พปชร. กระทุ้งรัฐบาลอย่าปล่อยกัมพูชาป่วนเวทีโลก ต้องรีบชี้แจงตอบโต้ ไม่ใช่พูดเหมือนน้ำท่วมปาก

พปชร.ชำแหละ รัฐบาลปล่อยกัมพูชาปั่นเวทีโลก สร้างภาพไทยละเมิดอธิปไตย กระทุ้ง รบ.ชี้แจงตอบโต้พร้อมรายละเอียดทุกประเด็นทันที ไม่ใช่พูดเหมือนคนน้ำท่วมปาก

8 กรกฎาคม 2568 - ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหารพรรค พปชร. แถลงความเห็นต่อท่าทีของรัฐบาลไทย ในวิกฤตการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า รัฐบาลยังคงไม่แสดงรายละเอียดในการตอบโต้กัมพูชาเพื่อปกป้องเกียรติภูมิของชาติ หลังฝ่ายกัมพูชาเดินหน้าส่งหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวหาไทยว่า เป็นผู้รุกราน ไม่ยึดสันติวิธี ซึ่งการเดินยุทธศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศที่ผ่านมา มีประเด็นที่น่ากังวลใจคือ รัฐบาลยังกล้าๆ กลัวๆ ในการตอบโต้ เช่น กรณีกัมพูชาเปิดฉากรุกรานและยิงทหารไทยก่อนขณะลาดตระเวนในเขตไทย เมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 รัฐบาลมาชี้แจงอย่างเป็นทางการในเอกสารที่ยื่นต่อยูเอ็นหลังจากกัมพูชากล่าวหาไทยไปแล้ว 3 สัปดาห์ แสดงให้เห็นว่า คนในรัฐบาลบางคนยังมีความเกรงใจผู้นำกัมพูชาอยู่ไม่น้อย จนกระทั่งเกิดกรณีคลิปเสียงนายกฯแอบเจรจากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา รัฐบาลจึงเริ่มมีท่าทีจริงจังมากขึ้น แต่ก็สายไปมาก เพราะข้อกล่าวหานี้ถูกกัมพูชาเสนอเข้าสมัชชาสหประชาชาติแล้ว การไม่ใช้สิทธิ์ทางการทูตให้เต็มศักยภาพ คือ ความบกพร่องเชิงยุทธศาสตร์ที่ทำให้ไทยเสียเปรียบในเวทีโลก เพราะเป็นฝ่ายตั้งรับ

เขากล่าวว่า รัฐบาลไม่เคยชี้แจงเรื่องกัมพูชาไม่ใช่คู่เจรจาตามสนธิสัญญาสยาม–ฝรั่งเศส ปี 1904 และ ปี 1907 จึงนำสนธิสัญญามาอ้างแบบผิดๆ โดยละเลยที่จะยึดถือแนวพรมแดนตามสันปันน้ำระหว่างช่องบกถึงช่องสะงำตามสนธิสัญญา ทำให้ไทยสุ่มเสี่ยงต่อการเสียดินแดนจากช่องบก จ.อุบลราชธานี ถึงช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเรื่องนี้ พันโทแบร์นาด (1904) และพันเอกมองกิเอร์ (1907) ผู้เดินสำรวจเขตแดนได้บันทึก เรื่องสันปันน้ำไว้ตรงกันว่าสันเขามีความชัดเจน จึงไม่จำเป็นต้องมีหลักเขตในบริเวณดังกล่าว

นอกจากนี้ การที่รัฐบาลยอมให้กัมพูชาใช้แผนที่ 1 ต่อ 200,000 ว่าเป็นเอกสารที่อยู่ในสนธิสัญญา ซึ่งคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง เพราะแผนที่นี้ถูกทำขึ้นในปี 1908 ภายหลังจากการเซ็นสนธิสัญญา 1907 ไปแล้ว รัฐบาลไทยขณะลงนามในสนธิสัญญาจึงไม่มีโอกาสตรวจสอบถึงความถูกต้องแต่อย่างใด ฝรั่งเศสได้นำแผนที่ดังกล่าวไปมอบให้ที่สถานทูตไทย ณ กรุงปารีสในภายหลัง ย่อมชัดแจ้งว่า ผู้ลงนามในสนธิสัญญาไม่มีโอกาสได้เห็นเอกสารดังกล่าวเลย ที่สำคัญคือ แผนที่ดังกล่าวคลาดเคลื่อนไปจากภูมิประเทศจริงอย่างมาก

