'ศุภชัย' ย้ำกัญชาไม่ใช่ยาเสพติดตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.2564

'ศุภชัย' ย้ำกัญชาไม่ใช่ยาเสพติด เรียกร้องกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ ทำความเข้าใจกฎหมายยาเสพติดใหม่ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.2564

12 ม.ค.2564 - นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดราม่ากัญชาระหว่าง ภท.-สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ในเรื่องการปลูกกัญชาว่า เดิมประเทศไทยมีกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดคือ พ.ร.บ.ยาเสพติดปี 2522 ในมาตรา 7 ประเภท 5 ระบุไว้ว่า กัญชาเป็นยาเสพติดประเภท 5 ใช้มาตั้งแต่ปี 2522 จนกระทั่งรัฐสภาชุดปัจจุบัน คือ ส.ส. และ ส.ว. ได้ร่วมกันพิจารณากฎหมายอีกฉบับหนึ่ง กฎหมายหลักคือประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งตนเองเป็นรองกรรมาธิการฯ และร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดนี้ มาตรา 29 บอกว่า ประเภท 1 คืออะไร ประเภท 2 คืออะไร จนถึงประเภท 5 คืออะไร ตามประมวลปี 2564 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2564 หลักสำคัญคือ ยกเลิกกฎหมายเก่าของปี 2522 พอเริ่มใหม่ไม่มีกัญชาแล้ว ที่ไม่มีกัญชาเพราะว่าเป็นเจตนารมณ์ของรัฐบาลชุดนี้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้แถลงนโยบายกับรัฐสภาว่า จะสนับสนุนกัญชาและโดยตลอดที่ผ่านมานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายฯ และ รมว.สาธารณสุข ก็สนับสนุนให้นำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ขยายจนเป็นอาหาร จนกระทั่งในที่สุดกฎหมายก็ออกมา และประเภท 5 ก็ไม่ได้ใส่คำว่ากัญชาไว้

“ถ้าเจตนารมณ์ต้องการให้มีกัญชา ก็ต้องเสนอร่างมาตั้งแต่แรก ว่าให้มีกัญชา และถ้าสมาชิกรัฐสภา ถ้าต้องการให้มีกัญชา ท่านก็ต้องแปรญัตติใส่กัญชาเข้าไป หรือถ้ากรรมาธิการประสงค์ให้มีกัญชาก็ต้อง สงวนความเห็นขอใส่กัญชาเข้าไป แต่ขณะนี้ไม่มีกัญชา เพราะเราได้คิดตรงกันว่า กัญชาจะถูกปล่อยให้เป็นประโยชน์และไม่เป็นยาเสพติดอีกต่อไป”

นายศุภชัยกล่าวว่า ที่ ป.ป.ส.ได้ตีความว่า พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด คือประมวลใหม่นี้ มาตรา 8 บอกว่าประกาศอะไรที่ยังไม่ถูกยกเลิกก็ให้ใช้ได้ต่อไป แต่พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดมาตรา 8 นี้ ระบุไว้ ประกาศที่ใช้ได้ต้องไม่ขัดหรือแย้งกับประมวล ถ้าถามตนเอง ก็คือประเภท 5 ไม่มีกัญชาแล้ว แล้วอยู่ๆ ป.ป.ส.บอกว่า ใครปลูกกัญชาต้องขออนุญาต จึงบอกว่า มันก็ขัดหรือแย้งกับประมวลใหม่ นี่คือการตีความ และเมื่อถามนักกฎหมายทั่วไปก็เห็นตรงกัน นี่คือเจตนารมณ์ของกฎหมาย ซึ่งกฎหมายอาญาจะต้องตีความอย่างเคร่งครัด

