ทภ. 2 ขอประชาชนงดกลับเข้าพื้นที่เสี่ยง รอเก็บกู้วัตถุระเบิด ย้ำห้ามบินโดรน

ทภ.2 แจ้งงดบินโดรนชายแดนไทย-กัมพูชา กระทบปฏิบัติงาน -สร้างความเข้าใจผิด เร่งเก็บกู้ระเบิด ขอประชาชนงดกลับบ้านจนกว่าปลอดภัย ชี้มีมาตรการเยียว บ้านเรือนเสียหายกระสุน-ระเบิด

1 สิงหาคม 2568 - ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 1 สิงหาคม 2568 (ณ เวลา 14.00 น.) ตามที่เกิดสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปผลการปฏิบัติที่สำคัญของสถานการณ์ถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2568 เวลา 14.00 น.

การอพยพประชาชนดำเนินการสนับสนุนส่วนราชการจังหวัดในการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงภัย ไปยังพื้นที่รวบรวมพลเรือน พื้นที่ตอนในทั้ง 4 จังหวัด คือ จ.บุรีรัมย์ 1 จุด 11,967 คน, จ.สุรินทร์ 156 จุด 48,975 คน, จ.ศรีสะเกษ 267 จุด 47,660 คน และ จ.อุบลราชธานี 71 จุด 22,171 คน ปัจจุบัน ประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือนแล้ว จำนวน 130,773 คน (ลดลง 9,649 คน) โดยไม่มีพื้นที่ของประชาชนที่ได้รับความเสียหายเพิ่มเติม และไม่มีประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

จิตอาสาพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ ได้พระราชทานสิ่งของให้กำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจตามแนวชายแดน ได้แก่ เครื่องมือแพทย์, ถุงพระราชทาน และสิ่งของที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงาน สำหรับประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบ ได้จัดหน่วยแพทย์พระราชทาน, โรงครัวพระราชทาน และมอบถุงพระราชทาน เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน การสำรองโลหิตไว้ใช้ในการรักษาพยาบาลในยามฉุกเฉิน ขณะนี้มีพี่น้องชาวไทย ร่วมใจบริจาคโลหิต ณ จุดบริการโรงพยาบาลเคลื่อนที่ และสภากาชาดไทย ในส่วนของศูนย์พักพิง ได้จัดชุดจิตอาสาให้บริการตัดผมฟรี การตรวจสุขภาพร่างกาย การคัดกรอง และประเมินสภาวะสุขภาพจิตเบื้องต้น รวมถึงมีการสันทนาการ ด้านดนตรี และกิจกรรมเพื่อคลายความกังวลให้กับพี่น้องประชาชน

พร้อมชี้แจงให้พี่น้องประชาชนทราบ การบินโดรนในช่วงนี้อาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และอาจสร้างความเข้าใจผิดในพื้นที่ได้ หากพบเห็นการใช้งานโดรนโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอความกรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ใกล้บ้านทันที เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

สำหรับเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดกำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบและเก็บกู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พื้นที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง จึงขอความร่วมมือจากประชาชน งดเดินทางกลับเข้าบ้านหรือพื้นที่เสี่ยงในช่วงนี้ โดยจะมีประกาศแจ้งให้ทราบ อีกครั้งเมื่อปลอดภัยแล้ว เพื่อความสบายใจและความปลอดภัยของทุกท่าน

สำหรับผู้ที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ เช่น โดนกระสุนหรือแรงระเบิด หน่วยงานราชการ มีมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาเบื้องต้นไว้แล้ว โดยจะมีการสำรวจและประสานงานผ่านเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ หรือสามารถแจ้งข้อมูลเบื้องต้นได้ที่จุดให้บริการของศูนย์อพยพใกล้เคียง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปิดด่าน 5 เดือน การค้าชายแดนคลองใหญ่เสียหาย 5 พันล้าน สินค้าเถื่อนทะลัก วอนรัฐบาลเยียวยา

เศรษฐกิจการค้าชายแดนคลองใหญ่ทรุดหนัก เสียหาย 5 พันล้าน ท่องเที่ยววูบปิดท่าเรือหนี ผู้ประกอบการจี้รัฐเยียวยา หลังปิดด่าน 5 เดือน ขณะสินค้าเถื่อนทะลักเข้า-ออก

นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่

นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล

นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน

นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี

โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน

รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568

หวิดเสียขาที่ 8! ทภ.2 แจงทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย เป็นของเก่ากัมพูชาวางไว้

กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงเหตุการณ์เสียงระเบิดในพื้นที่ห้วยตามาเรีย มีรายละเอียดดังนี้ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 14.20 น. หน่วย ร้อย.ร.1622 ซึ่งปฏิบัติภารกิจในพื้นที่

‘คนจีน’ถึงคราวซวย! เหยียบทุ่นระเบิดเขมร

กองทัพภาคที่ 1 เผยชาวจีนเหยียบทุ่นระเบิดเขมรที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว หลังลักลอบเข้าเมือง ด้านสถานทูตจีนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ระบุชายชาวจีนอาการทรงตัว