แฉรายชื่อหน่วยงาน-ประเทศผู้สนับสนุนงบกู้ทุ่นระเบิดกัมพูชากว่าปีละพันล้านบาท ทั้งที่ยังมีหลักฐานใช้จริงกับทหารไทย กัมพูชายังปฏิเสธและไม่ร่วมเก็บกู้ หวั่นยอมรับแล้วจะเสียเงินสนับสนุนจากอนุสัญญาออตตาวา อันเป็นช่องทางรายได้สำคัญของเครือข่ายการเมืองพรรครัฐบาล
13 สิงหาคม 2568 – เฟซบุ๊กเพจ defense info TH ซึ่งนำเสนอข้อมูลเรื่องอาวุธ และ งานด้านความมั่นคง เปิดรายชื่อหน่วยงานรับบริจาคเพื่อการกำจัดการใช้ทุ่นระเบิดในกัมพูชา
โดยระบุว่า ในปีพ.ศ. 2566 รัฐบาลกัมพูชาได้เคยประกาศตั้งเป้าการระดมยอดบริจาคจากนานาประเทศ เพื่อการกำจัดการใช้และทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดในกัมพูชา ภายในปี พ.ศ. 2568
นาย ลี ธุช รัฐมนตรีอาวุโส ของพรรคประชาชนกัมพูชา ในฐานะประธานองค์กรกำจัดทุ่นระเบิดและการช่วยเหลือเหยื่อทุ่นระเบิดในกัมพูชา(CMAA)ได้ระบุว่า “กัมพูชาได้เงินสนับสนุนปีละ 30 ล้านดอลลาร์ (990 ล้านบาท) มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2565 ทำให้เรามียอดบริจาคแล้ว 60 ล้านดอลลาร์ จากเป้าหมาย 138 ล้านดอลลาร์(ราว 4,500 ล้านบาท )”
รัฐบาลกัมพูชา ใช้ช่องทางต่างๆเปิดรับบริจาค ด้วยข้ออ้างการกำจัดทุ่นระเบิด และสถานะในอนุสัญญาออตตาวา อันเป็นสนธิสัญญาระงับการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล โดยมีหน่วยงานจากประเทศต่างๆที่เกี่ยวข้อง และให้การสนับสนุนเงินบริจาคดังนี้
-CMAC(Combodia Mine Action Centre) องค์กรทุ่นระเบิดแห่งชาติ หน่วยงานหลักในการดำเนินการและประสานงานกับองค์กรต่างๆ ดำเนินการโดยเงินรับบริจาคจากผู้สนับสนุนจากแหล่งต่างๆ
-The HALO trust องค์กรNGOภาคเอกชนที่มีบทบาทหลักในกัมพูชา ได้รับงบสนับสนุนจากรัฐบาลอังกฤษ ,สหรัฐอเมริกา และ สวิสเซอแลนด์
-APOPO เป็นที่รู้จักในฐานะที่ใช้หนูที่ถูกฝึกมาเพื่อตรวจจับดินระเบิด เป็นหน่วยงานที่ดำเนินการในกัมพูชามากว่าสิบปี ในการทำลายกับระเบิด และอาวุธตกค้างจากสงคราม
-NPA(Norwegian People’s Aid) องค์กรพันธมิตรร่วมกับCMAC และ CMAA ในการดำเนินการกู้กับระเบิด ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการต่างประเทศของเยอรมัน และ นอร์เวย์
-UNDP(United Nations Development Programme ) โครงการได้รับการสนับสนุนจาก ออสเตรเลีย,นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้
-สหรัฐอเมริกา สนับสนุนงบประมาณปีละ 12 ล้าน ดอลลาร์ (400 ล้านบาท)
-จีน สนับสนุนปีละ 4.4 ล้านดอลลาร์ (146 ล้านบาท)
-ญี่ปุ่น 1.3 ล้านดอลลาร์ (43 ล้านบาท)
-ลักเซมเบิร์ก สนับสนุน 2.16 ล้านดอลลาร์ (72 ล้านบาท)
นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานเอกชน ที่มีการอ้างอิงขอรับบริจาคเพื่อกิจกรรมกู้กับระเบิดในกัมพูชากระจายอยู่ในชาติตะวันตกและสหรัฐอเมริกา
แม้จะมีหลักฐานชัดเจนในการใช้ทุ่นระเบิดบุคคล ต่อเจ้าหน้าที่ของกองทัพไทยในพื้นที่เขตแดนประเทศไทย จนนำมาสู่การใช้กำลังทางทหาร ระหว่างวันที่ 24 ถึง28 กรกฎาคมที่ผ่านมา กัมพูชาได้แสดงท่าทีปฏิเสธการใช้อาวุธทุ่นระเบิด พร้อมทั้งไม่ยอมรับข้อตกลงในการดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่ปรากฏในพื้นที่ความขัดแย้ง
เพราะการแสดงการยอมรับการใช้อาวุธทุ่นระเบิดตามหลักฐานที่ปรากฏ จะทำให้ ฝ่ายกัมพูชามีสถานะเป็นผู้ละเมิดข้อตกลงในอนุสัญญาออตตาวา ทันที ซึ่งจะมีผลต่อเงินสนับสนุนจากการรับบริจาคจากแหล่งต่างๆ อันเป็น หนึ่งในช่องทางรายได้ของเครือข่ายทางการเมืองของรัฐบาลกัมพูชา ที่เป็นการสนับสนุนแบบให้เปล่า ที่ได้รับอย่างต่อเนื่องทุกปี.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน
รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568
ทรงพลัง! สื่อกัมพูชาทำโพลล์ ‘คนเขมร’ สนับสนุนคว่ำบาตรสินค้าไทยอย่างล้มหลาม
เปืดผลสำรวจของ Khmer Times สื่อภาษาอังกฤษ ภายใต้การกับของรัฐบาลกัมพูชา แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนอย่างล้นหลามต่อการคว่ำบาตรสินค้าไทย หลังจากเหตุการณ์รุ
‘คนจีน’ถึงคราวซวย! เหยียบทุ่นระเบิดเขมร
กองทัพภาคที่ 1 เผยชาวจีนเหยียบทุ่นระเบิดเขมรที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว หลังลักลอบเข้าเมือง ด้านสถานทูตจีนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ระบุชายชาวจีนอาการทรงตัว
เผยผลตรวจ 'ทุ่นระเบิด' ชาวจีนเหยียบขาขาด ขณะลอบข้ามชายแดนบ้านหนองจาน
จากเหตุการณ์ชาวจีนลักลอบข้ามแดนเหยียบทุ่นระเบิดที่ บ.หนองจาน หน่วยปฏิบัติการเพื่อระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 1 ร่วมกับตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภูธรจังหวัดสระแก้ว ได้ลงเพื้นที่ในช่วงบ่ายวันนี้ (29 พ.ย.) ซึ่งผลการพิสูจน์ทราบ พบเข็มแทงชนวน
สถานทูตจีนเคลื่อนไหว! เหตุชาวจีนเหยียบทุ่นระเบิด ขณะลักลอบข้ามชายแดนบ้านหนองจาน
สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เปิดเผยถึงเหตุการณ์ชาวจีนได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบทุ่นระเบิด บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา


