“พีระพันธุ์” ย้ำต้องแก้กฎหมายเพิ่มอำนาจกระทรวงพลังงาน กำหนดเพดานราคาน้ำมัน – ค่าการตลาด พร้อมส่งร่างไปสภาฯหลังผ่านขั้นตอนรายงานให้นายกฯรับทราบ และรับฟังความคิดเห็น วอนม็อบรถบรรทุกใจเย็นรอต่ออีกสักหน่อยจะได้ใช้น้ำมันราคาถูก
3 ก.ค.2567 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกช่วงครึ่งหลังของปี 2567 ว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับในปัจจุบัน โดยหากไม่มีสถานการณ์พิเศษแบบที่เคยเกิดราคาน้ำมันในตลาดโลกก็จะไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปมาก
เมื่อถามว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะสามารถดูแลราคาน้ำมันให้ประชาชนไปจนถึงสิ้นปีได้หรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่าเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องกฎหมายก็ต้องดูและปรับรูปแบบซึ่งกระทรวงพลังงานเรากำลังปรับกฎหมายอยู่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของกระทรวงที่ต้องไปทำกฎหมาย
“รูปแบบเดิมกฎหมายเคยให้กระทรวงพลังงานมีอำนาจในการกำหนดเพดานน้ำมัน”
เมื่อถามย้ำว่าในเรื่องของเพดานน้ำมันดีเซลที่มีการกำหนดไว้จะต้องปรับลงมาหรือไม่ เพราะกลุ่มรถบรรทุกที่จะเข้ามาประท้วงอยากให้ราคาน้ำมันดีเซลลงมาอีก นายพีระพันธุ์ก็ย้ำว่าที่ผ่านมาไม่มีการเตรียมการในเรื่องนี้ไว้เลยตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา เรากำลังปรับแก้ส่วนนี้อยู่เพื่อให้ประชาชนไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับตลาดโลก
ส่วนกฎหมายจะทันเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯในสมัยประชุมนี้หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน พยักหน้าแล้วบอกว่าทัน โดยอย่างน้อยที่สุดก่อนที่จะไปสู่การพิจารณาของสภาฯจะต้องมีการส่งร่างกฎหมายให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีดูก่อน
“ผมจะพยายามทำให้ทัน กฎหมายนั้นร่างเสร็จทันแน่นอน แต่ก็มีกระบวนการที่จะออกกฎหมายต้องมีการทำประชามติ รับฟังความคิดเห็นตรงนั้นจะทำให้ช้า ตอนนี้ตัวกฎหมายเสร็จแล้วกำลังทบทวน”
เมื่อถามว่าค่าการตลาดที่ผู้ขายน้ำมันได้รับสูงกระทรวงพลังงานจะเข้าไปดูได้หรือไม่ นายพีระพันธุ์ตอบว่ากฎหมายปัจจุบันกระทรวงไม่มีอำนาจอะไรสักอย่าง เป็นไปได้อย่างไร แล้วก็ปล่อยอยู่กันมาแบบนี้ ก็ต้องมีการแก้กฎหมายให้กระทรวงมีอำนาจ ตอนนี้ยังไม่มี
ส่วนการแก้กฎหมายจะทันกับที่กลุ่มม็อบรถบบรรทุกจะเข้ามาหรือไม่ นายพีระพันธุ์ ตอบว่าในเรื่องนี้ถ้าจะรอสักหน่อย ใจเย็นๆจะได้ใช้ราคาน้ำมันราคาถูก ที่ผ่านมาไม่มีใครทำในส่วนนี้วันนี้ผมจะเข้ามาทำให้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อรรถพล’สั่งระดมกำลังเร่งฟื้นฟูน้ำท่วมใต้ยันขนส่งน้ำมันไม่กระทบ
‘อรรถพล’ ยังคงติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณภาพน้ำมันในปั๊มและการขนส่งน้ำมัน-ก๊าซหุงต้มอย่างใกล้ชิด เร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้า ส่งมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา ฟื้นฟูระบบไฟฟ้าแก่อาคารและบ้านเรือนประชาชน และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไส้กรองรถยนต์และรถจักรยานยนต์


