ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อดีตประธานสภาฯ โพสต์เฟซบุ๊กเรียกร้องรัฐบาลไทยแถลงจุดยืนต่อประชาคมโลกอย่างตรงไปตรงมา ย้ำดินแดนเกาะกง–พระตะบอง–เสียมราฐ–ศรีโสภณ เคยเป็นของไทย และแผนที่ 1:50,000 ต้องเป็นหลักฐานอ้างอิง พร้อมเตือนหากกัมพูชายังยั่วยุ ไทยอาจต้องทวงคืนแผ่นดินทั้งหมด
27 กรกฎาคม 2568 - ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร โพสต์เฟซบุ๊กว่ารัฐบาลไทยต้องแถลงประกาศให้ทั่วโลกรู้อย่างชัดเจนว่า (ไม่อ้ำอึ้ง อมพะนำ ลับลมคมใน แบบมีผลประโยชน์ทับซ้อน)
เดิมสมัยรัชกาลที่ 5 ดินแดน เกาะกง พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ เป็นของสยามของไทย
ฝรั่งเศสมาครองอำนาจในฐานะเจ้าอำนาจอาณานิคมอย่างไม่เป็นธรรม และเมื่อทำสนธิสัญญาที่กรุงโตเกียว ได้กำหนดเขตแดนไทยโดยยึดสันปันน้ำ จากช่องบก หรือสามเหลี่ยมมรกต ถึงหลักเขตที่ 1-73
และกลับไปยก เกาะกง ซึ่ง ร. 6 ตั้งชื่อเป็นจังหวัดว่า ประจันตคีรีเขต คู่กับจังหวัดประจวบคึรีขันธ์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกันของอ่าวไทย และพระตะบอง เสียมราฐ (ไม่ใช่เสียมเรียบ) ศรีโสภณ ให้กับประเทศที่ตั้งใหม่ชื่อกัมพูชา อย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งไทยต้องจำยอม
ตามสนธิสัญญาที่ยึดสันปันน้ำเป็นหลักเขตแดน บรรดาปราสาททั้งหลาย ทั้ง ปราสาทพระวิหาร ตาเมือนธม ตาควาย ตาเมือนโต๊ด ทั้งหลายอยู่บนสันปันน้ำในเขตไทยทั้งสิ้น
ถ้าใช้แผนที่ประกอบต้องเป็นแผนที่ที่ถูกต้องไม่ขัดกับความเป็นจริงตามสนธิสัญญาที่ยึดสันปันน้ำเป็นหลัก ดังนั้นแผนที่ 1:200,000 ซึ่งหยาบไม่ละเอียดและไม่ถูกต้องจึงใช้ไม่ได้ ต้องใช้แผนที่ 1:50,000 ตามที่ใช้สากลเป็นหลัก หรือไม่ก็ใช้ดาวเทียมสำรวจใหม่ ไทยก็ยินยอมแบบจำยอม ยอมจำนนตลอดมา
และตลอดมาตั้งแต่บัดนั้นจนบัดนี้ ไทยก็ถือประเทศกัมพูชาและประชาชนชาวกัมพูชาเป็นเหมือนพี่น้อง บ้านพี่เมืองน้อง ดูแลอุปการะช่วยเหลือเกื้อกูลในทุกด้านตลอดมา แม้ในช่วงกัมพูชามีสงครามภายในกัน ไทยก็ช่วยเหลือผู้อพยพลี้ภัยสงคราม แม้กระทั่งพระมหากษัตริย์กัมพูชา ไทยก็ทุ่มสรรพกำลังช่วยเหลือมาตลอดจนไม่เป็นอันต้องทำเรื่องอื่น
แต่กัมพูชาไม่เคยยอมรับปฏิบัติตามสนธิสัญญา เรียกร้อง รุกราน คุกคาม ยั่วยุ ดินแดนไทยตลอดมา ตั้งแต่ปราาสาทพระวิหาร ปราสาทอื่นๆ เกาะกูด เขตแดนไหล่ทวีปในทะเลที่กำหนดถูกต้องตามกฎหมายสากลทางทะเล UNCLOS โดยสมคบคิดกับนักการเมืองไทยเพื่อแบ่งผลประโยชน์ส่วนตัวกัน แย่งชิงสมบัติผลประโยชนฺและอธิปไตยของชาติ จนเกิด MOU. 43 และ 44 ขึ้น
การยั่วยุ รุกราน เพื่อแย่งชิงดินแดนไทยที่เกิดขึ้นในปัจจุบันก็เป็นกระบวนการต่อเนื่องของกัมพูชาที่ไม่ยอมหยุดยั้ง เห็นแก่ได้ และไม่สำนึกบุญคุณและมิตรไมตรีของประเทศไทยเลย
ประเทศไทยถูกรังแกบนความใจดี ต้องอดทนจำยอมหวานอมขมกลืนต่อความไม่เป็นธรรม และความไม่สำนึกในบุญคุณและคุณูปการมานานแล้ว
หากกัมพูชายังไม่หยุดกระบวนการดังกล่าว ก็บีบบังคับให้ไทยไม่มีทางเลือกจำที่จะต้องเรียกร้องทวงคืนผืนแผ่นดินไทยทั้งหมด ตั้งแต่เกาะกง จังหวัดประจันตคีรีเขต พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ คืนมาเป็นของไทยตามเดิม เพื่อให้คนไทยในดินแดนดังกล่าวได้อยู่เย็นเป็นสุขต่อไป
และต้องไม่ลืมว่าประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข พระประมุขมีอำนาจหน้าที่ในการปกป้องดูแลความมั่นคงของชาติและความผาสุกของประชาชน
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นจอมทัพไทย
(ไม่ใช่รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ หารือทูตลาว ยันไทยไม่เริ่มก่อน คุมส่งออกน้ำมันกันลอบไปกัมพูชา
นายกรัฐมนตรีพบเอกอัครราชทูต สปป.ลาว ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ไทยไม่เคยรุก
อาเซียนเมินกัมพูชา ไม่หนุนข้อเสนอหยุดยิง-ถกจีบีซี24ธค./สมรภูมิสระแก้วยังเดือด
ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษเหลว ไร้ข้อสรุปเป็นรูปธรรม “กัมพูชา”
จับตา! ถกอาเซียนนัดพิเศษ มีอะไรในกอไผ่
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "มีอะไรในกอไผ่" โดยระบุว่า
ประณาม 'กัมพูชา' ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ล่อทหารไทยเข้าทุ่งสังหาร ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาโจ่งแจ้ง
ทร.ประณามกัมพูชา ฝ่าฝืนกฎหมายมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ล่อทหารไทยเข้าสู่ทุ่งสังหาร ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาอย่างโจ่งแจ้ง
สถานการณ์แรงงานข้ามชาติปี 2568 จับตาพรรคการเมืองปั่นกระแส บิดเบือนข้อมูลเพื่อโจมตีทางการเมือง
เข้าสู่ช่วงนับถอยหลังกำลังจะผ่านพ้นไปแล้วสำหรับปี 2568 หลายภาคส่วนมีการวิเคราะห์-สรุปสถานการณ์ในด้าน”การเมือง-เศรษฐกิจ-สังคม-สิ่งแวดล้อม-เทคโนโลยี
เสธ ทบ. เผยพบร่างทหาร 2 นาย เหตุปะทะพื้นที่ปราสาทตาควาย 'เนิน 350' แล้ว
พล.อ.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการปะทะในพื้นที่ปราสาทตาควาย และบริเวณเนิน 350 จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างหนั

