ย้อนกำเนิดรธน.2560 ฝ่ายอนาธิปไตย ต้องการรธน.ใหม่เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง


14 ก.พ.2568 - พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี หรือ เสธ.นิด อดีตนายทหารนักบินกองทัพอากาศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า

รัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ มีส่วนกำเนิดจากผลการชุมนุมต่อต้านระบอบทักษิณยุคนางยิ่งลักษณ์ซึ่งตามด้วยการรัฐประหารของ คสช. ซึ่ง คสช.พิจารณายึดอำนาจเพราะชาติบ้านเมืองนี้อาจจะเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นได้

เพราะมีแนวโน้มและสิ่งบอกเหตุหลายประการโดยเฉพาะฝ่ายระบอบทักษิณมีการใช้อาวุธร้ายแรง เช่น มีการปาระเบิด การยิงลูกระเบิด การใช้อาวุธสงครามยิงใส่ฝูงชนมีคนตายมากมายหลายคน
(ฝ่าย กปท./กองทัพธรรมได้ประเมินว่าจะมีผู้บริสุทธิ์ถูกยิงตรงหรือถูกลูกหลงตายจำนวนมากหาก คสช.ไม่ทำรัฐประหาร)

เมื่อ คสช.เข้ามาบริหารประเทศในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้นและมีความซับซ้อนมากมายระบอบทักษิณก็แทรกแซงซึ่ง คสช.ต้องรับสภาพนั้น

“แกนนำ กปท.รับรู้แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะหมดพลังนอกจาก ฝ่ายกปปส.ตั้งพรรคการเมืองรอเลือกตั้ง
เกิดวุฒิสภา เกิดสภาปฏิรูปประเทศ เกิดแนวคิดในการร่างรัฐธรรมนูญให้ตอบสนองข้อเรียกร้องของมวลมหาประชาชนที่ออกมาชุมนุมโค่นระบอบทักษิณ

โดยเน้นที่การปฏิรูปนักการเมืองและทำให้มีส่วนในรัฐธรรมนูญควบคุมนักการเมืองและการลงโทษทางกฎหมายอย่างรุนแรงขึ้น

จึงเกิดรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ ขึ้น มีการทำลงประชามติ แต่ฝ่ายอนาธิปไตยและนักการเมืองที่มีอคติ เพราะมันเหมือนกับรัฐธรรมนูญนั้นประณามนักการเมืองไทยหรือนักการเมืองจะเสียประโยชน์ เสียโอกาสทุจริตง่ายๆ โดยเฉพาะนักการเมืองระบอบทักษิณๆ จึงติดร่างแก้รัฐธรรมนูญฉบับ ๒๕๖๐ ขึ้นใหม่

และหลังรัฐบาล คสช.มีการเลือกตั้งมีรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เกิด “กลุ่มอนาธิปไตยใหม่ Neo Anarchy” ซึ่งมีการปลุกระดมขนานใหญ่จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างรุนแรงต่อเนื่องด้วยนายทุนนักการเมืองและนักวิชาการ (มีต่างชาติสนับสนุน)

ดังนั้นนักการเมืองอนาธิปไตยและนักการเมืองระบอบทักษิณจึงต้องการรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง

จึงเกิดการตีความว่า “ต้องทำประชามติก่อนว่าประชาชนจะให้แก้รัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ หรือไม่?”
หรือต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญหรือมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ”

ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ตีความไว้ว่า “ต้องถามประชาชนก่อนว่าจะต้องแก้หรือไม่หรือมีความจำเป็นต้องแก้หรือไม่อย่างไร”

นักวิชาการหรืออาจารย์มีแนวคิดร่วมกับซีกอนาธิปไตยหรือเสรีนิยมซีกอนาธิปไตยก็จะวิจารณ์ออกแนวเห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ ทั้งฉบับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จตุพร' แนะ แก้รธน.ต้องกินทีละคำอย่าเหลี่ยมคูกินทีละกะละมัง สุ่มเสี่ยงถูกคว่ำล้มครืนลง

'จตุพร' แนะการเมืองยึดมติ กมธ. ปมผ่านแก้ รธน.วาระสอง เตือนอย่าชิงเหลี่ยมคู ขอให้กินทีละคำอย่าโลภอยากกินทีละกะละมัง หวั่นถูกคว่ำจบเห่ ย้ำฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ลงมติ ม.152 ดีกว่าซักฟอก 151 ชี้เวลาเหมาะอภิปรายช่วงสัปดาห์สุดท้าย มกรา 69 พูดเสร็จได้ยุบสภาเลย

'จุลพันธ์ ' ดักคอ 'อนุทิน' ห่วงอะไรถึงกลัวตรวจสอบ แย้มร่างญัตติไว้แล้วยื่นเมื่อไหร่เป็นอำนาพท.

