ออกไป! 'จตุพร' ปลุกขจัด 'สทร.' ไล่นายกฯ 'ตระกูลชิน' พ้นแผ่นดินไทย

‘จตุพร’ เปิดภารกิจประชาชน ร่วมเอานายกฯ ตระกูลชินออกจากแผ่นดินไทย ขจัด ‘สทร.’ ลุอำนาจ ลั่นบ้านเมืองปกครองด้วยระบบ ‘เสือกเป็นใหญ่’ ไม่ได้

14 ก.ค. 2568 – นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ปราศรัยเวทีความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งที่ 3 ที่หอประชุมเล็ก (ศรีบูรพา) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2568 โดยระบุภารกิจของประชาชนว่า ประเทศไทยจะปลอดภัยจากการอยู่ใต้อาณัติสมเด็จฮุน เซน และกัมพูชา ต้องเอานายกรัฐมนตรีจากตระกูลชินวัตร ออกจากแผ่นดินไทย แล้วเปิดทางให้คนที่เห็นแก่ประโยชน์ชาติมากกว่าประโยชน์ส่วนตัวมาเป็นผู้ปกครอง เพื่อปิดโอกาสคนเสือกได้มีอำนาจในประเทศ

“วันนี้ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงการปกครองมาถึงยุคคำว่า “เสือก” เป็นคำที่มีอำนาจสูงสุด และ สทร. กลายเป็นตำแหน่งที่ใหญ่กว่า สร.1 (รหัสเรียกตำแหน่งนายกฯ) แล้วคนเสือกทุกเรื่องใครก็กลัว จนทำให้ประเทศไม่ได้ปกครองในระบอบประชาธิปไตย แต่เป็นประชาธิปเสือก ซึ่งเป็นการปกครองของเสือก โดยเสือก และเพื่อเสือก ไม่มีใครทำอะไรคนเสือกได้” นายจตุพร ระบุ

ส่วนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร ผู้นิยามบทบาทตัวเองเป็น “สทร.” คือเสือกทุกเรื่อง ให้สัมภาษณ์ในรายการผ่าทางตันประเทศไทย เมื่อ 9 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น นายจตุพร กล่าวว่า เป็นการพูดเท็จและโคตรโกหกที่สุด โดยสร้างเรื่องเล่าขึ้นมาใหม่เกี่ยวกับคลิปเสียงหลุดระหว่างนายกฯ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ถูกศาลสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เพราะถ้านายทักษิณ ไม่เตรียมการนัดแนะกับฮุนเซนมาก่อนคงไม่กล้าพูด เพราะเรื่องเล่าของทักษิณ ไม่มีข้อเท็จจริงที่นายกฯ อุ๊งอิ๊ง แถลงข่าวปฎิเสธมาแล้วถึง 4 ครั้งเลย

โดยสาระสำคัญการแถลงครั้งแรก นายกฯ อุ๊งอิ๊งสารภาพว่า นึกไม่ถึงจะถูกอัดคลิป ครั้งสองเปิดปากขออภัยประชาชน ครั้งที่สามทายท้าว่า “ดิฉันไม่ได้อะไร ประเทศก็ไม่เสียอะไร” ส่วนครั้งที่สี่บอกแบบปัดรำคาญให้พ้นว่า ขอโทษถ้าทำให้ไม่สบายใจ ดังนั้น จึงแสดงว่าไม่ได้สำนึกในสิ่งที่กระทำไม่เหมาะสมลงไป

นายจตุพร กล่าวถึงเรื่องเล่าที่ทักษิณเสริมแต่งขึ้นใหม่ว่า ผอ.ฮวด ล่ามคนสนิทฮุนเซนที่ส่งมาประสานงานเจรจากับนายกฯ อุ๊งอิ๊ง ที่โรงแรมโรสวูด โดยมี รมว.กลาโหม รมว.ต่างประเทศและเลขาธิการนายกฯ ร่วมอยู่ด้วย แต่เมื่อถึงเวลานัดคุยกัน ฮุนเซนนอนหลับ ต้องรอนานกว่า 3 ชั่วโมง นายทักษิณจึงบอกลูกสาวไม่ต้องรอให้แยกย้ายกันกลับ