ม.ล.กรกสิวัฒน์ กล่าวอีกว่า อีกประเด็นที่นำไปสู่ความขัดแย้ง คือ บันทึกความเข้าใจเอ็มโอยู 2543 ฝ่ายไทยไม่ได้บรรจุแผนที่ 1 ต่อ 50,000 เป็นเอกสารที่ใช้เจรจาทั้งที่ราชการไทยใช้อยู่และตรงกับภูมิประเทศจริง แต่กลับให้กัมพูชานำแผนที่ 1 ต่อ 200,000 มาใช้เป็นกรอบในการเจรจาได้ อันเป็นมูลเหตุสำคัญที่ทำให้การเจรจาไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะใช้แผนที่คนละฉบับ ที่ผ่านมาฝ่ายกัมพูชาเจตนาละเมิดเอ็มโอยู 2543 มากถึง 600 ครั้ง ย่อมชี้ให้เห็นว่า กัมพูชาขาดความจริงใจในการดำเนินการตามข้อตกลงร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนโดยสันติวิธีตามกรอบการเจรจาทวิภาคี แต่มีเจตนาสร้างความขัดแย้งเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างแรงกดดันจากนานาชาติ โดยมีเป้าหมายเพื่อนำเรื่องดังกล่าวขึ้นสู่ศาลโลก

กก.บห.พลังประชารัฐ ระบุว่า ส่วนพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย รัฐบาลก็ไม่ได้ชี้แจงว่า ปราสาททั้งสามอยู่หลังอยู่ทางทิศตะวันตกของช่องสะงำ ซึ่งเป็นที่ตั้งหลักเขตที่หนึ่ง จึงยึดถือหลักเขตที่สยามปักปันแล้วกับฝรั่งเศสเป็นสำคัญ เมื่อปราสาททั้งสามอยู่หลังหลักเขตที่ปักปันจึงเป็นของประเทศไทย แต่รัฐบาลไทยกลับปล่อยให้กัมพูชาแถลงอยู่ฝ่ายเดียวเป็นเวลานานว่าเป็นของตน จนภาคประชาชนต้องออกมาชี้แจงว่าประสาทตาเมือนธมนั้นได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานโดยกรมศิลปากรก่อนที่จะเกิดประเทศกัมพูชาในปี 2496 การนิ่งเฉยของรัฐบาลโดยไม่ยกหลักฐานทางประวัติศาสตร์ขึ้นต่อสู้ เรื่องดังกล่าวจึงถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างดี

ม.ล.กรกสิวัฒน์ กล่าวว่า พรรค พปชร.พร้อมสนับสนุนท่าทีเชิงรุกในเวทีสากลระหว่างประเทศ เพื่อปกป้องอธิปไตยไทยบนพื้นฐานของความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ

ทรงพลัง! สื่อกัมพูชาทำโพลล์ ‘คนเขมร’ สนับสนุนคว่ำบาตรสินค้าไทยอย่างล้มหลาม

เปืดผลสำรวจของ Khmer Times สื่อภาษาอังกฤษ ภายใต้การกับของรัฐบาลกัมพูชา แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนอย่างล้นหลามต่อการคว่ำบาตรสินค้าไทย หลังจากเหตุการณ์รุ

‘สุรเดช’ รับคำสั่ง ‘ลุงป้อม’ คุมภาคเหนือ ลั่นสู้ศึกเลือกตั้งด้วยผู้สมัครเกรด A

นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่ภาคเหนือว่า ตนได้รับมอบหมายจากพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้ดูแล

พปชร.จัดทัพสู้ศึกเลือกตั้ง 'บิ๊กป้อม' ให้ถาม 70 ล้านคน ยังอยากให้เล่นการเมืองหรือไม่

ประชุมใหญ่ พปชร. ปรับโครงสร้างพรรค ลุยศึกเลือกตั้ง เลือก “ตรีนุช เทียนทอง” เป็นเลขาฯ พร้อมเปิดรับชื่อ 3 แคนดิเดตนายกฯ ก่อน 8 ธ.ค. “บิ๊กป้อม” ปล่อยหมัดถามประชาชน 70 ล้านคน ยังอยากให้ตัวเองอยู่การเมืองต่อหรือไม่

'ลุงป้อม' ห่วงน้ำท่วมใต้ ประสานแม่ทัพภาค 4 ลุยช่วย พปชร.ตั้งโรงครัว 8 จังหวัด

หัวหน้าพลังประชารัฐให้กำลังใจชาวใต้ เผยติดต่อแม่ทัพภาค 4 ผู้ประกอบการลงพื้นที่ช่วย ขณะโฆษกพรรคย้ำตั้งโรงครัวกระจาย 8 จังหวัด เปิดให้บริการต่อเนื่องจนกว่าจะพ้นวิกฤต