11 ธ.ค. 2567 - นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่าสนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อในเหล็ก สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อในเหล็ก เป็นคำโบราณ ที่ยังเป็นจริงอยู่ตลอดกาลคือปัญหาภายในองค์กรใด ก็มักจะเกิดจากคนในองค์กรนั้นและบ่อนทำลายจนความเชื่อถือศรัทธา ในหมู่ประชาชนสิ้นศูนย์
- กรณีคดีป่วยทิพย์ ที่ปปช.ตรวจสอบไต่สวนอยู่นั้น และมีข่าวเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า มีไอ้โม่งพยายาม เป่าคดี และถ่วงคดีจนกระทั่ง คณะตรวจสอบไต่สวนโดยเฉพาะหัวหน้า หรือประธาน ที่เป็นผู้แทนมาจากศาลฎีกาไม่ยอม ยืนยันมติของคณะตรวจสอบใต่สวนให้ชี้มูลความผิดกราวกรูด กระทั่งมีข่าวว่า ถ้าไอ้โม่งคนไหนพยายามถ่วงเรื่อง ที่ตรวจสอบไต่สวนเสร็จแล้ว เพื่อไม่นำเข้าคณะกรรมการใหญ่ปปช.ชุดใหญ่พิจารณา ก็อาจมีการไปแจ้งความดำเนินคดีกับไอ้โม่งคนนั้น
ล่าสุดปรากฏว่า เมื่อความสว่างไสวปรากฏขึ้นความมืดก็มลายหายไป ขณะนี้ไอ้โม่งยอมถอยแล้ว
ดังนั้น คดีป่วยทิพย์ชั้น 14 จะเข้าสู่การพิจารณาในคณะกรรมการป.ป.ชชุดใหญ่ ในวันพุธหน้า
แหล่งข่าวหลายกระแสยืนยันตรงกันในเรื่องนี้แล้ว
- ก็มาถึงคดีสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง คือคดีทุจริตจำนำข้าว ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด และในสมัยประธานศาลปกครองสูงสุดท่านก่อน ก็ได้ให้พิจารณาคดีนี้โดยมติของที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด เนื่องจากมีข่าวคราวอัปมงคลเกิดขึ้น ปรากฏว่าได้มีการพิจารณาลงมติในประเด็นแรกแล้วว่า อดีตนายกยิ่งลักษณ์ จะต้องรับผิดชอบจ่ายค่าเสียหายจากโครงการจำนำข้าวแก่รัฐหรือไม่ แหล่งข่าวระบุว่า มติที่ประชุมใหญ่ 40 กว่าเสียงต่อ 12 เสียง มีมติแล้วว่าจะต้องรับผิดหรือไม่
แต่เวลาไม่พอพิจารณาในประเด็นต่อไปว่า จะต้องชำระค่าเสียหายเป็นเงินเท่าใด จึงให้เลื่อนไป พิจารณาในคราวหน้า หลังจากนั้นประธานศาลปกครองสูงสุดก็พ้นจากตำแหน่ง และ คนใหม่ก็เข้ารับหน้าที่แทน ซึ่งสังคมกำลังสงสัยกันว่า ประธานศาลปกครองสูงสุดคนใหม่ ในประเด็นแรกเรื่องจะต้องรับผิดหรือไม่นั้น เคยลงมติเป็นข้างมากหรือลงมติเป็นช้างน้อย แต่ที่ถามกันดังสนั่นมากขึ้นทุกวันก็คือ การพิจารณาต้องเป็นไปโดยรวดเร็ว ซึ่งเป็น ปกติการทำงานของศาล
ดังนั้น การที่ประเด็นที่ 2 เรื่อง จำนวนค่าเสียหายยังค้างอยู่จึง ทำให้คำพิพากษาเรื่องนี้ยังออกไม่ได้ และเกิดความเสียหายแก่รัฐ จึง เป็นภาระหน้าที่ ของประธานศาลปกครองสูงสุดท่านใหม่ ที่จะต้องดำเนินการต่อไปตามกฎหมายและการพิจารณาคดีในศาลปกครองนั่นคือจะต้องรีบนำเรื่องนี้ เข้าสู่การพิจารณาโดยที่ประชุมใหญ่ของศาลปกครองสูงสุดโดยเร็วที่สุด มิฉะนั้นเสียงถามไถ่เรื่องนี้ และการติดตามเรื่องนี้ก็จะดังสนั่นมากขึ้น มีแต่จะเกิดความเสียหายแก่ศาล และกระทบต่อความยุติธรรม และความเชื่อมั่นของประชาชนด้วย
ขณะนี้ผู้สื่อข่าวหลายสำนัก พยายามเจาะข่าวนี้กันอยู่ ว่าเหตุใด ประเด็นที่เหลืออยู่จึงค้างคาอยู่ จนถึงวันนี้ ซึ่งจะนำ ข่าวมารายงานเสนอต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
'ทักษิณ' ร่วมเวที 'เสก โลโซ' ร้องเพลงใจสั่งมา ในเรือนจำกลางคลองเปรม
"ทักษิณ" ขึ้นเวทีเรือนจำฯ ควงไมโครโฟนร้องเพลง "ใจสั่งมา" บรรยากาศอบอุ่นมวลความสุข เพื่อนผู้ต้องขังกว่า 1,000 คน ต่างลุกโชว์สเต็ปแด๊นซ์
เพจดังงัดภาพใหม่กว่า ตบหน้าแฟนคลับพรรคแดง ขว้างงูไม่พ้นคอ ทักษิณก็รู้จัก 'เบน สมิธ'
จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังปรากฏภาพนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมเฟรมกับบุคคลระดับสูงในแวดวงการเมืองไทย ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ศาลรับอุทธรณ์คดี ม.112 ให้ 'ทักษิณ' ยื่นคำแก้อุทธรณ์ภายใน 15 วัน
พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 ได้ยื่นคำอุทธรณ์คดี ที่ศาลอาญายกฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
ครอบครัวชินวัตร โชว์ภาพเยี่ยม 'ทักษิณ' แบบใกล้ชิดที่สุด โอกาสพิเศษช่วงปีใหม่
ครอบครัวชินวัตรเยี่ยม “ทักษิณ” ครั้งที่ 20 แบบใกล้ชิดในโอกาสพิเศษช่วงปีใหม่ที่คลองเปรม "อิ๊งค์-โอ๊ค"อุ้มภาพร่วมเฟรมพ่อในชุดนักโทษ โชว์สุขภาพสดใส ระบุได้นั่งกินข้าวโต๊ะเดียวกัน 2 ชั่วโมงเต็ม ทั้งก๋วยจั๊บ–แฮมเบอร์เกอร์ พร้อมพูดคุยยาวเรื่องน้ำท่วมภาคใต้