'จุลพันธ์' ดักคอ 'อนุทิน' ห่วงอะไรถึงกลัวตรวจสอบ แย้ม ร่างญัตติไว้แล้วยื่นเมื่อไหร่เป็นอำนาจของ 'เพื่อไทย' ย้ำ 'พท.' มุ่งมั่นแก้ไขรัฐธรรมนูญตลอดไม่เหมือนบางพรรควอร์คเอาท์ มอง เป็นเรื่องดี 'ปชน.' คุยรัฐบาลเร่งเปิดสมัยประชุมวิสามัญ

'ภราดร' รับถ้ายุบสภา 12 ธ.ค. แก้รธน.แท้งแน่ ได้แค่วาระ 2 ยัน ไม่ได้ผิด MOA

'ภราดร' ย้ำ ยุบสภาเป็นอำนาจนายกฯ บอก ปล่อยซักฟอก รัฐบาลแจงดีแค่ไหน ก็โหวตแพ้อยู่ดี รับถ้ายุบสภา 12 ธ.ค. แก้รัฐธรรมนูญแท้งแน่ ได้แค่วาระ 2 ลั่น ไม่ได้ผิด MOA เหตุการเมืองเป็นแบบนี้ ปัด หยิบ รธน.เป็นตัวประกัน ไม่ทราบข่าว 'วราวุธ' ซบ ภท. แต่รู้สึกดีต่อกัน

'พรรคส้ม' โบ้ย 'อนุทิน' ยุบสภา 12 ธ.ค.ไม่เป็นผลดีต่อตัวเอง ซัดเหมือนผู้รับเหมาทิ้งงาน

'พริษฐ์' ชี้หาก 'อนุทิน' ยุบสภา 12 ธ.ค.ไม่เป็นผลดีต่อตัวเองแน่นอน เหตุประกาศเป็นแคนดิเดตนายกฯไปแล้ว ซัด เหมือนผู้รับเหมาทิ้งงาน-ปิดกิจการหนี้การตรวจสอบ เชื่อเจตนารมณ์ รธน.ระบุชัด ไม่อยากให้ยุบสภาหนีซักฟอก ปัดตอบผิด MOA หรือไม่

'จรัญ' เตือนแก้รธน.อย่าเซาะกร่อน หมวด 1-2 ต้องมี ทริปเปิลวิน ชนะไปพร้อมกัน

'จรัญ' มอง 'สูตร 20 หยิบ 1' เลือก กมธ.ร่าง รธน. ประนีประนอมทุกฝ่าย ไม่ขัดคำวินิจฉัยศาล รธน. เตือนอย่าเซาะกร่อน หมวด 1 หมวด 2 หวั่น มีปัญหากับคนไทย ชี้ การทำ รธน.ฉบับใหม่ ต้องมี ทริปเปิลวิน ทั้ง 'ข้างมาก-ข้างน้อย-ประชาชน' ชนะไปพร้อมกัน

'ปชน.' ขู่ รัฐบาลหาก ไม่เปิดประชุมวิสามัญแก้รธน. ก่อน 12 ธ.ค. พร้อมยื่นชักฟอกทันที

'เท้ง' ย้ำจุดยืน หาก 'รัฐบาล' ไม่เปิดประชุมวิสามัญแก้ รธน. ก่อน 12 ธ.ค. พร้อมยื่นชักฟอกทันที รับนัดคุย 'จุลพันธ์' จริง เรื่องแก้ รธน. หาก 'เพื่อไทย' อยากยื่นอภิปรายก็เป็นสิทธิ์ หากถกเรื่อง 'รัฐมนตรีสีเทา' เป็นรายคน ปชน. พร้อมร่วมโหวต แต่หากหวังผลการเมือง-เปลี่ยนตัว นายกฯ ต้องพิจารณาอีกที