ปมดรามา 'รพ.สรรพสิทธิประสงค์' สะท้อน 2 อารมณ์คนไทย

1 ส.ค. 2568 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปและข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า 2 อารมณ์ ต่อผู้ป่วยกัมพูชา

หลังจากโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลคลินิกพิเศษนอกเวลา 4 ข้อ ได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงเนื้อหาของแถลงการณ์ฉบับดังกล่าวว่า อาจขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนหรือไม่ เนื่องจากการที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ปฏิเสธผู้ป่วยที่เป็นชาวกัมพูชา จนพรรคประชาชน ออกแถลงการณ์ ยกอนุสัญญาเจนีวา 4 ฉบับ ลงวันที่ 12 สิงหาคม 2492 ที่ประเทศไทยได้ลงนามเมื่อปี 2497 ว่า ด้วยกฎการทำสงครามและหลักสิทธิมนุษยชนในยามสงคราม ภาค 2 ข้อ 12 ขึ้นมา

หลังจากนั้นมีกระแสดรามาออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันทั้ง 2 ฝ่าย มีทั้งฝ่ายเห็นด้วยกับแถลงการณ์ของโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ก็สนับสนุนและเห็นว่าทำถูกต้อง เพราะประเทศกัมพูชา ทหารของกองทัพกัมพูชาได้โจมตีโรงพยาบาลของประเทศไทย ยิงต่อสู้กับทหารกองทัพไทยจนได้รับความบาดเจ็บ ล้มตาย มีประชาชนบาดเจ็บ เสียชีวิต จึงเกิดกระแสอารมณ์ความไม่พอใจ

ในขณะเดียวกันพรรคประชาชน ก็ยึดเอาหลักการของอนุสัญญาเจนีวาขึ้นมากล่าวอ้าง เกรงว่าประเทศไทยตกเป็นเหยื่อ ถูกกล่าวหาว่าละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนได้ นอกจากนี้มีบุคคลสำคัญในวงการทางการแพทย์และสาธารณสุข เช่น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาปฏิเสธว่า ไม่มีนโยบายที่จะปฏิเสธรับผู้ป่วยไม่ว่าชาติใด รวมไปถึงบุคลากรทางการแพทย์หลายคน ก็ออกมาเรียกร้องให้โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ประกาศยกเลิกแถลงการณ์ที่ได้ประกาศมาก่อนหน้านี้

ในที่สุดนายแพทย์มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกแถลงการณ์อีกฉบับหนึ่ง เพื่ออธิบายเหตุผล ซึ่งแถลงการณ์ฉบับแรกมีเนื้อหา 4 ข้อ แต่ไม่มีเหตุผลอธิบายในรายละเอียด ส่วนแถลงการณ์ฉบับใหม่ มีเนื้อหา 5 ข้อ และได้มีเนื้อหาเหตุผลรองรับทุกข้อ จึงทำให้เห็นว่าการปฎิบัติของโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ตามแถลงการณ์ฉบับใหม่ ไม่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน และไม่ขัดต่ออนุสัญญาเจนีวา

จากปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น สามารถเข้าใจได้ว่า เป็นความเห็นของคน 2 กลุ่ม คือกลุ่มแรกต้องการความถูกต้อง ยึดหลักการเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติระยะยาว ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งเกิดขึ้นจากความรู้สึกที่ไม่พอใจ ต่อพฤติกรรมของกองทัพกัมพูชา ที่กระหน่ำโจมตีฝ่ายพลเรือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงพยาบาล เมื่อทำลายโรงพยาบาลแล้วก็ไม่ควรที่จะมาใช้บริการโรงพยาบาลอีก

ทั้งหมดนี้เป็นความรู้สึกของประชาชนคนไทย ที่มีต่อคนกัมพูชา และขอให้เข้าใจว่า ประเทศไทยยังยึดอยู่ในหลักอนุสัญญาเจนีวา และสามารถอธิบายเหตุผลความจำเป็นให้สังคมเข้าใจแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ

นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่

นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล

นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน

นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี

สส.ปชน. เรียกร้องรัฐบาลเยียวยาน้ำท่วมภาคกลางให้มีมาตรฐานเดียวกับภาคใต้

"เต้ ทวิวงศ์​" จี้รัฐบาลอย่า 2 มาตรฐาน ช่วยน้ำท่วมใต้แล้ว หันมาช่วยน้ำท่วมภาคกลางด้วย บอก "ภราดร" ลองกลับมาถามคนอ่างทอง หากรอการเยียวยาเป็นลำดับถัดไปไหวหรือไม่ เหตุอยุธยาจมน้ำมา 4-5 เดือนแล้ว คนเสียชีวิตไปกว่า 20 ราย ชี้ ชาวบ้านต้องทำมาหากิน ควรมีมาตรการชดเชย-ช่วยเหลือเต็มรูปแบบเหมือนกัน