สิ่งสำคัญ หลังจากแยกกันแล้ว นายทักษิณบอกว่า ฮุนเซนโทรศัพท์หานายกฯ อุ๊งอิ๊ง พร้อมบอกเวลาที่รอ 3 ชั่วโมงนั้น ฮุนเซนวางแผนบันทึกคลิปเสียง ทั้งที่เสียงในคลิปหลุดนายกฯ อุ๊งอิ๊งพูดภาษากัมพูชาทักทายฮุนเซนก่อน ดังนั้น จึงไม่ควรปล่อยให้นายกฯ อุ๊งอิ๊งอยู่คนเดียว เพราะจะเสียค่าโง่ให้ประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ฮุนเซนไม่มีวันโทรตรงหานายกฯ อุ๊งอิ๊ง ต้องโทรหา ผอ.ฮวดก่อน เพราะเป็นล่ามเพื่อติดต่ออุ๊งอิ๊ง แต่ สทร. กลับสื่อว่า ฮุนเซนโทรตรงหานายกฯ เลย ซึ่งเป็นการแต่งเรื่องเล่าใหม่ขึ้นมาโกหก

“บ้านเมืองนี้อยู่ด้วยการหลอกลวงกันมาตลอด และเรื่องนี้เสมือนหนึ่งว่า เป็นชัยชนะสามารถอธิบายความได้เสร็จสิ้น ที่สำคัญ สทร.ใช้เวลาร่วมเดือนคิดได้แค่นี้เหรอ จึงเป็นคนที่มีควาามรู้สึกช้า ถ้าเป็นเรื่องจริง เขา (ฮุนเซน) ออกคลิปจัดการลูกตัวเองเกือบเดือนจึงเกิดโมโห ช่างใจถึงมากจริงๆ” นายจตุพร กล่าว

ทั้งนี้ นายทักษิณออกมาพูดเรื่องเล่านี้ในวันที่ 9 ก.ค. ซึ่งเป็นวันยื่นหมูยื่นแมวกรณีพรรคเพื่อไทยถอนร่าง พ.ร.บ.บ่อนกาสิโน ออกจากที่ประชุมสภาเรียบร้อยแล้ว คงหวังว่าฮุนเซนได้สบายใจ ดังนั้น สิ่งที่ผิดใจกันมาตลอดจึงเจ๊ากันไป เรื่องเล่านี้เป็นผลประโยชน์ส่วนตัวทั้งสิ้น และหลังจากนี้ประเทศชาติจะเสียประโยชน์ โดยก่อนหน้านี้สิ่งผิดใจกันกรณีแบ่งผลประโยชน์พลังงานในทะเล 50 ต่อ 50 แต่ไม่ทำ กระทั่งเกิดเหตุทหารชายแดนสองฝ่ายปะทะกันที่ช่องบก แล้วมาถึงคลิปหลุด ซึ่งสิ่งผิดใจกันแสดงว่า ไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของประเทศชาติเลย แต่นับจากนี้ไป ไทยเสมือนหนึ่งตกเป็นเมืองขึ้นของกัมพูชา เมื่อขัดใจฮุนเซนจะส่งเสียงดังตามมา เอาคลิปข่มขู่อีก แต่เมื่อสมประโยชน์แล้วก็เงียบกริบ ถ้าวันหน้าจะเอาประโยชน์อีกคงนำคลิปมาเปิดอีก

“ดังนั้น ประเทศไทยจะปลอดภัยที่สุดคือ เอานายกฯ จากตระกูลชินวัตร ออกจากแผ่นดินไทยให้ได้ เอาคนที่ไม่ตกอยู่ภายใต้อาณัติใดๆ เอาคนที่เห็นแก่ประโยชน์ชาติมากกว่าประโยชน์ส่วนตัวมาเป็นผู้ปกครองของเรา” นายจตุพร ระบุ

