"ทักษิณ" ชี้สหรัฐฯไม่อัปเดตข้อมูล จ่องดออกวีซ่าเจ้าหน้าที่ไทย ตอบโต้ส่งชาวอุยกูร์กลับจีน เชื่อเขาเข้าใจ แต่ก็ต้องทำหน้าที่ของเขา ต้องเข้าใจการเมืองระหว่างประเทศ ตั้งข้อสังเกตสภายุโรปประณามไทย แต่ฝ่ายบริหารกำลังเจรจา FTA ไทย-อียู บอกถ้าผมไม่ตกใจ อย่าตกใจตาม
17 มีนาคม 2568 - ที่หอประชุมอนุสรณ์ 100 ปี มหาวิทยาลัยพิษณุโลก จ.พิษณุโลก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีสหรัฐอเมริกาจ่องดออกวีซ่าเจ้าหน้าที่ไทย ตอบโต้ผู้เกี่ยวข้องส่งชาวอุยกูร์กลับจีน ว่า เรื่องนี้เกิดจากสหรัฐฯ ไม่มีข้อมูลที่อัพเดท แต่ต้องยอมรับจุดยืนของสหรัฐฯ ในการรักษาสิทธิมนุษยชน วันนี้เราอธิบายให้เขาฟังเยอะแล้ว และคนเหล่านี้ถูกละเมิดสิทธิ์มากว่า 10 ปี แค่เข้ามาผิดกฎหมาย เราขังไว้ 11 ปีมันไม่ถูก และไม่มีใครอยากเห็นเขาถูกขังต่ออีกทั้งไม่มีประเทศใดขอรับตัวไป
“แม้กระทั่งสหรัฐฯ และยุโรปก็ไม่ได้ขอรับตัว เมื่อไม่ขอรับเขา เราก็ต้องดูว่าประเทศต้นกำเนิดเขาคือจีน และเขามีบัตรประชาชนชัดเจน จีนก็รับรองว่าคนเหล่านี้กลับไปไม่ถูกดำเนินคดี เนื่องจากถูกลงโทษเยอะไปแล้ว ในช่วงเวลา 11 ปี เขาจึงควรได้กลับไปอยู่กับครอบครัว และกำหนดเป็นลายลักษณ์อักษร รวมถึงผู้ใหญ่มีการพบพูดคุยกัน เพื่อยืนยันความตั้งใจ”นายทักษิณกล่าว
นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า จริงๆหลักของสหประชาชาติ หรือ UN ต้องไม่ส่งกลับไปในที่ที่จะถูกทรมาน หรือ ฆ่า ซึ่งตรงนี้มีการการันตีชัดเจนว่ากลับไปอยู่กับครอบครัว ไม่ผิดกฎ UN และกฎหมายนานาชาติ รวมถึงไม่ผิดกฎหมายไทย แล้วทำไมจึงจะไม่ส่งเขากลับไปมีชีวิตที่ดีขึ้น ดีกว่าขังไว้ 11 ปี
ถามย้ำว่าบอกว่าสหรัฐฯ ยังไม่มีข้อมูลที่ครบถ้วน จะทำอย่างไรเพื่อให้สหรัฐฯ เข้าใจนั้น นายทักษิณ กล่าวว่า “ผมเชื่อว่าเขาเข้าใจ แต่เขาก็ต้องทำหน้าที่ของเขา เราต้องเข้าใจการเมืองระหว่างประเทศ อย่าไปตกใจมาก บางทีพวกเราก็ไปมองทุกอย่างให้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่มีอะไรครับ”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า จะใช้ช่องทางทูต ในการเจรจาใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า แน่นอน เรามีการพูดคุยกัน ให้สังเกตดูสภายุโรป ออกมาประณามเรา แต่ทางฝ่ายบริหารก็มีการเจรจา FTA ต่อไป ไม่มีอะไรเขาแยกส่วน การเมืองระหว่างประเทศ บางทีในประเทศเราอาจจะยังไม่เข้าใจ ไม่มีอะไรที่น่าตกใจ ถ้าตนไม่ตกใจ อย่าตกใจตามตน
