'ทนายตั้ม' รับกังวลมีการฟอกขาวให้ 'บิ๊กต่อ'

'ทนายตั้ม' ให้ข้อมูลคณะกรรมการตรวจสอบฯของนายกฯ หวั่นมีการฟอกขาวให้ 'บิ๊กต่อ' ขณะที่ 'บิ๊กโจ๊ก' เข้าให้ข้อมูลด้วย

10 เม.ย.2567 - ที่สโมสรราชพฤกษ์ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ นำพยาน 2 ปาก ทั้งสายลับและนางสาวพิมพ์วิไล รวมถึงเอกสารหลักฐานเส้นเงินเว็บพนันที่เชื่อมไปถึงคนใกล้ชิด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เข้าให้ข้อมูลกับ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย

ก่อนเข้าให้ข้อมูลกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ นายษิทรา เผยว่า การให้ข้อมูลวันนี้ไม่มั่นใจในคณะกรรมการชุดนี้ เนื่องจากเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแต่งตั้งขึ้นมา และหลายคนทราบดีว่า นายกฯมีความเกรงใจพี่ชายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ จึงกังวลว่าอาจจะมีการฟอกขาวให้ความช่วยเหลือเรื่องคดีกัน ยอมรับว่า ตัวเองปรามาสการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ เพราะมองว่าพยานหลักฐานที่นำมาให้ค่อนข้างชัดเจน ซึ่งหากคณะกรรมการมีข้อสงสัยเรื่องการได้มาของพยานหลักฐานก็สามารถใช้อำนาจที่มีไปของหลักฐานจากธนาคารใหม่ได้ แต่ส่วนตัวไม่รู้ว่าจะทำหรือไม่ หรือท้ายที่สุดจะปัดตกหลักฐานของตัวเองไป และทำให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้ประโยชน์

นายษิทราเผยต่อว่า ส่วนเรื่องระยะเวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริง คณะกรรมการไม่ได้ตั้งกรอบเวลาที่ชัดเจน ส่วนข้อสงสัยที่ว่าคณะกรรมการต้องรอพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกหรือหมายจับเหมือนกรณีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์หรือไม่ ถึงจะมีข้อสรุปความผิด ผบ.ตร.ได้ ทนายตั้มบอกว่า ถ้าต้องรอพนักงานสอบสวนออกหมาย ก็ไม่จำเป็นต้องเรียกตัวเองหรือพยานอื่นๆมาให้ข้อมูล ถ้ารอแบบนั้นก็เหมือนรอลอกข้อมูลจากตำรวจ

เมื่อถามว่าการเรียกบุคคลเข้ามาให้ข้อมูลวันนี้ มีข้อมูลว่าทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะเดินทางมาให้ข้อมูลกับคณะกรรมการด้วย นายษิทราบอกว่า หากมีโอกาสก็เชื่อว่าน่าจะได้พูดคุยกันแต่คงไม่ได้ให้คำแนะนำ เพราะทางพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีทีมทนายความของตัวเองอยู่แล้ว ส่วนตัวเองมาในฐานะพลเมืองดีที่เห็นการกระทำความผิด และมาให้ข้อมูลคดีที่แจ้งความกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์และภรรยา ในฐานความผิดฟอกเงินเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

ส่วนเรื่องประเด็นที่คณะกรรมการให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือ เรื่องที่มาของพยานหลักฐานว่าได้มาจากใคร ซึ่งตัวเองได้ชี้แจงไปทั้งหมดแล้ว รวมถึงกรณีที่ออกมาแฉเรื่องรีสอร์ทเขาใหญ่ ที่ตัวเองมีหลักฐานชัดเจนว่าภรรยาของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์เป็นเจ้าของ เพราะเคยมีหลักฐานจากการให้สัมภาษณ์ในรายการหนึ่งว่าภรรยา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์เป็นเจ้าของจริงๆ

ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้เดินทางมาให้ข้อมูลกับคณะกรรมการฯ ท่ามกลางที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก สื่อมวลชนพยายามที่จะเข้าไปสอบถามข้อมูลแต่รถของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็ตรงเข้าไปด้านในทันทีโดยไม่มีการลงมาให้สัมภาษณ์ใดๆ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ก.ร.ตร.' มีมติชี้มูล 'บิ๊กต่อ' อดีต ผบ.ตร.กับพวก 200 นาย ผิดวินัย รับส่วยเว็บพนันออนไลน์

คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ หรือ ก.ร.ตร.ได้มีมติชี้มูลความผิดทางวินัยกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมพวกกว่า 200 นาย ภายหลังจาก นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ยื่นเรื่องร้องเรียนเมื่อเดือนมีนาคม 2567 กล่าวหาว่ามีการรับเงินจากขบวนการ “ส่วยเว็บพนันออนไลน์”

ทนายตั้ม สาหัส! 2 อดีตคนสนิทกลับลำ รับสารภาพคดีฉ้อโกงเงินเจ๊อ้อย 100 ล้าน

อดีตคนสนิท “ทนายตั้ม” พลิกคำให้การกลางศาล รับสารภาพบางส่วนในคดีฉ้อโกงเงิน “เจ๊อ้อย” 100 ล้านบาท ศาลนัดสืบพยานโจทก์ 15 นัดรวด เริ่ม 4 มีนาคมปีหน้า พร้อมกำชับคู่ความปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด

จับแก๊ง 'พล.ต.อ.' ฉกข้อสอบ โยงเครือข่ายเว็บพนัน 'มินนี่'

ตำรวจไซเบอร์ นำโดย ไซเบอร์อรรถ-พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ยังคงเดินหน้าสนองนโยบายรัฐบาล น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์อย่างเข้มข้นทุกรูปแบบจนเป็นที่น่าพอใจ

เบิกตัว 'ทนายตั้ม-เมีย' กับพวก ขึ้นศาล ตรวจหลักฐานคดีโกง 'เจ๊อ้อย'

ศาลนัดตรวจหลักฐาน คดีหมายเลขดำอทย.109/2568 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม

จำคุก 1.4 ปี 'ทนายตั้ม-ไฮโซสาวใหญ่' หมิ่นอดีตรองประธานสภาฯ ชดใช้ 1.1 ล้านบาท

ที่ศาลจังหวัดนครพนม ศาลอ่านคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1316/2566 (หมายเลขแดงที่ อ.250/2568) ที่นายธนบวร ศิริคุณากรกุล นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร