
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ยินดีที่ประกาศใช้มาตรการป้องกันการฟ้องปิดปาก (Anti-SLAPP law) ผู้เปิดโปง ชี้เบาะแสหรือเป็นพยานในคดีคอร์รัปชัน พร้อมเสนอแนะให้เร่งศึกษาและเดินหน้าต่อใน 3 ประเด็นปัญหาร้อน ได้แก่ สิทธิผู้บริโภค สิ่งแวดล้อม และสิทธิมนุษยชน
7 มี.ค.2568-นายมานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT กล่าวว่า นับเป็นเรื่องที่ต้องแสดงความชื่นชมและขอบคุณรัฐสภา รวมทั้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ได้ร่วมผลักดันพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ให้มี “มาตรการป้องกันการฟ้องปิดปาก” (Anti – SLAPP Law) ซึ่งข้อเรียกร้องนี้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2558 โดยสภาปฏิรูปแห่งชาติ นับเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ เพราะมาตรการนี้จะเป็นเครื่องมือสร้างความมั่นใจให้คนไทยทุกภาคส่วนพร้อมจะมีส่วนร่วมต่อต้านคอร์รัปชันมากขึ้น ด้วยกฎหมายนี้มีเป้าหมายปกป้องคุ้มครองประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เปิดโปง ชี้เบาะแส หรือเป็นพยานในคดีคอร์รัปชันมิให้ถูกกลั่นแกล้ง ฟ้องร้อง ข่มขู่โดยง่าย อีกทั้งยังเป็นมาตรการและกลไกที่มีประสิทธิภาพเพื่อการป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบตามที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญฯ และอนุสัญญา UNCAC 2003 โดยประเทศไทยนับเป็นประเทศแรกในเอเชียที่มีมาตรการนี้
“มาตรการนี้จะเป็นหลักประกันสิทธิเสรีภาพการแสดงออกซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองที่จะส่งเสียงและร่วมตรวจสอบการทุจริตของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐ อีกทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้กระบวนการยุติธรรมถูกนำมาใช้ข่มขู่ คุกคาม หรือขัดขวางการตรวจสอบของประชาชนและสื่อมวลชนที่กล้าพูดความจริงเพื่อรักษาผลประโยชน์ชาติ”
ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ กล่าวว่า นอกจากการมีมาตรการป้องกันการฟ้องปิดปากในคดีทุจริตคอร์รัปชันแล้ว ขอเรียกร้องรัฐบาลให้เร่งศึกษาและเสนอกฎหมายเพิ่มเติมอย่างน้อยในอีก 3 ประเด็นปัญหาที่มีกรณีตัวอย่างเกิดขึ้นต่อเนื่อง ได้แก่ ปัญหาการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค ปัญหาการทำลายสิ่งแวดล้อมและบุกรุกป่า ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยจุดร่วมของทั้งสามปัญหายังคาบเกี่ยวกับการลิดรอนสิทธิและเสรีภาพของสื่อมวลชนผู้นำเสนอข่าว เพื่อปกป้องประโยชน์สาธารณะแต่กลับถูกคู่กรณีฟ้องปิดปาก หลายกรณีเป็นคดีความที่สังคมร่วมกันจับตาและตั้งคำถามถึงกระบวนการยุติธรรมไทย ซึ่งอาจขยายผลกลายเป็นความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้นและส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนานาชาติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผู้คนนับหมื่นประท้วงต่อต้านคอร์รัปชัน ในบัลแกเรีย
เมื่อวันจันทร์ ประชาชนหลายหมื่นคนออกมาเดินขบวนประท้วงรัฐบาลต่อต้านการทุจริตในบัลแกเรีย การเดินขบวนที่จัตุรัสรัฐสภาในกรุงโซเฟีย เมืองหลวงของบัลแกเรีย นับเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี ผู้ประท้วงพากันตะโกนว่า “มาเฟีย!” และ “ลาออก!” พร้อมเรียกร้องให้เปลี่ยนรัฐบาล
'ฟูอาดี้' ให้กำลังใจ 'อังคณา' ยืนยันการใช้เสียงเป็นอาวุธ ละเมิดสิทธิ โจมตีแบบไม่เลือกเป้าหมาย
'ฟูอาดี้' ให้กำลังใจ 'สว.อังคณา' ยืนยันการใช้เสียงเป็นอาวุธ ละเมิดสิทธิมนุษยชนชัดเจน เหตุเป็นการโจมตีแบบไม่เลือกเป้าหมาย ชี้สงครามยุคนี้คือการช่วงชิงเครือข่าย ยก 'อิสราเอล' มีอำนาจ-กำลังทหาร แต่พ่ายแพ้บนเวทีระหว่างประเทศ มองบวก สิ่งที่ปลอบใจ 'ไทย' ได้คือ 'กัมพูชา' ไม่สามารถสร้างความชอบธรรมเวทีโลกได้ เหตุอาชญากรรมข้ามชาติ
'อังคณา' โอด! จิตใจต้องโหดร้ายขนาดไหน ถึงขนาดส่งข้อความข่มขู่ผู้สูงอายุ100+ ปี
นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา(สว.) โพสต์ช้อความว่า จิตใจต้องโหดร้ายขนาดไหน ถึงขนาดส่งข้อความข่มขู่ผู้สูงอายุ 100+ ปี
ย้อนแย้ง 'อดีตประธานกสม.' แฉ 'นักสิทธิมนุษยชน' กลายเป็นผู้ละเมิดสิทธิของผู้อื่น
นายวัส ติงสมิตร นักวิชาการอิสระ อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และอดีตประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า เมื่อ “นักสิทธิมนุษยชน” กลายเป็นผู้ละเมิดสิทธิของผู้อื่น?
'กสม.' แนะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำแนวปฏิบัติต่อผู้ถือบัตรผู้ลี้ภัยสอดคล้องพ.ร.บ.ป้องกันการทรมานฯ
กสม.แนะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแนวปฏิบัติต่อผู้ถือบัตรผู้ลี้ภัยที่เข้ามาพำนักในประเทศไทย ให้สอดคล้องตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ และหลักสากล


