
4 ต.ค.2567 - คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) สถาบันสังคมประชาธิปไตย (Social Democracy Think Tank) มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’ 35
มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา ออกแถลงการณ์ ระบุว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ที่ว่า “ประเทศไทยเราเผชิญกับความไร้เสถียรภาพทางการเมืองมาอย่างยาวนาน อันเป็นผลจากการรัฐประหาร ความขัดแย้งแบ่งขั้วที่รุนแรง รวมถึงการถอดถอนรัฐบาลออกจากอำนาจในแบบที่คาดเดาไม่ได้ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศไทย ได้รับผลกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้”
คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และองค์กรประชาธิปไตย เห็นว่า การดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาข้างต้นของฝ่ายการเมือง ทั้งรัฐบาล สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภานั้น เป็นไปด้วยความล่าช้าและผิดไปจากคำมั่นสัญญา ซึ่งพรรคการเมืองต่าง ๆ เคยให้ไว้แก่ประชาชนในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา กรณีที่ชัดเจนที่สุดคือ การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน ล่าช้าออกไปมาก และมีทีท่าว่าจะไม่ทันภายในวาระของสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน
ยิ่งไปกว่านั้น แม้รัฐบาลและฝ่ายการเมืองต่าง ๆ จะตระหนักว่า “ประเทศไทยเราเผชิญกับความไร้เสถียรภาพทางการเมืองและความขัดแย้งแบ่งขั้วอุดมการณ์ที่รุนแรงมาอย่างยาวนาน” แต่ฝ่ายการเมืองกลับไม่ได้มีทิศทางที่ชัดเจนว่าจะแก้ไขความขัดแย้งทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตอย่างไร อีกทั้ง ยังมีแนวโน้มว่าการพิจารณาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมซึ่งเป็นเครื่องมือหนึ่งในการแก้ไขความขัดแย้งจะเป็นไปด้วยความล่าช้าอีกเช่นกัน
ดังนั้น ด้วยการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 2 ครั้งที่ 29 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง)วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2567 ซึ่งมีวาระการพิจารณา “รายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม” ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้วนั้น ครป. ขอเรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎรเร่งเดินหน้าพิจารณารายงานฉบับดังกล่าวโดยไม่รีรอ เพื่อเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลฝ่ายการเมืองต่าง ๆ และประชาชน ที่ต้องการจะแก้ไขความขัดแย้ง ตลอดจนคืนความยุติธรรมให้แก่ผู้ถูกกล่าวหา ผู้ต้องหา จำเลย หรือนักโทษคดีการเมือง โดยเฉพาะผู้ที่ถูกดำเนินคดีอันเนื่องมาจากการทำกิจกรรมทางการเมืองโดยสงบ สันติ และปราศจากอาวุธ ตลอดจนนักโทษทางความคิด ความเชื่อ หรือผู้ที่ถูกกลั่นแกล้งดำเนินคดีเพราะเหตุผลทางการเมือง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดร.ปลอดประสพ ประกาศลั่นไม่เชื่อรัฐบาลอีกแล้ว ยก 4 ข้อดีแต่พูด!
อดีตรองนายกฯปลอดประสพ ประกาศไม่ขอเชื่อรัฐบาลอีกแล้ว หลังเห็นเพียงคำพูดไร้การลงมือ ยกตัวอย่างปัญหาน้ำ วาระแห่งชาติสแกมเมอร์ เชลยศึกเขมร และการแก้รัฐธรรมนูญ สรุปเปรี้ยง!ดีแต่พูดและไม่ค่อยทำ
กมธ.นิรโทษกรรม พร้อมดันวาระ 2-3 ให้ทัน ต.ค.นี้ ปชน. ยืนกรานล้างคดี 112 ให้เยาวชนต่ำกว่า 18 ปี
นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ…. ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ในชั้นกมธ.ฯ ว่า ขณะนี้กมธ.ฯ
'อนุทิน' ปิดการแถลงนโยบาย ลั่น 4 เดือนนี้ทะเลาะกันไม่ได้ แข่งกันทำความดีให้ประชาชน
“อนุทิน” ขอบคุณสมาชิกรัฐสภา ร่วมเสนอแนะนโยบาย ยัน 4 เดือน ยุบสภา แก้ไข รธน.เชื่อ วางรากฐานให้รัฐบาบหน้ามาสานต่อ ลั่น นี่ “หนูนะครับ”ไม่ใช่ “เป็ดง่อย” ขอให้มั่นใจทำหน้าที่ตั้งแต่วินาทีนี้
'สีหศักดิ์' แถลงนโยบายการต่างประเทศ เน้นทำงานมีเอกภาพกับฝ่ายทหาร
“สีหศักดิ์” แจงนโยบายการต่างประเทศ ไทยต้องมียุทธศาสตร์ข้อมูลข่าวสาร หลังเขมรนำไปสร้างความได้เปรียบ ยัน ไม่ปิดประตูเจรจา รอกัมพูชาพร้อม แสดงความจริงใจ ย้ำ เน้นการทำงานมีเอกภาพระหว่างการทูต-ทหาร
'ศิริกัญญา' โวยภูมิใจไทยให้เป็นรัฐบาล 4 เดือน แก้รธน.-ยุบสภา ไม่ใช่แจกคนละครึ่ง
"ศิริกัญญา" อัดรัฐบาลลุกลี้ลุกลนเดินเครื่องโครงการคนละครึ่ง อาจซื้อเสียงล่วงหน้าหรือไม่ ชี้ไม่คาดหวัง 4 เดือนแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ แต่อย่างสร้างความเสียหายที่ไม่สามารถกลับไปแก้ได้ในอนาคต ถามจะมีประโยชน์อะไรหากรัฐมนตรีคนนอกโปรไฟล์ดีนั่งนิ่งยอมให้รัฐบาลทำอะไรก็ได้
ปชน. ชี้ปมเขากระโดงเป็นเครื่องพิสูจน์รัฐบาลอนุทิน ยึดหลักนิติธรรมหรือระบบพวกพ้อง
“จุลพงศ์” ชี้คดีเขากระโดงควรจบนานแล้ว แต่ถูกเตะถ่วงใช้เป็นเครื่องมือต่อรองการเมือง จี้ “พิพัฒน์” ใช้อำนาจ รมว.คมนาคม สั่ง รฟท. ฟ้องเพิกถอน 2 แปลงที่มีหลักฐานชัดเป็นที่การรถไฟฯ ได้ทันที พิสูจน์รัฐบาลนี้ยึดหลักนิติธรรมหรือใช้ระบบพวกพ้อง


