อดีตรองอธิการบดี มธ. สะท้อน 10 อุปนิสัย 'ช่อ-พรรณิการ์' ต้นแบบทางความคิดชาว 3 นิ้ว

17 ส.ค.2568-รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ฟซบุ๊ก Harirak Sutabutr เนื้อหาระบุว่า ได้ดูและฟังคุณมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข สนทนาถกเถึยงกับคุณพรรณิการ์ วานิช ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ในเรื่องสงครามระหว่างไทย กับ กัมพูชา ดูโดยรวม คุณพรรณิการ์ แม้จะใช้คำหรูๆ วางมาดเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฏหมายระหว่างประเทศ แม้พูดแต่ละครั้ง จะทำให้บรรดาสาวก 3 นิ้วฟังแล้วพยักหน้าด้วยความชื่นชม แต่พอคุณมัลลิกาโต้มาแต่ละครั้ง ตัดสินได้เลยว่า สำหรับคนส่วนใหญ่ คุณมัลลิกาสามารถได้ใจคนดูและคนฟังมากกว่าคุณพรรณิการ์

สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นน่าจะเป็นเพราะ กิริยาท่าทาง ถ้อยคำและวิธีพูดของคุณพรรณิการ์ดูจะเหยียดๆคู่สนทนาว่ามีความรู้ด้อยกว่าตน และดูเหมือนว่าจะคิดว่าตัวเองรู้ดีกว่าคนอื่นในเรื่องที่กำลังพูด  ในขณะที่คุณมัลลิกาแม้จะโผงผาง แต่ดูออกว่ามีความจริงใจในการแสดงออก ข้อมูลและเหตุผลที่มาใช้โต้แย้ง ส่วนใหญ่ก็ดูว่าจะน่าเชื่อถือมากกว่าคุณพรรณิการ์เสียด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ดี มีประเด็นหนึ่งที่ถกเถึยงกัน ซึ่งคุณพรรณิการ์ พยายามแสดงภูมิอย่างเต็มที่ว่าตัวเองรู้เรื่องกฎหมายระหว่างประเทศดีกว่า นั่นคือประเด็นที่คุณพรรณิการ์เสนอว่า ไทยไม่ควรใช้ความรุนแรงตอบโต้กัมพูชา กรณีที่ทหารไทยต้องสูญเสียขาไปจากการเหยียบกับระเบิดในเขตไทยหลังจากการตกลงหยุดยิง แต่ควรหาประเทศพันธมิตร เช่น สหรัฐอเมริกา หรือญี่ปุ่นซึ่งมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการเก็บกู้ระเบิด มาช่วย แล้วเผยแพร่ข่าวไปทั่วโลก

เหตุผลที่เสนอเช่นนี้ เพราะคุณพรรณิการ์เชื่อว่า การตอบโต้ที่รุนแรงเกินไป นอกจากจะไม่ได้สัดส่วนกับการที่ทหารไทยถูกกับระเบิดแล้ว กลับจะไปเข้าทางสมเด็จฮุนเซ็น เพราะฮุนเซ็นจะหาเหตุลากไปสู่ศาลโลก คุณมัลลิกาโต้ว่า เราไม่ยอมรับอยู่ในเขตอำนาจของศาลโลกหรือ International Court of Justice (ICJ) อยู่แล้ว เราไม่จำเป็นต้องไป คุณพรรณิการ์โต้ว่า จำเป็นต้องไป หากฮุนเซ็นยื่นศาลโลกกรณีพื้นที่เช่น ภูมะเขือ เพราะเป็นพื้นที่ต่อเนื่องกับปราสาทพระวิหาร หากเราไม่ไป ศาลก็จะพิจารณาฝ่ายเดียว ทำให้เราเสียเปรียบ และเราไม่ใช่ประเทศมหาอำนาจที่จะทำเช่นนั้นได้ โดยไม่ต้องเกรงว่าองค์การสหประชาชาติจะมากดดันเรา

