จี๊ด! ประชาคมแพทย์ สะท้อนวงการแพทย์-กระบวนการยุติธรรม คล้ายเล่น 'เอาเถิดเจ้าล่อ'

13 ก.ค.2568-เพจประชาคมแพทย์ โพสต์ข้อความเนื้อหาระบุ สำนวนไทยวันนี้: “เล่นเอาเถิดเจ้าล่อ”  “ผู้ร้ายเอาเถิดเจ้าล่อกับตำรวจ จะจับได้ตรงนี้ ก็โผล่ตรงโน้น จะอธิบายตรงนั้น ก็วกกลับมาที่ตรงนี้ สุดท้ายไม่มีใครรับผิดเลยสักคน”

เรื่องราวในวงการแพทย์และกระบวนการยุติธรรมไทยช่วงนี้ ช่างคล้ายกับการละเล่น “เอาเถิดเจ้าล่อ” อย่างแปลกประหลาด

มีผู้เล่นหลักๆ อยู่ 8 คน แต่จริงๆแล้วผู้ที่แอบเล่น เช่นอธิบดีและเจ้ากระทรวง ที่เป็นผู้สั่งการ ก็ไม่ได้มาเล่นให้เห็นจริงๆ แต่สังคมก็รู้ ในเกมที่ประชาชนทั้งประเทศกำลังเฝ้าดู…

ผู้เล่นคนที่ 1 – นักโทษชาย

ผู้ที่ “ควร” เป็นเป้าหมายของการตรวจสอบ แต่กลับหายวับไปในเงาของอาการแน่นหน้าอกและค่าออกซิเจนต่ำ และหลบหลังที่กำบังตลอดเวลา

ผู้เล่นคนที่ 2 – พยาบาลเวร

ผู้โทรศัพท์ขอรถพยาบาลในคืนนั้น เขาอยู่หน้างานจริง แต่กลับไม่เคยถูกสอบโดยแพทยสภา จนต้องไปให้การต่อศาลด้วยตัวเองในภายหลัง พูดกับแพทย์หญิงก็อ้างแพทย์เวร พูดกับแพทย์เวรก็อ้างแพทย์หญิง เหมือนเป็นผู้เล่น ที่วิ่งไปวิ่งมาอีกคน

ผู้เล่นคนที่ 3 – แพทย์เวร

ผู้ถูกกล่าวอ้างว่า “แนะนำให้ส่งโรงพยาบาลตำรวจ” แต่เจ้าตัวกลับให้การว่า แค่ “แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หญิงผู้ตรวจร่างกาย”

เมื่อเบิกความต่อศาล ทุกอย่างดูคลุมเครือและ ตอบเพียงว่าไม่รู้ ไม่รู้ และคนนี้ก็ยังไม่เคยได้รับการสอบสวนทางวิชาชีพ เลยไม่รู้ว่าวิ่งไปวิ่งมาหรือเปล่า

ผู้เล่นคนที่ 4 – แพทย์หญิงผู้ตรวจร่างกาย

เป็นจุดศูนย์กลางของการตีความ เคยให้การกับคณะกรรมการสอบสวนทางวิชาชีพ ว่า“พยาบาลเวรอ้างว่าแพทย์เวรเป็นคนสั่ง”

แต่เมื่อย้อนเทียบกับคำให้การพยาบาล กลับไม่ตรงกัน คนนี้ก็วิ่งไปวิ่งมาเหมือนกัน

ผู้เล่นคนที่ 5 – ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์

ผู้มีอำนาจสูงสุดในการ บังคับบัญชาแพทย์ ที่อนญาตส่งตัวผู้ต้องขัง แต่กลับได้รับการยกคำร้องไปอย่างเงียบเชียบ โดยอนุกรรมการชุดที่หนึ่ง หายเข้ากลีบเมฆ ไปเป็นใหญ่ใน ตำแหน่งผู้บัญชาการ แถวมีนบุรี

