'สมศักดิ์' แจงงบฯ สธ. ย้ำเดินหน้า NCDs ลดงบประมาณ

“สมศักดิ์” แจงงบฯ สธ. ย้ำเดินหน้า NCDs ลดงบประมาณ ตอบทุกคำถามคาใจฝ่ายค้าน พร้อมขอบคุณส่วนใหญ่อภิปรายชื่นชมการทำงาน มากกว่าตำหนิ แจง “หลานชาย” ไม่ได้ทำธุรกิจกับกระทรวงสธ. แม้แต่บาทเดียว ยืนเปิดร้านตำรับไทย มา 24 ปีแล้ว

31 พฤษภาคม 2568 - เมื่อ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมานายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงงบประมาณของกระทรวงสาธารสุขประจำปี 2569 ว่า ขอขอบคุณสมาชิก ที่อภิปรายงบประมาณของกระทรวง โดยส่วนใหญ่สมาชิกชื่นชมและแสดงความยินดีมากกว่าตำหนิ จึงเป็นความประทับใจอย่างยิ่ง เพราะตนพยายามตั้งใจทำงานสุดความสามารถ เห็นจากสื่อที่แสดงความชื่นชมงานรัฐบาล โดยเฉพาะ 30 บาทรักษาทุกที่ วงเงินร่างงบประมาณของกระทรวงขอรับการจัดสรร 372,662.11 ล้านบาท ประกอบด้วย 10 กรม วงเงิน 175,286.96 ล้านบาท 6 หน่วยงานในกำกับ วงเงิน 2,352.65 ล้านบาท 3 กองทุน 195,022.50 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 1.วงเงินตามนโยบายกระทรวง 242,477.51 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 8 ส่วน 1.โครงการพระราชดำริฯ 1,303 ล้านบาท 2.ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพ 160,241,80 ล้านบาท 3.เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพจิตและบำบัดยาเสพติด 1,140.82 ล้านบาท 4.คนไทยห่างไกลโรคและภัยสุขภาพ 37,792.50 ล้านบาท 5.สร้างความเข้มแข็งเครือข่ายสุขภาพภาคประชาชน 30,418.76 ล้านบาท 6.จัดระบบบริการสุขภาพ เพื่อกลุ่มเปราะบาง และพื้นที่พิเศษ 7,606.77 ล้านบาท 7.เพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจสุขภาพสู่ Medical & Wellness Hub 335.36 ล้านบาท 8.บริหารจัดการทรัพยากรสาธารณสุข 3,638.50 ล้านบาท 2.วงเงินอื่นๆ 130,184.60 ล้านบาท สำหรับดำเนินการตามภารกิจและบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า มีคนวิพาษ์วิจารณ์ว่ากองทุนบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกที่ มีโอกาสล้มละลายภายใน 3 ปี ถ้าหากว่า ปล่อยปละไม่จัดการบางอย่างที่มองเห็นก็น่ากลัวอย่างที่วิพากษ์วิจารณ์ ปัญหาในกระทรวงสาธารณสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือปัญหาโรค NCDs เฉพาะปีงบประมาณ 67 ใช้เงินถึง 7.9 หมื่นล้านหรือคิดเป็น 52% ของเงิน สปสช. ถ้าจัดการ NCDs ได้ปัญหาทุกอย่างจะหมด และมั่นใจว่าใน 3 ปี ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กองทุนจะล้มละลายนั้น ถ้าจัดการ NCDsอย่างทุกวันนี้งบประมาณจะเหลือเฟือ โดยมีการรณรงค์นับคาร์บจากการไหว้วาน อสม. จึงต้องมีนโยบาย อสม.มั่นคงสาธารณสุขเข้มแข็ง เพื่อคนไทยห่างไกล NCDs ซึ่งเฉพาะโรคเบาหวานกับโรคไต ถ้าลดลงได้จะประหยัดงบประมาณได้ถึง 4.4 หมื่นล้านบาท ลดความแออัดในโรงพยาบาลหมอก็จะเพียงพอ ต้องทำให้อสม.มั่นคงและการทำงานของอสม. รณรงค์การนับขาสามารถทำให้ประชาชนเข้าใจแล้ว 30 ล้านคน