เมื่อถามต่อว่า แม้จะบอกว่าไม่กระทบ แต่ก็มีการมองว่าอาจมีการระงับวีซ่านายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีของไทย นายทักษิณ กล่าวว่า “ไม่เป็นไรหรอก nothing is permanent ไม่มีอะไรจีรังถาวร ถ้าไม่เข้าใจก็อธิบายให้เข้าใจ ถ้ายกเลิกก็ไม่มีอะไร”
ถามย้ำว่า แสดงว่าไม่มีอะไร เพราะท่านให้ดูจากตัวท่าน ก็แสดงว่ากรณีนี้จะไม่มีจริงๆใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวย้ำคำเดิมว่า ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรจริงๆ ถ้าเรามั่นใจในสิ่งที่เราทำถูกต้อง อย่าไปวิตก ปฏิกิริยาอาจเกิดขึ้นกับข้อมูลที่ไม่อัพเดท เช่น สมัยที่ตนเป็น รมว.ต่างประเทศใหม่ๆ ทางออสเตรเลียออกมาประณามไทย ตนก็บอกว่าข้อมูลเขาไม่อัพเดท พอไปเจอที่ประชุมเอเปก เขาก็ยอมรับเองว่าข้อมูลเขาไม่อัพเดท ในที่สุดเขาก็ยอมถอย
ส่วนการพูดคุยกับสหรัฐฯ จะต้องเดินทางไปเจอ หรือต้องรอการประชุมสหประชาชาติ ในเดือนก.ย. นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา มีหลายระดับในการพูดคุยกัน ทุกฝ่ายทำหน้าที่อยู่แล้ว รวมถึงกระทรวงต่างประเทศ ไม่ต้องกังวล การทำหน้าที่เรารู้ บางครั้งมีโปรโตคอลระหว่างประเทศว่าควรพูดแค่ไหน หรือไม่ควรพูดแค่ไหน บางครั้งเราเอาการบริโภคข่าวในประเทศไปโบล มันไม่ได้ประโยชน์อะไร ทั้งนี้ เชื่อว่านายกรัฐมนตรี รู้วิธีแก้ปัญหา เพราะ รมว.ต่างประเทศก็อยู่กับนายกรัฐมนตรีตลอด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศึกเลือกตั้งรอบใหม่ กับ 'สามก๊กฉบับชาติวิบัติ' ภาค 3
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า สามก๊กฉบับชาติวิบัติ ภาค 3 (มีการปรับเปลี่ยนฝ่ายและชื่อตัวละครให้สอดคล้องสถานการณ์)
สแกน 100 ชื่อปาร์ตี้ลิสต์ 'เพื่อไทย' จับตาใช้สูตรปี66 จัดลำดับ
สแกน 100 ชื่อปาร์ตี้ลิสต์พท. แกนนำรุ่นใหญ่ ภูมิธรรม-สมศักดิ์-เสี่ยเพ้ง-สรวงศ์ ส่งลูก-หลังบ้าน-เครือญาติเข้าพรรค พวกย้ายพรรค-โยกสลับจากสอบตกเขตเพียบ จับตาอาจใช้สูตรเดิม เอาตัวเต็งรมต.ไว้ท้าย ลดแรงกระเพื่อม
กต. ขอให้มั่นใจ 'สีหศักดิ์' ประชุมอาเซียน 22 ธ.ค.นี้ จะไม่มีอะไรมากดดันไทยให้เสียเปรียบ
กต. ย้ำไม่มีอะไรมากดดันไทยให้เสียเปรียบเวทีอาเซียน 22 ธ.ค.นี้ หลัง สหรัฐ-จีน แสดงท่าทีปะทะชายแดน ย้ำ กัมพูชา ต้องรับ 3 เงื่อนไข "สีหศักดิ์" ยกคณะไปมาเลเซีย 21 ธ.ค.นี้
จีน-เมกาแห่หย่าศึก/ไทยยํ้ากัมพูชาหยุดก่อน
สองชาติมหาอำนาจ "สหรัฐอเมริกา-จีน" ช่วงชิงเป็นตัวกลางหย่าศึกไทย-เขมร
นายกฯ ทุบโต๊ะ! ประเทศมหาอำนาจกดดันไทยหยุดยิงไม่ได้ ต้องไปบอกฝ่ายกัมพูชา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนชนจีน ได้คุยโทรศัพท์กับนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