ผู้เล่นคนที่ 6 – ผู้บัญชาการเรือนจำ

ผู้ถืออำนาจตามสายบังคับบัญชา แต่ไม่เคยแสดงตนว่า ได้มีบทบาทหรือรับผิดชอบอย่างไรในเหตุการณ์ที่สะเทือนสังคม ยังคงอ้างองค์ประกอบของกฎหมายว่าส่งตัวโดยชอบแล้ว แต่ ขณะนี้ คงจะคิดหนัก ว่า จะอ้างแพทย์ดี หรือ อ้างพยาบาลดี เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย และใคร ให้การ มีน้ำหนักมากที่สุด แต่ตอบตามตรงว่าตอนนี้พิรุธกันหมดทุกคน เหมือนว่า ทั้ง “แพทย์”และ “พยาบาล” จะพึ่งพาไม่ได้

ผู้เล่นคนที่ 7-8 – ผู้ตามจับ

ในเกมนี้คือ “ฝ่ายกฎหมาย และ ฝ่ายวิชาชีพ” ที่กำลังไล่ล่าความจริง ท่ามกลางม่านหมอกแห่งคำให้การของผู้กำบัง ที่วิ่งไปตรงนั้นที ตรงนี้ที เปลี่ยนท่าทีไปมา ผู้เล่น 2 คนนี้ ประชาชนต้องให้กำลังใจกันนะครับ ฝ่ายกฎหมาย เขากำลังทำเพื่อชาติ แต่ ฝ่ายวิชาชีพ ดูเหมือนกำลังเนือยๆ วางเฉยกับ ผู้ให้ที่กำบัง ที่เป็นแพทย์

นี่ไม่ใช่แค่การเอาเถิดเจ้าล่อธรรมดา…แต่คือเกมของอำนาจ การเอื้อประโยชน์ และการละเลยจริยธรรม ที่เล่นกันกลางแสงไฟ โดยมีประชาชนเป็นผู้ชม บางคนในเกมนี้ อาจไม่ใช่แค่ “ผู้กำบัง” แต่อาจเป็น “ผู้สมรู้ร่วมคิด”

คำถามสำคัญคือ… ผู้ตามจับจะไล่ทันหรือไม่? และประชาชนจะปล่อยให้เกมนี้จบลงแบบ “จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน”  อีกครั้งหรือเปล่า?  ขอเอาใจช่วยทุกฝ่ายที่ยังเชื่อมั่นในจริยธรรม ความยุติธรรม และหลักวิชาชีพ อย่าให้เกมนี้กลายเป็นการ “เอาเปรียบเจ้าตลอด” หรือเป็น “มวยล้ม”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นิพิฏฐ์' ฟันเปรี้ยง! ฮั้ว สว. ความชั่วร้ายที่ประชาชนกอดรัดไว้โดยไม่รู้ตัว

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ฮั้ว สว. ความชั่วร้ายที่ประชาชนกอดรัดไว้

'ชนนพัฒฐ์' ลั่นพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทุกขั้นตอน! ผิดจริงวางมือทางการเมือง

'ชนนพัฒฐ์' ลั่นต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ชี้หากผิดจริงยอมวางมือทันที มั่นใจพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้ ขอบคุณคำวิจารณ์ที่หวังดีต่อบ้านเมือง ด้าน เลขาฯ กธ.ย้ำ ผิดว่าไปตามผิด

ดร.อาทิตย์ จวกปมจับ ‘นิสิต’ ล่าช้า 15 ปี สะท้อนรัฐหย่อนยาน

อดีตประธานรัฐสภา ตั้งคำถามทำไมคดีการเมืองไทยถึงล่าช้ากว่า 15 ปี ชี้กรณีจับ “นิสิต สินธุไพร” สะท้อนความหย่อนยานของรัฐในการบังคับใช้กฎหมาย ย้ำรัฐบาลไม่ควรปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก เพราะสร้าง