'เทพไท' เคาะ 3 คำถามปมเลือกตั้ง อบจ.เพื่อถอดบทเรียน

05 ก.พ.2568 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊กในหัวข้อ “ตอบ3 คำถาม เรื่องการเลือกตั้ง อบจ.” ระบุว่า มีคำถามเกิดขึ้นมากมายต่อปรากฏการณ์ของการเลือกตั้งนายก อบจ. และสมาชิก อบจ.เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งมีการตั้งคำถามดังนี้

1.ทำไมคะแนนโนโหวตหรือโหวตโนมีจำนวนมาก คำตอบก็คือมาจากสาเหตุหลายอย่างแต่ที่สำคัญน่าจะเกิดจากตัวผู้สมัคร ในตำแหน่งนายก อบจ. หรือสมาชิก อบจ.เป็นบุคคลที่ไม่พึงปรารถนาของประชาชน ไม่มีตัวเลือกที่ดี ประชาชนไม่มีทางเลือก จึงใช้วิธีการโหวตโนหรือโนโหวต แต่จะเห็นได้ว่า มีบางเขตเลือกตั้งคะแนนโนโหวตหรือไม่ประสงค์ลงคะแนน มีจำนวนสูงกว่าคะแนนของผู้สมัครทุกคน จึงทำให้ กกต.ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งเป็นการแสดงออกทางการเมืองของประชาชนที่น่าชื่นชม ได้ใช้มาตรการทางกฎหมาย หรืออารยะขัดขืน ไม่เลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง ทำให้หมดสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่

2.ทำไมมีบัตรเสียจำนวนมาก ทั้งที่ประชาชนในยุคนี้ ส่วนใหญ่มีการศึกษาระดับภาคบังคับทั้งนั้น น่าจะมีความเข้าใจการลงคะแนนเสียงเป็นอย่างดี แต่ยังมีบัตรเสียอยู่อีก คำตอบก็คือ น่าจะเป็นคนผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ไม่รู้ข้อกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งว่า สามารถใช้สิทธิ์ลงคะแนนในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนได้ และจะมีผลต่อผู้สมัครรับเลือกตั้งด้วย เมื่อตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกใครดี หรือไม่มีบุคคลที่ถูกใจ ก็จะใช้วิธีการกาบัตร ทำให้บัตรเสียไป

3.ทำไมมีผู้มาใช้สิทธิ์น้อย ต่ำกว่าเป้าหมายของกกต. ที่ตั้งเป้าหมายไว้ 65% แต่มีผู้มาใช้สิทธิ์เพียง 58.45% คำตอบน่าจะมาจากเหตุผล 3 ประการ คือ

3.1 กกต.จัดการเลือกตั้งในวันเสาร์ ซึ่งจะมีประชาชนส่วนหนึ่ง ยังเป็นวันทำงานอยู่ ไม่สะดวกต่อการไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง และประชาชนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการเลือกตั้งวันอาทิตย์ไม่ใช่วันเสาร์เหมือนครั้งนี้

3.2 ไม่มีการลงคะแนนนอกเขตเลือกตั้ง และไม่มีใช้สิทธิ์ล่วงหน้า จึงทำให้ประชาชนส่วนหนึ่ง ที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด ไม่ได้เดินทางมาใช้สิทธิ์

3.3 จะมีประชาชนส่วนหนึ่งที่เสพติดการซื้อเสียง เพราะเลือกตั้งทุกครั้งทุกระดับ จะมีคนมาซื้อเสียง และจะรอผู้สมัครมาซื้อเสียงจนวินาทีสุดท้าย เมื่อไม่มีใครมาซื้อเสียง ก็ไม่ยอมออกไปใช้สิทธิ์ ซึ่งตรงกับคำพูดที่กล่าวกันว่า “เงินไม่มากาไม่เป็น” หรือไม่มีใครมาซื้อเสียงก็ไม่ไปใช้สิทธิ์

ขอให้ทุกฝ่ายนำประเด็นปัญหาเหล่านี้ไปถอดบทเรียนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กกต.ผู้มีส่วนสำคัญ รวมถึประชาชนคนไทยทุกคน ควรมีส่วนร่วมในการพัฒนาประชาธิปไตยไปด้วยกัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กกต.ชี้ผู้สมัคร พรรคส้ม ถูกจับยังไม่เข้าลักษณะต้องห้าม

กกต.กทม. แจงผู้สมัคร ส.ส. เขต 33 ปชน. ถูกจับข้อหาฟอกเงิน–ยาเสพติด ยังไม่เข้าลักษณะต้องห้าม หากศาลยังไม่ตัดสินเด็ดขาด พร้อมย้ำการเปลี่ยนผู้สมัครทำได้เฉพาะกรณีลาออก ตาย หรือมีคำพิ

'กกต.' สรุปยอดลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า 9 วัน เกือบ 7 แสนราย

กกต. สรุปตัวเลขผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง หรือเลือกต้องล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง นอกเขตเลือกตั้งและนอกราชอาณาจักร

'สมชัย' บอกชัด เบอร์พรรค-เบอร์คน คนละเบอร์อย่าด่า 'กกต.' ฝ่ายเดียว ต้องด่าใครบ้าง

ความวุ่นวายสับสนในเรื่องเบอร์พรรคกับเบอร์ผู้สมัครเขตของพรรคเป็นคนละเบอร์ ทำให้เป็นความยากลำบากแก่ประชาชนในการจดจำ ลำบากต่อ พรรคในการหาเสียง

'เทพไท' วิเคราะห์เทคนิคการจัดลำดับ 'ปาร์ตี้ลิสต์' 5 พรรคใหญ่ สู้ศึกเลือกตั้ง

การจัดลำดับปาร์ตี้ลิสต์ในพรรคต่างๆ ซึ่งแต่ละพรรคมีสไตล์การจัดลำดับแตกต่างกันไป แต่ที่เห็นคล้ายคลึงกันคือ ในบัญชีลำดับท้ายของปาร์ตี้ลิสต์จะเห็นคนที่มีบทบาทและคนที่มีชื่อเสียงหลายคน

เปิดขั้นตอนหย่อนบัตร8ก.พ.69 บัตร3ใบเลือกตั้งพ่วงประชามติ

ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูกาลการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อย่างเป็นทางการ โดยในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่จะมีการเลือกตั้ง สส. พร้อมกับการทำประชามติหนึ่งเรื่องในวันเดียวกัน โดยกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)