นายสมศักดิ์ ชี้แจง กรณีคำถามศูนย์แพทย์แผนไทยจ.สุโขทัย มีเงินที่ตั้งไว้ 140 ล้านบาท ทำไมต้องเป็นสุโขทัย ในข้อเท็จริงเป็นเงินผูกพันกับศูนย์อื่นๆ ที่ดำเนินการไปแล้ว ศูนย์การแพทย์ประจำเขตแผนไทย มีเขตละ 1 ศูนย์ สร้างไป 5 เขตแล้ว สุโขทัยเป็นเขตที่ 6 และสุโขทัยมีความพร้อมเรื่องที่ดิน ส่วนไปตั้งอ.คีรีมาศ เนื่องจากเป็นเขาสมุนไพรตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ส่วนกรณีการตั้งรางวัล 60 ล้านบาท สำหรับการใช้สมุนไพรทดแทนแพทย์แผนไทย ยืนยันว่าเป็นการสนับสนุนด้านประชาสัมพันธ์ให้กับแต่ละโรงพยาบาลให้เลิกใช้ยาฝรั่ง ใช้ยาไทยใน 5 กลุ่มแทน

สำหรับคำถามระบบเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพดิจิทัล Thailand Health Atlas ใช้ได้จริงหรือไม่นั้น ยืนยันว่ามีการตั้งงบฯ 17.55 ล้านบาท อยู่ในเล่ม 11 หน้า 70 อยู่ในโครงการใหญ่ เฮลท์ดาต้าฮับ กิจกรรมรมต.พานับคาร์บใช้เงิน 1200 ล้านบาทนั้น มีกิจกรรมเสริมความรู้ประช่าชน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หาเครื่องมือสนังบสนุนการทำงาน อสม.เช่น เครื่องวัดความดัน เครื่องชั่งน้ำหนัก การเก็บข้อมูล ส่วนคำถามเรื่องการแก้ปัญหาขาดแคลนแพทย์นั้น ได้แก้ปัญหาประกาศเป็นพื้นที่พิเศษ เพื่อเพิ่มค่าตอบแทนพิเศษขั้นต่ำ 1 หมื่นบาท และรับนศ.แพทย์ที่จบจากเอกชนและต่างประเทศ ที่แพทยสภายอมรับได้

ชุดตรวจยาเสพติดเหตุใดราคาไม่เท่านั้น ขอชี้แจงว่า อยู่ที่ซื้อมากก็ถูก ซื้อน้อยก็แพง เป็นการจัดงบประมาณปกติ ส่วน รพ.สต.ราชบุรีไม่เพียงพอนั้น กระทรวงสาธารณสุขไม่ขัดข้อง พร้อมดำเนินการให้ ขอให้มีที่ดินเรียบร้อย

“คำถามสุดท้าย มีคนเอ่ยชื่อถึงหลานผม พ่อเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผมชื่อมหาคุณ เทพสุทิน เป็นเจ้าของธุรกิจร้านตำรับไทย ขอชี้แจงว่านายมหาคุณไม่มีธุรกิจร่วมกับกับกระทรวงสาธารณสุขแม้แต่บาทเดียว แต่คอยช่วยเหลือผมตั้งแต่สมัยมีโควิดเข้ามาที่เขาแนะนำผมเรื่องฟ้าทะลายโจรเป็นการแก้ปัญหา ถ้าหากไม่มีฟาวิพิราเวียก็ให้รีบสต๊อกฟ้าทะลายโจร แนะนำไปให้ผู้ต้องขัง ฉะนั้นอย่าคิดเลยว่าหาคุณจะได้ประโยชน์จากกระทรวงสาธารณสุข เปิดธุรกิจมาแล้ว 24 ปี ปัจจุบันมี 80 สาขาทั่วประเทศ ทำธุรกิจตั้งแต่อายุ 19 ปี ตั้งแต่เป็นเด็กฝึกงานบูธนี้ เจ้าของขายให้บูธละ 70,000 บาท ขณะนี้อายุ 43 ปีมีธุรกิจตำรับไทย 80 สาขาทั่วประเทศ

จากนั้น อัศวรุ่งเรือง ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ลุกขึ้นซักถามเพิ่มเติม โครงการ NCDs เห็นด้วยว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์และเป็นพื้นฐานที่ทำให้เงินงบประมาณแผ่นดินจมตรงนั้นเยอะ 1,200ล้านบาท ของกองทุนซึ่งเป็นโครงการใหม่ไม่มีรายละเอียด ทั้งหมดเป็นการนำไปอบรมสัมมนาทั้งหมดเลยหรือไม่