ส่วนกรณีภาษีทรัมป์นั้น นายจตุพร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทักษิณ โชว์ฟอร์มของอนุญาติศาลอาญาออกนอกประเทศเพื่อไปดักรอพบประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ที่ประเทศการ์ต้า ซึ่งเป็นข้ออ้างไม่สมเหตุสมผลที่สุด ศาลจึงไม่อนุญาต นอกจากนี้ สทร. ยังบอกได้ว่า คุยกับคนใกล้ชิดประธานาธิบดีทรัมป์หมดแล้ว ส่วoนายกฯ อุ๊งอิ๊งยังอ้างว่า กำลังเจรจาทางลับอยู่ ปรากฎว่าทีมไทยแลนด์ไปเจรจาต้องเสียค่าจ้างล็อบบี้ยีสต์มากกว่า 100 ล้านบาท แต่ได้ภาษีทรัมป์ที่เก็บกับไทย 36% ตามเดิมอีก แล้งยังมีหน้าปลอบคนไทยไม่ให้ตกใจ

“ขอบอกไปยัง สทร. ว่า ไม่มีใครตกใจ เพราะที่พูดมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีอะไรสำเร็จสักเรื่อง แต่จำไว้อย่างว่า อย่าเอาภาษีทรัมป์แลกกับการตั้งฐานทัพอเมริกาในไทยเด็ดขาด เพราะในอดีตไทยเจ็บช้ำเรื่องนี้มาตลอดที่ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านเจ็บแค้นเคืองไทย” นายจตุพร กล่าว

อีกทั้ง ไม่เชื่อสหายอ้วน-นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รักษาการนายกฯ และทีมไทยแลนด์จะจัดการภาษีทรัมป์ได้ สิ่งสำคัญสหรัฐขึ้นแบล็กลิสต์รัฐมนตรีไทยกรณีส่งอุยกูร์ให้จีนนั้น มีชื่ออะไรบ้าง เพราะทีมไปเจรจาภาษีทรัมป์ไม่มีแม้แต่ชื่อ รมว.ต่างประเทศไทย และขึ้นบัญชีนายกฯ อุ๊งอิ๊งไว้หรือไม่ ดังนั้น การปล่อยให้คนพวกนี้ละเลงแผ่นดินจนปล่อยให้ชาติย่อยยับในขณะนี้

นอกจากนี้ สทร. ยังจะไปพูดวันที่ 17 ก.ค.นี้ หัวข้อปลดล็อกประเทศไทย ทั้งที่ปลดล็อกคดีตัวเองจากปมชั้น 14 รพ.ตำรวจ ยังไม่ได้เลย ส่วนสถานการณ์การเมืองที่รัฐบาลเพื่อไทยโชคดีมีพรรคประชาชนเป็นฝ่ายค้านทำหน้าที่อภิปรายไม่ไว้วางใจดุดันในสภาตามทฤษฎีเล่าสู่กันฟัง แล้วกลับบ้านน้าตาเฉย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เมื่อฝ่ายค้านอภิปรายฯนายกฯ หลบเลี่ยงภาษี รุกที่ดินหลวงที่เขาใหญ่ และถือครองที่ดินวัดเป็นสนามกอล์ฟอัลไพน์ ซึ่งทั้งหมดเข้าข่ายผิดมาตรฐานทางจริยธรรม โดยฝ่ายค้านประกาศยุทธการโรยเกลือบาดแผลนายกฯ แต่ไม่ส่งเรื่องนายกฯ ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กลับไปยื่นหนังสือถามหามาตรฐานการใช้ตั๋วพีเอ็นจากกรมสรรพากร ซึ่งเป็นหน่วยงานใต้บังคับบัญชาพรรคเพื่อไทยและท้ายสุดนายกฯ ก็รอดจากยุทธการโรยเกลือของเด็กเล่นขายของไป

“เคยหวังว่าฝ่ายค้านจะเป็นความหวังใหม่ โดยเขาพยายามอธิบายว่า นี้เป็นการเมืองของคนรุ่นใหม่ แต่โคตรดึกดำบรรพ์เลย เป็นไข่ไดโนเสาร์ชัดๆ เท่านั้นยังไม่พอยังออกแถลงการณ์ให้ประชาชนถอนตัวออกจากที่ชุมนุมอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเมื่อ 28 มิ.ย. ซึ่งเป็นพรรคไม่มีหลักยึดมั่น เพราะอ้างว่าเป็นการเรียกร้องรัฐประหาร แต่กลับให้ท้ายเยาวชนชุมนุมเรื่องสถาบัน” นายจตุพร ระบุ