นายศุถชัยกล่าวต่อว่า ที่ ป.ป.ส.ระบุว่า กลุ่มหรือบุคคลที่สามารถปลูกกัญชาได้นั้นมีอยู่แค่ 4 กลุ่มเท่านั้น คือหน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์สถาบันอุดมศึกษาที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัย และผู้ประกอบอาชีพอิสระ อย่างเกษตรกรรมที่รวมตัวรวมกลุ่มกันเป็นวิสาหกิจชุมชน บุคคล 4 กลุ่มนี้สามารถปลูกกัญชาได้เท่านั้น ป.ป.ส. อ้างตามกฎหมายเก่า และอ้างแบบไม่ทันสมัย หลังจากนั้น รมว.สาธารณสุขได้ออกประกาศขยายเป็น 7 กลุ่มแล้วไม่ใช่ 4 กลุ่มอย่างที่ ป.ป.ส.กล่าวอ้าง และขอย้ำว่าปัจจุบันกฎหมายเก่าได้ถูกยกเลิกไปแล้ว หลักการสำคัญวันนี้คือ ไม่มีอยู่ตรงส่วนไหนของประมวลกฎหมายยาเสพติดไว้เลยว่ากัญชาเป็นยาเสพติด

นายศุภชัยกล่าวอีกว่า ได้มีการติดตามข้อมูลว่าหลังวันที่ 9 ธันวาคม 2564 เป็นต้นมา ซึ่งประมวลกฎหมายยาเสพติดมีผลบังคับใช้แล้ว แต่มีคดีที่ชาวบ้านถูกจับ และฟ้องคดีจำเลยรับสารภาพ ศาลก็ลงโทษ แต่เท่าที่ตรวจดูปรากฏว่า ศาลได้ฟ้องตามกฎหมายเดิม ซึ่งกฎหมายนั้นได้ถูกยกเลิกไปแล้ว นี่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ในกระบวนการยุติธรรม จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้กลับไปย้อนดูคดีหลังวันที่ 9 ธันวาคม 2564 ว่ามีการถูกฟ้องหรือว่าพิพากษาคดีตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ที่ถูกยกเลิกหรือไม่

“ล่าสุดเมื่อเช้านี้มีผู้ที่เป็นอัมพฤกษ์ได้ติดต่อมา โดยบอกว่าได้ปลูกกัญชาไว้ 1 ต้นเพื่อที่จะนำมารักษาตนเอง แต่ปรากฏว่าตำรวจไปจับและนำตัวไปโรงพัก และได้ประกันตัวที่ชั้นโรงพักแล้ว เขาได้โทรมาปรึกษาตามที่ประกาศไว้ เห็นได้ว่านี่คือกรณีที่ปลูกกัญชาเพื่อที่จะรักษาตนเอง และนี่คือสิ่งที่กำลังวิกฤต และวันนี้ ส.ส.ภูมิใจไทย จะร่วมกันออกมาเพื่อดูแลและปกป้องประชาชน“นายศุภชัย กล่าวทิ้งท้าย

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' ปาฐกถาพิเศษ 1 ชม. พูดเรื่องธุรกิจอสังหาฯ ในฐานะนายกฯ รับสับสนนิดหน่อย

“เศรษฐา” ร่ายยาวเกือบ 1 ชม. เหน็บบางคนนั่งทางในบนหอคอย ลองลงมามือเปื้อนดินตีนเปื้อนโคลนบ้าง โวคนไทยโชคดีที่มีนายกฯ Pro Business พ้อ รมว.คลัง ไม่มีอำนาจลดดอกเบี้ย ทั้งที่แพงโคตร ลั่นไม่เคยเลียรองเท้าบูธ ขอคืนพื้นที่ทหาร

รัฐบาลช่วย SME ไทย เข้าถึงแหล่งเงินทุน ผ่านมหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจ

รัฐบาลบูรณาการความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับ SME ไทย ผ่านการจัดงานมหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจ

'อนุทิน' นั่งหัวโต๊ะตอกย้ำแนวปฏิบัติจัดระเบียบสังคม

'อนุทิน' นั่งหัวโต๊ะวางแนวปฏิบัติคณะทำงานบูรณาการมหาดไทย – ตำรวจ ขับเคลื่อนจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้กระทำผิด ชี้ความมั่นคงคือหัวใจเมื่อประชาชนเชื่อมั่น สังคมปลอดภัยแล้วเศรษฐกิจจะตามมา

'เศรษฐา' สั่ง 'ชลน่าน' แล้วให้จับตาโรคแอนแทรกซ์อย่างใกล้ชิด

นายกฯ สั่งการติดตามสถานการณ์เพิ่มการเฝ้าระวังโรคทั้งในคนและสัตว์ ดูแลประชาชน ย้ำหากพบโค-กระบือป่วยตายผิดปกติ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่