

3 เหล่าทัพ เร่งพัฒนา 'อาวุธยิงระยะไกล-หน่วยบัญชาการร่วม' เสริมความพร้อมชายแดนไทย-กัมพูชา

3 เหล่าทัพ เร่ง บูรณาการพัฒนา “อาวุธยิงระยะไกล-หน่วยบัญชาการร่วม” เสริมความพร้อมชายแดนไทย-กัมพูชา

ไฟเขียวชาวบ้าน 4 อ.ชายแดนสระแก้ว เข้าบ้านได้ตั้งแต่ 31 ธ.ค. เว้น 4 หมู่บ้าน รอเคลียร์พื้นที่ก่อน

กกล.บูรพา และจังหวัดสระแก้ว ได้หารือกำหนดแนวทางการอพยพประชาชน ใน 4 อำเภอ ชายแดน จ.สระแก้ว กลับเข้าที่พักอาศัยของตน

อดีตบิ๊กข่าวกรอง ชี้ผ่าน 24 ชม. ทุกแนวรบสงบนิ่ง แต่ยังวางใจไม่ได้ ฝั่งนั้นมีความเคลื่อนไหวตลอด

อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กทุกแนวรบสงบนิ่ง ผ่าน 24  ชั่วโมงยังไม่มีเสียงปืนลั่น