นายจตุพร กล่าวถึงกรณีทักษิณจะทำการพนันออนไลน์ให้ถูกกฎหมายเพื่อดึงรายได้ 3 แสนล้านต่อปีว่า เมื่อรัฐบาลพรรคเพื่อไทยถอนร่าง พ.ร.บ.บ่อนกาสิโน แล้วมาคงการพนันออนไลน์ให้ถูกกฎหมาย ซึ่งจะทำให้เจ้ามือบ่อนกาสิโนในกัมพูชาได้ประโยชน์ ทั้งๆที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี มีหน้าที่ปราบปรามการพนันออนไลน์ กลับไม่ทำหน้าที่อย่างจริงจัง เมืองไทยขณะนี้ ไม่ได้คิดเอาชาติบ้านเมืองเป็นหลัก แต่คิดแข่งกันไปปล้นงบประมาณแผ่นดินได้เงินไปซื้อเสียงเลือกตั้งเพื่อเข้าไปมีอำนาจ วนรอบกันไปเรื่อยๆ แบบนี้ ถ้าประเทศชาติปล่อยให้มีการปกครองเช่นนี้ย่อมรอคอยความฉิบหาย

นายจตุพร ย้ำว่า ประชาชนต้องจัดการพวกทำชาติฉิบหายเสียก่อน เพื่อให้แผ่นดินได้เจริญสูงขึ้น นอกจากนี้ คนพวกนี้ยังรวบงบประมาณ 1.5 แสนล้าน โดยอ้างเอาไปกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่แบ่งจ่ายกันไปซ่อมถนน แล้วได้เงินเหลือไปซื้อเสียงเลือกตั้งอีกทอดหนึ่ง สิ่งสำคัญคือ อดีตนายกฯ สารภาพกับพระเจ้าแผ่นดินว่าได้ทุจริตจริง บัดนี้สำนึกแล้ว และบอกเคารพต่อกระบวนการยุติธรรม แต่ไม่ติดคุกสักวัน กลายเป็นผู้นำจิตวิญญาณของรัฐบาล เอาคนขี้โกงมาชี้นำประเทศได้อย่างไร มาสั่งการคนได้ทั้งหมด บ้านเมืองจะเป็นแบบนี้ไม่ได้ ดังนั้น หากต้องการให้บ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลง สถาบันหลักของชาติต้องได้รับความคุ้มครองอย่างแข็งแรง อีกอย่างกติกา กฎหมายต้องมีความแข็งแรง มิเช่นนั้นแล้วประเทศจะหาทางฟื้นไม่ได้เลย เพราะเรามีแต่นักการเมืองไม่จักอิ่มมาปกครอง

“เราจำเป็นต้องล้างใหญ่กันเสียทีกับระบบเฮงซวยแบบนี้ เพื่อให้ประเทศไปในสิ่งที่ถูกต้อง โดยไม่อยู่กับสภาพคนเก่งหน้าบาง แต่คนมีอำนาจหน้าด้าน นอกจากนี้ สิ่งเลวร้ายในการปรับ ครม.ล่าสุด ขณะที่ไทยมีปัญหาดินแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน รัฐบาลไม่ตั้งตำแหน่ง รมว.กลาโหม ซึ่งเป็นการคิดแบบมิตินักการเมือง ไม่ใช่เอาปัญหาบ้านเมืองเป็นหลักยึด ซึ่งวิธีคิดแบบนี้ควรจบสิ้นกันได้แล้ว” นายจตุพร กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อิ๊งค์' โพสต์ภาพคู่ 'ทักษิณ' สุขสันต์วันพ่อ อดทนไว้ เราจะได้ไปเที่ยวรอบโลกด้วยกัน

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า

'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน

'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.

รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%

'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2

'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'

นายกฯ ประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล 'ร.9'

นายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 'ในหลวง ร.9' วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2568