'ศรีสุวรรณ' ร้อง กกต. แล้ว! สอบปม 'พปชร.' ขับก๊วนธรรมนัส

‘ศรีสุวรรณ’ ร้อง กกต. สอบ ‘พปชร.’ มีมติขับ ‘ก๊วนธรรมนัส’ 21 คน พ้นพรรค ชอบด้วยข้อกฎหมายหรือไม่ หากฝ่าฝืนเข้าข่ายยุบพรรคได้

21 ม.ค. 2565 – ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อเวลา 10.00 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้งและนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อไต่สวนและวินิจฉัย กรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีมติให้ 21 ส.ส.ของพรรคออกจากสมาชิกสภาพ เป็นการดำเนินการโดยชอบด้วยข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ 2561 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 หรือไม่ อย่างไร

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อค่ำวันที่ 19 ม.ค.65 ที่ผ่านมา มีการประชุมร่วมกันของคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของพรรค โดยมีมติให้ ส.ส. 21 คน ที่เป็นกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค โดยอ้างกลุ่ม ส.ส.ดังกล่าวมีการเรียกร้องให้ปรับโครงสร้างพรรคขนานใหญ่ ถือได้ว่าเป็นเหตุที่ร้ายแรงที่กระทบกับเสถียรภาพและเอกภาพของ พปชร. โดยมีมติตามข้อบังคับข้อที่ 54(5) ประกอบวรรคท้าย ให้สมาชิกภาพสมาชิกสิ้นสุดลงเนื่องจากเป็นเหตุร้ายแรง เป็นเรื่องความมั่นคง เอกภาพ เสถียรภาพของพรรค

การมีมติดังกล่าว มีข้อสงสัยหลายประการ ดังนี้ 1) การที่สมาชิก หรือ ส.ส.เรียกร้องให้ปรับโครงสร้างพรรคขนานใหญ่ จะถือได้ว่าเป็นเหตุที่ร้ายแรง จนต้องให้ออกจากสมาชิกพรรคนั้น ชอบหรือไม่ 2) การที่มี 17 กรรมการบริหารพรรคและ ส.ส. 61 คน รวมทั้งสิ้น 78 คนประชุมกันแล้วมีมติให้สมาชิกพรรคออกจากสมาชิกภาพ โดยมิได้มี ส.ส.ทั้งหมดของพรรคเข้าร่วมประชุมจนครบ จะถือว่าชอบหรือไม่ 3) ข้ออ้างในการมีมติเห็นชอบให้ ส.ส.21 คน พ้นจากการเป็นสมาชิกภาพของพรรคนั้นโดยอ้างข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ ข้อ 54 (5) ว่าเป็นเหตุร้ายแรงอื่นนั้น โดยที่พรรคพลังประชารัฐไม่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาไต่สวน สอบสวน สมาชิกทั้ง 21 คนเพื่อหาข้อสรุปก่อนที่จะเสนอให้ที่ประชุมร่วมของพรรคพิจารณาเสียก่อนนั้น ชอบหรือไม่ และ 4) ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่ถูกให้ออกนั้น ต้องพ้นสภาพ สส.ไปเลยหรือไม่ เนื่องจากมิได้เกิดเหมือนกรณีการขอยุบพรรคหรือการถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค เพราะถ้าย้ายพรรคไปแล้วก็จะไปแซงบัญชีของพรรคอื่น หรือ ไปอยู่พรรคใหม่ที่ไม่เคยส่งเลือกตั้ง ก็จะไปเป็นบัญชีรายชื่อของพรรคนั้นๆ โดยไม่เคยถูกเลือกมาเลยไม่ว่าจะแบบไหน ซึ่งน่าจะหมดสภาพ ส.ส. ไปเลย และบัญชีรายชื่อ ของ พปชร. ลำดับถัดไปน่าจะได้ขึ้นมาแทนที่หรือไม่ อย่างไร

ด้วยข้อสงสัยข้างต้นซึ่งอาจขัดต่อข้อบังคับพรรคและกฎหมาย สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญจึงต้องมาแจ้งต่อ กกต.ให้ดำเนินการตรวจสอบ หากพบเป็นการฝ่าฝืนย่อมอาจเข้าข่ายกระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 92 (2) ซึ่งเป็นเหตุให้ กกต. อาจเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือสั่งยุบพรรคที่ฝ่าฝืนนั้นได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ

กกต.ขยับรับสมัครอบต.ใต้เป็น 8-12 ธ.ค. เหตุอุทกภัยกระทบหลายจังหวัด

กกต.ปรับรอบรับสมัครเฉพาะ 5 จังหวัดน้ำท่วม ส่วนจำนวน อบต.ทั่วประเทศลดเหลือ 4,985 แห่งจากการยกฐานะเป็นเทศบาล ต้องแบ่งเขตใหม่ก่อนจัดเลือกตั้งช่วงเมษายน 2569 หลายพื้นที่เปิดรับสมัครวันแรกคึกคัก

กกต. แจงนักการเมือง-พรรค บริจาคช่วยน้ำท่วมได้เต็มที่ แต่ระดับท้องถิ่นต้องระวังช่วง 180 วันก่อนครบวาระ

กกต. ชี้ "บริจาคช่วยภัยพิบัติ" สส.-สมาชิกพรรคทำได้เต็มที่ไม่เกินครั้งละ 3 แสนบาท แต่จะบริจาคกี่ครั้งก็ได้ ส่วนพรรคการเมืองไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อเหตุการณ์ ย้ำโปร่งใส–โฆษณาได้