'ศรีสุวรรณ' ร้อง กมธ.ป.ป.ช.สภาฯ สอบ 2 โครงการรัฐ มูลค่า 1.4 หมื่นล้าน ส่อฮั้วประมูล

2ก.ค.2568- ที่รัฐสภา เกียกกาย นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ป.ป ช.) สภาผู้แทนราษฎร ผ่านนายณัฐพงศ์ ศรีพา ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานคณะกมธ. ป.ป ช. เพื่อให้ตรวจสอบการประมูลโครงการเช่า Tablet 5 โซนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) มูลค่า 14,600 ล้านบาท และโครงการติดตั้งศูนย์ควบคุมและบริหารจัดการระบบเทคโนโลยีการจราจรและความปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร ระยะที่ 1 ของ กทม.มูลค่า 184 ล้านบาท ซึ่งการประมูลส่อขัดต่อ พรบ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ 2542 ประกอบ พรบ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ 2561 หรือไม่

ทั้งนี้ โครงการเช่า Tablet 5 โซนทั่วประเทศพบว่ามีผู้บริหาร และข้าราชการประจำ ส่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนบางแห่ง โดยทำราคากลางให้สูงๆ และเตรียมแบ่ง Zone หรือแบ่งงานกันหลังบ้าน ด้วยการกำหนด TOR เอื้อประโยชน์ ให้กับบริษัทที่มีงบขาดทุน หรือไม่รายงานงบดุล ให้สามารถเข้าการประกวดราคาได้ หรือให้บริษัทที่กิจการเจ๊งแล้วก็เข้าประกวดราคาได้ มีการกำหนดทีโออาร์ที่ส่อล๊อกสเปกและฮั้วกันอย่างโจ่งครึ่ม ระหว่างผู้ให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ และผู้ยื่นเข้าประกวดราคา เป็นการปิดกั้นผู้ประกอบการรายอื่น หากเกิดในกรณีที่ผู้ให้บริการโครงข่ายหรือ SIM ไม่ออกหนังสือยืนยันการให้บริการ ซึ่งเป็นการกีดคู่แข่งขันรายอื่น และเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทที่อยู่ในรายชื่อแหล่งที่มาของราคากลางเพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้น

ส่วนโครงการติดตั้งศูนย์ควบคุมและบริหารจัดการระบบเทคโนโลยีการจราจรและความปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร กทม.นั้น มีประกวดราคาครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 25 ต.ค.67 พบว่าบริษัทตัวเต็งได้ยื่นราคาสูงสุด โดยจะต้องชนะการประมูลตามโผ แต่ทว่ากลับพลาดตกเอกสาร ดังนั้น กรรมการคัดประมูลควรที่จะต้องเชิญบริษัทที่เสนอราคาต่ำสุดและผ่านขั้นตอนการตรวจเอกสารและได้ทำการสาธิตระบบงาน(POC) แล้วเป็นผู้ชนะการประมูลงาน ซึ่งจะทำให้ กทม.ประหยัดงบประมาณไปได้ถึงห้าสิบล้านบาท แต่ทว่า กทม.กลับสั่งยกเลิกการประกวดราคา โดยอ้างว่ามีผู้เข้าแข่งประมูลเหลือเพียงบริษัทเดียว

ต่อมา กทม.จัดให้มีการประกวดราคาใหม่เป็นครั้งที่ 2 เมื่อ 23 เม.ย.68 ที่ผ่านมา ปรากฎว่าบริษัทตัวเต็งยื่นราคาสูงสุดเป็นผู้ชนะการประกวดราคา แต่ในทางกลับกันบริษัทที่เสนอราคาต่ำสุด กลับถูกปัดให้แพ้ ซึ่งถือเป็นข้อพิรุธอย่างมาก โดยเฉพาะมีการปรับราคากลางลงกว่า 13 ล้านบาท (คงเหลือราคากลาง 184,180,636 บาท) โดยมีการลดราคาในการปรับปรุงห้องควบคุมและบริหารจัดการบริเวณชั้น 1 ชั้นลอย และชั้น 2 ลงมากผิดปกติ จากเดิม 22.93 ล้าน เหลือเพียง 7.6 ล้าน แต่ไปเพิ่มราคาเครื่องมืออุปกรณ์เกือบ 10% ทุกรายการ ชี้ให้เห็นว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ ให้เกิดช่องว่าง และมีเงินทอนกันหรือไม่

"ด้วยเหตุดังกล่าว องค์กรรักชาติ รักแผ่นดินจึงนำข้อพิรุธทั้ง 2 โครงการฯ มายื่นให้คณะ กรรมาธิการ ป.ป.ช สภาผู้แทน ได้ใช้อำนาจตามกฎหมายในการตรวจสอบและเสนอไปยังหน่วยงานผู้บังคับบัญชาหน่วยงานนั้นๆสั่งให้มีการทบทวนและตั้งกรรมการสอบเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป"นายศรีสุวรรณ กล่าว