นายสมศักดิ์ ชี้แจงว่า วงเงิน 1200 ถ้าดูจาก NCDs ไม่เพียงพอ NCDs แค่ 2 โรค ก็ 4.4 หมื่นล้าน จะต้องดำเนินการNCDs ยังมีโรคอื่นตามมาอีกมากมาย ฝึกอบรมแต่ละครั้ง แต่ละเขตเครื่องมือที่เกี่ยวกับการบันทึกข้อมูล NCDs สมาคมโลกบอกว่าเรื่องเหล่านี้ who ยังไม่สามารถดำเนินการได้แต่ประเทศไทยสามารถดำเนินการได้ หากข้อมูลไม่เพียงจะมาตอบเพิ่มเติมหรือขอส่งเอกสารเพิ่มเติมให้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วราเทพ' หวนคืนรังเก่า! โผล่ประชุมใหญ่เพื่อไทย เคลียร์ลุงป้อมแล้ว

'เพื่อไทย' เริ่มแล้ว! จัดประชุมใหญ่เลือกหัวหน้า-กรรมการบริหารพรรค 'วราเทพ' หวนคืนถิ่นเดิม พา 2 สส.กำแพงเพชร ผละอกลุงป้อม

'สมศักดิ์' โวยสภาฯ เตะถ่วงร่าง พรบ.อาสาสมัครสาธารณสุขฯ ไม่ทันสมัยประชุมนี้

“สมศักดิ์” โวยสภาฯ ถ่วงร่าง พ.ร.บ.อสม. ไม่ทันในสมัยนี้ หลังจ่อวาระ 2-3 แต่เจอสกัดลากยาวกม.ครู ด้าน อสม.ทั่วประเทศผิดหวัง พลาดเห็นกฎหมายรองรับก่อนยุบสภา วอน สส. เร่งผ่านทันทีหลังเปิดสมัยหน้า ให้ทันใช้ก่อนยุบสภา ปัดใช้เป็นผลงานหาเสียง เหน็บบางพรรคไม่เคยบริหาร คิดมาก ทำเป็นนิสัย

‘สมศักดิ์’ ติวเข้มว่าที่ผู้สมัครเหนือล่าง พท.16 เขต มั่นใจชนะยกทีม

“สมศักดิ์” ติวเข้ม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เหนือล่าง 16 เขต พรรคเพื่อไทย มั่นใจ ชนะทั้งหมด แนะ วิธีทำแกน-สร้างคะแนนเสียง โชว์ ผลักดัน พ.ร.บ.อสม.-ลดโรค NCDs ตุนคะแนนต่อเนื่อง

‘สมศักดิ์’ เร่งขับเคลื่อนแก้ปัญหาแม่น้ำยมฝั่งขวา เดินหน้าป้องกันน้ำท่วมสุโขทัย

“สมศักดิ์” ประชุมติดตามแก้ปัญหาแม่น้ำยมฝั่งขวา เดินหน้าป้องน้ำท่วมสุโขทัย กำชับ เร่งปรับแบบ-สำรวจพื้นที่ประชาชน แนะ เวนคืนที่ดินได้เร็ว โครงการก็เดินหน้า เผย แก้ปัญหาน้ำท่วมระยะยาว สทนช. กำลังรวมคนขับเคลื่อนเขื่อนแม่น้ำยม ชี้ ผลิตไฟฟ้า-พื้นที่ได้ประโยชน์ด้วย

‘สมศักดิ์’ ลุยปั้นนโยบายเกษตรเพื่อไทย ดันเลี้ยงปศุสัตว์-กีฬาสัตว์-ยกระดับผสมเทียม

“สมศักดิ์” ตั้งโต๊ะคิดนโยบายด้านการเกษตรของเพื่อไทย ดันส่งเสริมเลี้ยงปศุสัตว์ ยกระดับผสมเทียม-กีฬาสัตว์-เพิ่มมูลค่า ชี้ วิกฤติควรแก้ไข”สิ่งแวดล้อม-ความยากจน-สุขภาพ” เตรียมเดินหน้ารับฟังปัญหา ก่อนผุดเป็นนโยบาย