'ดร.เอ้' ยก 'ลอว์เรนซ์ หว่อง' แนะ ผู้นำไทย ควรเรียนรู้จากสิงคโปร์ เร่งทำ 4 เรื่อง

17พ.ค.2567- ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เรื่อง "ผู้นำไทย ควรเรียนรู้จากสิงคโปร์" มีเนื้อหาดังนี้

การสร้างคน สร้างชาติ สร้างสังคม ภายใต้ข้อจำกัด อย่างมหัศจรรย์ #เราทำได้

"ลอว์เรนซ์ หว่อง" ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีเจนสี่ ของสิงคโปร์ ประกาศต่อยอด "คัมภีร์สร้างชาติ" จากผู้นำ 3 รุ่นที่ผ่านมา โดยเฉพาะจาก "รัฐบุรุษลี กวนยู"
นายกรัฐมตรีสิงค์โปร์ทุกรุ่น เน้นการ "สร้างคน" สำคัญที่สุดเสมอ โดย "ลอว์เรนซ์ หว่อง" จะทำอะไรต่อจากนี้ น่าเรียนรู้ยิ่ง

1. "แสวงหาคนเก่ง" จากทั่วโลก
ลีกวนยู นายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์ ได้นักเศรษฐศาสตร์ชาวเนเธอร์แลนด์ ช่วยวางรากฐานทางเศรษฐกิจ ได้นักการทหารอิสราเอล ช่วงวางรากฐานกองทัพ ขณะเริ่มสร้างประเทศสิงค์โปร์
"คนเก่ง" มาจากชาติไหนไม่สำคัญ ขอให้มาอยู่ มาช่วยพัฒนาสิงคโปร์ ชาติก็เจริญ
อีกทั้ง จำนวนประชากรสิงคโปร์ เติบโตไม่ทัน
ลอว์เรนซ์ หว่อง จึงมุ่งให้ทุนการศึกษาเด็กมัธยมต้น จากชาติอาเซียน โดยเฉพาะ "เด็กไทยชั้นยอด" ให้ไปเรียนมัธยมปลาย มหาวิทยาลัย จบออกมาทำงานในสิงคโปร์ และให้สิทธิ์เป็นพลเมือง พร้อมพ่อแม่
แม้ประเทศไทย อาจน่าอยู่ แต่คุณภาพการศึกษา สิ่งแวดล้อม และโอกาสได้งานที่ท้าทาย อาจไม่โดนใจคนรุ่นใหม่ เท่ากับสิงคโปร์ เราจึงสูญเสียยอดเด็กไทยไปอยู่สิงคโปร์เพิ่มขึ้นทุกปี

2. "เน้นปัจจัยสี่" สำคัญที่สุด
อาหาร เครื่องนุ่งห่ม บ้าน และยารักษาโรค คือ ปัจจัยสี่ คือ พื้นฐานของชีวิต แต่ความท้าทาย คือ แม้พลเมืองจะมีรายได้สูง แต่อาหารและค่าครองชีพสูงขึ้นทุกวัน รัฐบาลสิงคโปร์จะลดค่าครองชีพได้อย่างไร
คนรุ่นใหม่ก็ไม่มีกำลังซื้อบ้าน เพราะที่ดินมีจำกัด ทำให้บ้านราคาสูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
ลอว์เรนซ์ หว่อง เกิดในบ้านการเคหะ ที่ริเริ่มโดยลี กวนยู เมื่อ 50 ปีก่อน ผมเคยไปเยี่ยมเมื่อครั้งเป็นประธานการเคหะแห่งชาติ หลายปีก่อน บ้านการเคหะสิงคโปร์แม้ห้องขนาดเล็ก แต่น่าอยู่ สิ่งแวดล้อมดี แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ และบ้านการเคหะสิงค์โปร์ก็ไม่ได้ราคาถูกในวันนี้
ลอว์เรนซ์ หว่อง สนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ มีบ้านของตนเอง ไม่เป็นหนี้เยอะ โดยให้แต้มต่อ คนเพิ่งเริ่มต้นทำงาน ได้ผ่อนบ้านในราคาพิเศษ ที่รัฐช่วยอุดหนุน
ด้านสาธารณสุข สิงคโปร์ประกาศเป็นผู้ผลิตเทคโนโลยีการแพทย์ และยารักษาโรค พึ่งพาตนเองและส่งออกได้ เพื่อความมั่นคงทางสุขภาพ และลดค่าใช้จ่ายในการนำเข้ามหาศาล
เมื่อ คนรุ่นใหม่มีบ้านของตนเอง ใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ไม่ก่อหนี้เกินตัว ย่อมมีพลังในการทำงาน สร้างเศรษฐกิจเข้มแข็ง

3. "สิ่งแวดล้อมดี คุณภาพชีวิตดี" คือ ลมหายใจของเมือง
สิงค์โปร์ มีโรงงาน มีท่าเรือ มีโรงเผาขยะ แต่แทบไม่มี PM 2.5 จากภายในประเทศ และพื้นที่สีเขียว 66 ตารางเมตรต่อคน มากกว่ากทม. 10 เท่า!
ลอว์เรนซ์ หว่อง ประกาศว่า คุณภาพชีวิตของคนสิงคโปร์ ตื่นนอนสดชื่น เดินมาขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้า ไม่เกิน 5 นาที กลับบ้านตรงเวลา รถไม่ติด "น้ำไม่ท่วม" มีเวลากับลูกและครอบครัว ความปลอดภัยต้อง 100%
เพราะถึงแม้มีเงิน แต่หากสิ่งแวดล้อมไม่ดี คุณภาพชีวิตก็ไม่ดี สิ่งแวดล้อมดีจึงทำให้สิงคโปร์เป็นเมืองที่น่าอยู่ น่าทำงาน

