ก่อนประชุม JBC ฮุนเซนโพสต์แขวะไทยรัวๆ กล่าวหาละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ดึงข้อพิพาทชายแดนเทียบสงครามรัสเซีย-ยูเครน หวังผลักดันเข้าสู่ศาลโลก
14 มิถุนายน 2568 – ความตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชาเพิ่มระดับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อคืนวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์แถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ที่จะจัดขึ้นในวันนี้ โดยเนื้อหาโจมตีไทยอย่างรุนแรง พร้อมเรียกร้องให้ประชาคมโลกกดดันให้ไทยแก้ข้อพิพาทผ่านศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ)
ฮุนเซนระบุว่า การที่เขาเคยสั่งการให้กัมพูชาลงมติ “คัดค้าน” การรุกรานยูเครนโดยรัสเซียในเวทีสหประชาชาติเมื่อปี 2022 เป็นจุดยืนที่ชัดเจนเพื่อสะท้อนหลักนิติธรรม และวันนี้พฤติกรรมของไทยเริ่มแสดงให้เห็นถึง “การละเมิดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ” ที่คล้ายคลึงกับกรณีรัสเซีย โดยเฉพาะในบริบทข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชา
“ข้าพเจ้าเชื่อมาโดยตลอดว่า วันหนึ่งประเทศไทยอาจกระทำการบางอย่างซ้ำรอยกับเหตุการณ์ระหว่างปี 2008 ถึง 2011 และในวันนี้ เราเริ่มเห็นพฤติกรรมที่ละเมิดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และมีลักษณะรุกรานอย่างชัดเจน” ฮุนเซนระบุในโพสต์
ฮุนเซนขอให้ประชาคมระหว่างประเทศที่ยึดมั่นในหลักนิติธรรม ร่วมกดดันและสนับสนุนให้ประเทศไทยหันหน้าแก้ไขข้อพิพาท ผ่านกระบวนการศาลโลกเท่านั้น โดยระบุว่า เวที JBC ไม่ควรนำ 4 จุดพิพาทมาเจรจาแบบทวิภาคี ได้แก่
1.พื้นที่สามเหลี่ยมมรกต 2.ปราสาทตาเมือนธม 3.ปราสาทตาเมือนโต๊จ 4.ปราสาทตาควาย
ฮุนเซนย้ำว่า กัมพูชาไม่ต้องการใช้อาวุธหรือก่อสงครามกับไทย แต่ขอให้ใช้ช่องทางกฎหมายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการนองเลือด พร้อมยกตัวอย่างประเทศในอาเซียน เช่น อินโดนีเซีย-มาเลเซีย และสิงคโปร์-มาเลเซีย ที่เคยนำข้อพิพาทด้านเขตแดนเข้าสู่การพิจารณาของศาลโลก และสามารถยอมรับคำตัดสินได้ แม้จะไม่ได้ผลตามที่ตนเองต้องการ
“เส้นเขตแดนยาวกว่า 800 กิโลเมตร เราเพียงขอให้พิจารณา 4 พื้นที่ที่อ่อนไหว ซึ่งอาจเป็นจุดชนวนความขัดแย้งทางทหารในอนาคต ถ้าไม่เร่งแก้ไขผ่านศาล ปัญหาเหล่านี้ก็จะไม่จบสิ้น แม้จะใช้เวลาร้อยปีก็ตาม” ฮุนเซนกล่าว
เขายังอ้างว่า การหลีกเลี่ยงกลไกตุลาการระหว่างประเทศ จะเป็นสัญญาณของการไม่เคารพหลักนิติธรรม และอาจทำให้ไทยเผชิญแรงกดดันจากประชาคมโลกมากยิ่งขึ้น พร้อมระบุว่า การใช้กลไกศาลโลกไม่ได้เท่ากับการยั่วยุให้เกิดสงคราม แต่เป็น “หนทางสันติที่ถูกต้องตามกฎหมาย”
สำหรับการประชุม JBC ระหว่างไทย-กัมพูชาในวันนี้ มีความคาดหมายว่าจะเป็นเวทีหารือความร่วมมือด้านชายแดน การเปิดจุดผ่านแดน และการปรับปรุงเครื่องหมายเขตแดน แต่ภายใต้แถลงการณ์แข็งกร้าวของฮุนเซน ทำให้สถานการณ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศส่อเค้าตึงเครียด และอาจนำไปสู่แรงกดดันต่อรัฐบาลไทยในการกำหนดท่าทีอย่างชัดเจนต่อแนวทางแก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'แก้วสรร' ออกบทความ ไขปริศนา! ฮุนเซน.. ‘บิดาแห่งสันติภาพ’ ???
เห็นสองวันมานี้ มีข่าวคนเขมรนับแสน ชุมนุมเดินขบวนให้ยุติสงคราม ชูป้ายเชิดชูฮุนเซ็นเป็น “บิดาแห่งสันติภาพ ” เลยทีเดียว เขาเข้าใจกั
แต่ละอย่าง! ฉก.นย.ตราด เข้าควบคุมพื้นที่บ่อนกาสิโนเขมร พบสิงโต–หมีถูกขังในกรง
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ภายหลังที่ทหารนาวิกโยธินจากกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและต
‘พี่โจ’ แนะ ‘ช่อมาลี’ ควรจะรู้จุดที่ต้อง หยุด และ พอ บ้าง
โจ มณฑานี ตันติสุข” นักเขียนและวิทยากรการเงิน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Jo Montanee ว่ายอมรับว่าดูคลิปจากเพจ ซึ่งต้องพิสูจน์ แล้วตกใจมาก!
อาเซียนเมินกัมพูชา ไม่หนุนข้อเสนอหยุดยิง-ถกจีบีซี24ธค./สมรภูมิสระแก้วยังเดือด
ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษเหลว ไร้ข้อสรุปเป็นรูปธรรม “กัมพูชา”
จับตา! ถกอาเซียนนัดพิเศษ มีอะไรในกอไผ่
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "มีอะไรในกอไผ่" โดยระบุว่า
ประณาม 'กัมพูชา' ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ล่อทหารไทยเข้าทุ่งสังหาร ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาโจ่งแจ้ง
ทร.ประณามกัมพูชา ฝ่าฝืนกฎหมายมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ล่อทหารไทยเข้าสู่ทุ่งสังหาร ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาอย่างโจ่งแจ้ง

