24 ก.ย.2567 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดําเนินมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็ก (ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 บ้านอยู่อาศัย และประเภทที่ 2 กิจการขนาดเล็ก ตามประกาศโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าในปัจจุบันของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) ในพื้นที่ที่หน่วยงานราชการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากอุทกภัย ตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอ โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้จัดทําข้อเสนอเพื่อดําเนินมาตรการช่วยเหลือด้านค่าไฟฟ้า สําหรับค่าไฟฟ้าประจําเดือนก.ย.และเดือนต.ค. 67 โดย 1.ไม่เรียกเก็บค่าไฟฟ้าประจําเดือนก.ย. 67 และกําหนดให้เป็นส่วนลดก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม และ2.ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าร้อยละ 30 โดยกําหนดให้เป็นส่วนลดก่อนการคํานวณภาษีมูลค่าเพิ่ม สําหรับค่าไฟฟ้าประจําเดือนต.ค. 67 ทั้งนี้ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าไฟฟ้าให้กับผู้ประสบภัย
ขณะเดียวกันเพจเฟซบุ๊ก Ing Shinawatra ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความว่า มติคณะรัฐมนตรี ประจำวันที่ 24 กันยายน 2567 มีประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้
1. ไม่เก็บค่าไฟพื้นที่อุทกภัย : คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เรื่องมาตรการช่วยเหลือด้านค่าไฟฟ้า แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ประสบอุทกภัยจากในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือน กันยายน – ตุลาคม 2567 โดยที่เดือนกันยายน 2567 ไม่เรียกเก็บค่าไฟฟ้า และเดือนตุลาคม 2567 ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าร้อยละ 30 โดยกำหนดให้เป็นส่วนลดก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม
2. ขยายเวลาพักหนี้เกษตรกร : คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เรื่องมาตรการพักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้รายย่อยตามนโยบายรัฐบาล ระยะที่ 2 และระยะที่ 3 และการพัฒนาศักยภาพเพื่อฟื้นฟูลูกหนี้ ธ.ก.ส. เพื่อให้เกษตรกรผู้เข้าร่วมมาตรการดังกล่าวได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โดยระยะที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 – 30 กันยายน 2568 และระยะที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 – 30 กันยายน 2569
3. ‘ทางรัฐ’ ลงทะเบียนน้ำท่วม: จากการได้รับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และอาสาสมัคร จึงได้สั่งการให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคณะอนุกรรมการ คอส. และ ศปช. ดำเนินการศึกษา ถึงความเป็นไปได้ในการใช้แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น เหตุการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ สำหรับการรายงานตัวของอาสาสมัคร การแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ การรายงานเหตุฉุกเฉิน การขอความช่วยเหลือ การลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยา การประสานงานกับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เกิดการบูรณาการในการทำงาน และเกิดความรวดเร็วทั้งในส่วนภาครัฐ และประชาชน รวมถึงเร่งรัดให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เร่งดำเนินการการใช้ Cell broadcast เพื่อให้การแจ้งเตือนภัยแก่ประชาชนเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว
ทีมงานนายกรัฐมนตรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ยศชนัน' ลงจากหอคอยพบชาวนา ชูเทคโนโลยีแก้น้ำทั้งระบบ
“ยศชนัน-จุลพันธ์” นำเพื่อไทยยกทัพลุยอยุธยา รับฟังปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก-ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ชูแก้น้ำท่วมทั้งระบบ ระบายน้ำเป็นธรรม ใช้ข้อมูลจริง-เทคโนโลยี-วิศวกรรม วางแผนป้องกัน-เยียวยาครบวงจร
เรื่องราวทีมงานด่านหน้าของทรู ที่ทุ่มเททำงานด้วยหัวใจ เพื่อให้ทุกสัญญาณเชื่อมต่อกันในวิกฤตอุทกภัยภาคใต้
วิกฤตน้ำท่วมภาคใต้เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2568 ไม่เพียงสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนและชีวิตผู้คน แต่ยังตัดขาดการสื่อสารในหลายพื้นที่ ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ ยังมีทีมงานด่านหน้าของทรูที่ทุ่มเททำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ไม่เพียงดูแลเครือข่าย แต่ยังทำให้ทุกสัญญาณยังสามารถเชื่อมต่อและสื่อสารกันได้ เพื่อให้ทุกคนสามารถติดต่อ รับข่าวสาร และส่งความห่วงใยถึงกันได้ในช่วงเวลาที่มีความหมายที่สุด
'อนุทิน' ระวัง! ติดกับดักตัวเอง ปมคำถามประชามติ
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี วางกับดักตัวเอง ในการส่งคำถามประชามติของคณะรัฐมนตรี
อุตุฯ เตือนอากาศเย็น อุณหภูมิลด 1-2 องศา ใต้ฝนตกหนัก
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีก 2 องศาเซลเซียส เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็น
ยึด‘ช่องอานม้า’ 2.4พันล.สู้เขมร
“ครม.” อนุมัติงบกลาง 2.4 พันล้าน ให้กองทัพสู้ศึกชายแดน
PORCELA (พอร์ซเซล่า) ปันสุข ผนึกกำลังพันธมิตรดีลเลอร์ ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หาดใหญ่
บริษัท ร่วมพัฒน์เซรามิค จำกัด ผู้นำด้านนวัตกรรมกระเบื้องเพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ภายใต้ แบรนด์ PORCELA (พอร์ซเซล่า) เดินหน้าดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ “โครงการ PORCELA ปันสุข ปีที่ 6” เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย สะท้อนบทบาทองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจควบคู่ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (ESG)