4. "สร้างสังคมนวัตกรรม" คือ ความอยู่รอดทางเศรษฐกิจ
ลอว์เรนซ์ หว่อง จะต่อยอดนโยบาย ตามอดีตนายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง ในการเปลี่ยนเศรษฐกิจของสิงคโปร์ จากเมืองท่าสู่บริการการเงิน จากบริการการเงินสู่การส่งออกเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยมุ่งสร้างคนจำนวนมาก ด้าน AI คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการแพทย์ และพลังงานทดแทน อย่างจริงจัง
เพราะ เศรษฐกิจในอนาคต จะรุ่งเรืองได้ ต้องมาจาก "เศรษฐกิจนวัตกรรม" ที่อาศัยพลังสมองชั้นยอดของพลเมือง สิงค์โปร์จึงต้องเน้นเรื่องการสร้างคน
แม่ของ ลอว์เรนซ์ หว่อง เป็นครูประถม ผู้ทุ่มเทกับการเรียนของลูก จนลูกได้เรียนปริญญาตรีและปริญญาโท ด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐ ก่อนกลับมาทำงานการเมือง เป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษา เป็นนายกรัฐมนตรี
จึงมั่นใจการขับเคลื่อน เรื่องการศึกษา ในยุคนายกฯ ลอว์เรนซ์ หว่อง น่าจะก้าวกระโดดเช่นกัน
เมื่อเรียนรู้จากสิงคโปร์แล้ว นายกรัฐมนตรีประเทศไทย ควรเร่งทำ 4 เรื่องนี้เช่นกัน ต้องไม่ทำงาน "ฉาบฉวย" แม้แต่เรื่องเฉพาะหน้า ยังแก้ปัญหาไม่เบ็ดเสร็จ
"การศึกษาไทย" ยังวังเวง แทบไม่มีการพัฒนา เพราะนายกฯไม่ใส่ใจ "โรงงานสารเคมี" ถูกปล่อยไว้ ไฟไหม้ซ้ำซาก ทำลายสิ่งแวดล้อม "บ่อนเสรี" มีเมื่อไม่พร้อม จะกำลังจะมาทำลายอนาคตลูกหลาน "ยาเสพติด" เต็มเมือง เปิดร้านขายกัญชาได้ที่หน้าโรงเรียน
อนาคตไทย อยู่ที่ "ผู้นำ" จะทำเพื่อชาติ หรือ ทำเพื่อตนเองและพวกพ้อง

ด้วยความห่วงใย และรักชาติยิ่ง
ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
#สิงคโปร์ #การศึกษาไทย #ผู้นำ #ลอว์เรนซ์ #ประเทศไทย #เอ้สุชัชวีร์

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ก้าวแรก.. ‘ไทยก้าวใหม่’ ‘ดร.เอ้’ นำทัพ สร้างชาติสตรอง

จากไทม์ไลน์การเมืองที่แน่ชัดว่า นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล จะยุบสภาภายในช่วงสิ้นเดือนมกราคม 2569 และจะมีการเลือกตั้งในช่วงวันที่ 29 มีนาคม 2569

เจี้ยไช้ผงาด! โรงเรียนการกุศลเล็ก ๆ พลิกหน้าประวัติศาสตร์การศึกษาไทย ปฏิวัติห้องเรียนด้วย Active Learning GPAS 5 Steps – ตบหน้าระบบล้าหลัง สร้างนวัตกรตั้งแต่ชั้นประถม

ประเทศไทยกำลังเผชิญ “วิกฤตการศึกษา” ที่ยืดเยื้อมานาน เด็กไทยเรียนหนัก แต่ยังถูกจัดอันดับ “คิดวิเคราะห์ไม่เป็น” อยู่ท้ายตารางโลก ครูถูกบังคับให้สอน เพื่อสอบ ผู้เรียนกลายเป็นเหยื่อของตำราและข้อสอบซ้ำซาก ในขณะที่ประเทศคู่แข่งในภูมิภาคเร่งพัฒนาไปข้างหน้าไม่หยุด

'อนุทิน' ฟิต! ลงพื้นที่กลางดึก ติดตามการซ่อมแซมถนนทรุดตัว คาด 2 สัปดาห์ คืนพื้นผิวการจราจร

'อนุทิน' ฟิต! ลงพื้นที่กลางดึกติดตามความคืบหน้าการเร่งซ่อมแซมพื้นถนนสามเสนทรุดตัว เผย อยู่ระหว่างรอคอนกรีตเซตตัวอุดรอยรั่วป้องดันดินสไลด์ คาด 2 สัปดาห์ สามารถคืนพื้นผิวการจราจร พร้อมกำชับ ให้ระวังความเสี่ยงกับประชาชนและผู้สัญจรไปมา

'นายกฯสิงคโปร์' โทรยินดี 'อนุทิน' ย้ำสองประเทศเดินหน้าความร่วมมือ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลอว์เรนซ์ หว่อง ได้โทรศัพท์มาแสดงความยินดี