02 พ.ค.2567 - นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กพร้อมรูปในหัวข้อ “ทักษิณ ไปภูเก็ต ภาพบาดใจคนไทยทั้งประเทศ” ระบุว่า เห็นภาพคุณทักษิณ ชินวัตร นักโทษที่ได้รับการพักโทษ แต่ทำตัวเป็นผู้มีบารมี เดินสายไปทั่วทุกที่ ล่าสุดมีการเดินทางไปจังหวัดภูเก็ต โดยอ้างว่าเดินทางไปเป็นการส่วนตัว แต่ภาพที่เห็นมีข้าราชการระดับสูงมาต้อนรับมากมายหลายคน รวมทั้งผู้นำภาคเอกชน ก็มาร่วมรับด้วย ทำให้เกิดภาพบาดตาบาดใจ และเสียดแทงความรู้สึกของนักโทษทั่วไป รวมถึงญาติของนักโทษ ที่ลูกหลาน ญาติพี่น้อง ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ โดยไม่ได้รับอภิสิทธิ์ใดๆเหมือนกับคุณทักษิณ มิหนำซ้ำคุณทักษิณยังได้รับการพักโทษ โดยไม่ต้องติดกำไล EM จากกรมคุมประพฤติ สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบการเดินทาง และถิ่นที่อยู่ได้ เพราะการไม่ติดกำไล EM ทำให้กรมคุมประพฤติไม่สามารถจับสัญญาณติดตามความเคลื่อนไหวใดๆได้เลย
เมื่อมาเปรียบเทียบกับตัวผม ซึ่งยังต้องติดกำไล EM อยู่ และได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของกรมคุมประพฤติอย่างเคร่งครัด ไม่เคยเดินทางไปต่างจังหวัดเลย มีแต่ได้ขออนุญาตไปบันทึกเสียงร้องเพลง ที่อำเภอบางบัวทองเท่านั้น
เมื่อวานซืนแค่เดินทางไปออกรายการรู้ทันการเมืองไทย ของ สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ช่อง 13 สยามไทย ที่เมืองทองธานี ยังถูกเจ้าหน้าที่ของกรมคุมประพฤติ โทรตามตัวกันจ้าละหวั่น ทั้งที่ได้แจ้งและขออนุญาตไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่ก็ยังมีการตรวจสอบอย่างละเอียดยิบ ปรากฎการณ์อย่างนี้เมื่อเปรียบกับคุณทักษิณ จะเรียกว่า สองมาตรฐานได้หรือไม่?
การเดินทางไปจังหวัดภูเก็ตของคุณทักษิณสามารถทำได้ ถ้าขออนุญาตต่อกรมคุมประพฤติเรียบร้อยแล้ว แต่ต้องถามว่าเป็นความเหมาะสมหรือไม่ การที่ยังคงสถานะนักโทษอยู่ และยังอยู่ในระหว่างการพักโทษ จะเดินทางไปเที่ยวเหมือนกับคนปกติ การเดินทางไปต่างจังหวัดโดยไม่มีเหตุจำเป็นก็ไม่สมควร ถ้าหากเป็นกิจกรรมที่จำเป็น เช่น งานประเพณีสำคัญของเครือญาติ และวงศ์ตระกูลก็สามารถทำได้
แต่การจะไปเที่ยวทะเลภูเก็ต เพื่อพักผ่อนหย่อนใจเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง และการเดินทางอ้างว่าเป็นการส่วนตัว แต่ทำไมมีเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกระดับมาอำนวยความสะดวกนักโทษอย่างเต็มที่ ตั้งแต่ระดับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ผู้บังคับการตำรวจภูรจังหวัด ฯลฯ มีความเหมาะสมหรือไม่ หรืออาจจะเป็นเพราะข้าราชการระดับผู้ว่าราชการจังหวัดเห็นว่า แม้แต่คนระดับนายกรัฐมนตรี ยังไปรดน้ำดำหัวนักโทษถึงบ้านพักได้ แล้วคนเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด จะต้อนรับดูแลนักโทษไม่ได้อย่างไร
จึงอยากให้คุณทักษิณ ในฐานะที่เป็นนักโทษและได้รับการพักโทษเหมือนกัน พึงระมัดระวังสำรวมในการใช้ชีวิตในฐานะนักโทษพิเศษ อย่าให้เกิดภาพบาดตาบาดใจ หรือเหยียบย่ำหัวใจคนไทย ผู้รักความเป็นธรรมไปมากกว่านี้เลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อิ๊งค์' โพสต์ภาพคู่ 'ทักษิณ' สุขสันต์วันพ่อ อดทนไว้ เราจะได้ไปเที่ยวรอบโลกด้วยกัน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
'ทักษิณ' ร่วมเวที 'เสก โลโซ' ร้องเพลงใจสั่งมา ในเรือนจำกลางคลองเปรม
"ทักษิณ" ขึ้นเวทีเรือนจำฯ ควงไมโครโฟนร้องเพลง "ใจสั่งมา" บรรยากาศอบอุ่นมวลความสุข เพื่อนผู้ต้องขังกว่า 1,000 คน ต่างลุกโชว์สเต็ปแด๊นซ์
เพจดังงัดภาพใหม่กว่า ตบหน้าแฟนคลับพรรคแดง ขว้างงูไม่พ้นคอ ทักษิณก็รู้จัก 'เบน สมิธ'
จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังปรากฏภาพนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมเฟรมกับบุคคลระดับสูงในแวดวงการเมืองไทย ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
'เทพไท' ชี้ 5 ปัจจัยทำเพื่อไทยยึกยักสางแค้นซักฟอกรัฐบาล
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหา


