ประธาน กมธ.ทหาร ฮึ่ม! ส่งเรื่อง ป.ป.ช. สอบ กอ.รมน. ใช้ ม.112 จับนักวิชาการสหรัฐ

26 เมษายน 2568 -นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการแจ้ง ม.112 กับนายพอล แชมเบอร์ส ควรได้รับการตรวจสอบการใช้อำนาจ จาก ป.ป.ช. โดยยึดหลักความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ]

จากกรณีการแจ้งความดำเนินคดี ม.112 กับนายพอล แชมเบอร์ส โดย กอ.รมน. ได้แจ้งต่อ กมธ.ทหาร ในการประชุมเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2568 ว่า ต้นเรื่องมาจากโพสต์เฟซบุ๊กของบัญชีผู้ใช้งานที่ชื่อว่า “เอ็ดดี้ อัษฎางค์” ซึ่งปรากฏชื่อของนายพอล แชมเบอร์ส ในโพสต์ดังกล่าว โดย กอ.รมน. มิได้มีการแจ้งความกับบัญชีผู้ใช้งานที่ใช้ชื่อว่า “เอ็ดดี้ อัษฎางค์” ซึ่งเป็นผู้แปลถ้อยคำ และเป็นผู้โพสต์เผยแพร่ถ้อยคำดังกล่าวที่เฟซบุ๊กของตนเอง

กมธ.ทหาร ได้ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีข้อสังเกตที่ควรต้องตรวจสอบในรายละเอียดต่อว่า ขั้นตอนการปฏิบัติงานต่างๆ ตลอดจนการใช้อำนาจของ กอ.รมน. เจ้าหน้าที่ตำรวจ นั้นมีความถูกต้อง และอยู่ภายใต้อำนาจตามกฎหมาย หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น

การไม่แจ้งความ ม.112 กับบัญชีผู้ใช้งานที่ชื่อว่า “เอ็ดดี้ อัษฎางค์” ที่เป็นผู้แปล และผู้โพสต์เผยแพร่ข้อความ แต่มาแจ้งความกับนายพอล แชมเบอร์ส ซึ่งเป็นผู้ที่บัญชีผู้ใช้งานที่ชื่อว่า “เอ็ดดี้ อัษฎางค์” กล่าวถึงในโพสต์ (📋Note: แม้ว่าจะมีข้อสังเกตจากว่า อาจจะมีประชาชนบางรายไปแจ้งความ ม.112 กับบัญชีผู้ใช้งานนี้ ในภายหลัง นับจากนี้ก็ตาม)

การตรวจสอบความถูกต้องของการแปล และการรับรองความถูกต้องของการแปลจากสถาบันที่ราชการรองรับ

การตรวจสอบว่านายพอล แชมเบอร์ส เป็นผู้เขียน หรือพิมพ์ข้อความนั้นหรือไม่ มีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับ ISEAS–Yusof Ishak Institute ผู้จัดสัมมนาออนไลน์ หรือ Webinar ในหัวข้อ Thailand’s 2024 Military and Police Reshuffles: What do They Mean? (📋Note: กรณีนี้ กมธ.ทหาร จะทำหนังสือสอบถาม ISEAS-Yusof Ishak Institure ว่านายพอล แชมเบอร์ส เป็นผู้เขียนบทความที่ปรากฎที่หน้าเว็บไซต์ที่ถูกกล่าวอ้างหรือไม่)

กมธ.ทหาร มีความกังวลว่า หากมีการใช้ ม.112 ในทางมิชอบแล้ว ย่อมส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อประเทศ และสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมิอาจประเมินความเสียหายได้ ทั้งผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และในกรณีนี้เป็นการใช้ ม.112 กับชาวต่างชาติ ซึ่งหากมีข้อผิดพลาด ย่อมส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งเกี่ยวพันกับผลประโยชน์ของประเทศชาติ ตลอดจนผลกระทบต่อมุมทองของนานาอารยประเทศ ที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ในเวทีโลก

กมธ.ทหาร จึงได้รวบรวมข้อสังเกตในการประชุมในวันที่ 24 เม.ย. 68 ทั้งหมด และทำหนังสือส่งไปยัง ป.ป.ช. โดยอาศัย มาตรา 33(1) มาตรา 132 และมาตรา 142(5) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 เพื่อให้ ป.ป.ช. พิจารณาทำหน้าที่ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ทั้งหมด โดยการดำเนินการทั้งปวง จะต้องมีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย คู่ขนานกันไปกับกระบวนการยุติธรรมที่ย่อมต้องดำเนินไปตามระบบ โดยไม่มีผู้ใดสามารถก้าวล่วงได้ ซึ่งในอนาคตหากผลของกระบวนการยุติธรรม มีการสั่งไม่ฟ้อง หรือยกฟ้อง หรือมีคำพิพากษาเป็นที่สุดว่านายพอล แชมเบอร์ส ไม่มีความผิดตามที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี

ก็สมควรอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีการตรวจสอบโดยละเอียดว่ามีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้คนใด มีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือใช้อำนาจในทางมิชอบ หรือไม่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

โดยเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ เบื้องต้นประกอบไปด้วย

1. พลตรี ชายแดน กฤษณสุวรรณ รอง ผ.อ.กอ.รมน. ภาค 3 ปฏิบัติหน้าที่แทน ผอ.กอ.รมน. ภาค 3 ในฐานะผู้ทำหนังสือ ถึงอธิการบดี ม.นเรศวร ฉบับลงวันที่ 25 ต.ค.
2567

2. พันเอกมงคล วีระศิริ หัวหน้าแผนกกฎหมายและสิทธิมนุษยชน กองบริหารงานบุคคล กอ.รมน. ภาค 3 ผู้ประสานการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามหนังสือที่ทำถึงอธิการบดี ม.นเรศวร ฉบับลงวันที่ 25 ต.ค. 2567 ผู้รับมอบอำนาจแจ้งความดำเนินคดี กับนายพอล แซมเบอร์ส ชื่อปรากฏในหมายเรียก พยานวัตถุ ที่ ตช0021(พล).4/2265

3. พลโท กิตติ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาค 3 ผู้มอบอำนาจให้ดำเนินคดีในนามของกองทัพภาคที่ 3

4. ร.ต.อ.พรชัย ปลั่งกลาง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก พนักงานสอบสวน เจ้าของสำนวน และเป็นผู้ขอฝากขังต่อศาล และคัดค้านการประกันตัว

5. พ.ต.อ.วัชรพงษ์ สิทธิรุ่งโรจน์ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ผู้บังคับหัวหน้าพนักงานสอบสวน

6. พ.ต.ต.ปิยวัฒน์ รู้คุณ สว.สส.สภ.เมืองพิษณุโลก

7. ร.ต.อ.ธีรวุฒิ จันทะขัน เจ้าพนักงานชุดจับกุม

8. ร.ต.ท.สมยศ เรื่องลือ เจ้าพนักงานชุดจับกุม

9. จ.ส.ต.ภูริพงษ์ ใจสมัคร เจ้าพนักงานชุดจับกุม

10. ส.ต.อ.อนุพงษ์ ติดชัย เจ้าพนักงานชุดจับกุม

11. ร.ต.อ. ชยพล ธรรพรังษี รอง สว.ตม.จว.พิษณุโลก ผู้แจ้งคำสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ลงวันที่ 9 เม.ย. 2568

12. พล.ต.ต.สราวุธ คนใหญ่ ผบก.ตม.5 ผู้สั่งเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร

13. พ.ต.ท.รัฐกิตติ์ ศรีนิธิธีรโชติ สว.ตม.จว.พิษณุโลก หัวหน้าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพิษณุโลก

ซึ่งทาง กมธ.ทหาร ได้เน้นย้ำในหนังสือถึง ป.ป.ช. ว่าการดำเนินการใดๆ จะต้องยึดหลักความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ในกรณีที่ไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่คนใดกระทำความผิด หรือใช้อำนาจในทางมิชอบ สังคม และสาธารณะ ตลอดจนนานาอารยประเทศ ก็จะได้กระจ่างต่อข้อสงสัยทั้งปวงกับการแจ้งความ ม.112 ในกรณีนี้

ในกรณีที่พบว่ามีเจ้าหน้าที่คนใดปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือใช้อำนาจในทางมิชอบ ป.ป.ช. ก็จะได้ปฏิบัติหน้าที่ของตน ในการไต่สวนข้อเท็จจริง ชี้มูลความผิด และดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย บนพื้นฐานของหลักนิติรัฐต่อไป เพื่อมิให้ผู้หนึ่งผู้ใดบังอาจแอบอ้างความจงรักภักดี และใช้ ม.112 ในทางมิชอบ จนนำมาซึ่งความเสียหายของประเทศ และทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ ต้องตกอยู่ในท่ามกลางประเด็นข้อพิพาทในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควรยิ่ง