เพื่อแสดงข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ จะขอถอดข้อความจากเว็บไซท์ของ  ICJ เป็นภาษาไทยมาให้อ่านดังนี้

“เฉพาะประเทศเหล่านี้เท่านั้น( ประเทศที่เป็นสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ และประเทศอื่นๆที่เป็นคู่กรณีตามกฎหมายของศาล หรือยอมรับเขตอำนาจของศาลภายใต้เงื่อนไขเฉพาะบางประการ) จึงจะเป็นฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในกรณีที่กำลังถกเถียงกันได้ ศาลจะสามารถพิจารณาข้อพิพาทได้ก็ต่อเมื่อประเทศที่เกี่ยวข้องยอมรับเขตอำนาจของศาลโดยวิธีใดวิธีหนึ่งดังต่อไปนี้

โดยเข้าสู่ข้อตกลงพิเศษ เพื่อยื่นร้องข้อพิพาทต่อศาล โดยอาศัยเขตอำนาจศาลที่กำหนดไว้ เช่น เมื่อคู่พิพาทอยู่ในสนธิสัญญาซึ่งมีบทบัญญัติที่แต่ละฝ่ายเห็นไม่ตรงกันในการตีความหรือในการบังคับใช้ ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอาจนำข้อพิพาทดังกล่าวยื่นร้องต่อศาล

โดยการประกาศที่มีผลผูกพันทั้งสองฝ่าย ภายใต้กฎเกณฑ์ โดยที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับเขตอำนาจของศาลให้เป็นภาคบังคับในกรณีที่เกิดข้อพิพาทกับอีกประเทศที่ประกาศเช่นเดียวกัน คำประกาศเช่นนี้จำนวนหนึ่ง ซึ่งต้องฝากไว้กับเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ มีเงื่อนไขที่จะไม่รวมถึงข้อพิพาทบางประเภท “

“ประเทศไม่จำเป็นต้องยอมรับเขตอำนาจของศาลโลก นอกเสียจากประเทศนั้นตกลงยินยอมเอง ศาลโลกจะพิจารณาคดีได้ก็ต่อเมื่อทุกประเทศที่เกี่ยวข้องตกลงยอมรับเขตอำนาจจของศาล ด้วยการทำข้อตกลงพิเศษ หรือโดยกำหนดข้อความในสนธิสัญญา หรือโดยการประกาศยอมรับเขตอำนาจ ให้การยื่นให้ศาลโลกพิจารณาเป็นภาคบังคับในการพิจารณาข้อพิพาทต่างๆ”

ในขณะที่ประเทศที่เป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติทั้งหมด 193 ประเทศ  มีเพียง 73 ประเทศเท่านั้นที่ประกาศยอมรับเขตอำนาจของศาลโลกให้เป็นภาคบังคับในการพิจารณาข้อพิพาทระหว่างประเทศ  ซึ่งหมายความว่า สำหรับประเทศทั้งหมดที่เป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติซึ่งมีถึง 120 ประเทศรวมทั้งประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ไม่ได้ยอมรับเขตอำนาจของศาลโลก

สรุปง่ายๆคือ เราไม่จำเป็นต้องไปศาลโลก และเมื่อกัมพูชาเป็นประเทศที่ยื่นร้องต่อศาลโลกเพียงฝ่ายเดียว ศาลโลกจะไม่สามารถพิจารณาข้อพิพาทที่กัมพูชายื่นร้องได้ หากเราไม่ยินยอมตกลงด้วย

คุณพรรณิการ์ วานิช เป็นหนึ่งในแกนนำคณะก้าวหน้า ที่เป็นต้นแบบทางความคิด ซึ่งนำไปสู่พฤติกรรมของพรรคก้าวไกล และพรรคประชาชนในปัจจุบัน หากจะสรุปลักษณะและอุปนิสัยของคนที่เป็นต้นแบบทางความคิดของชาว 3 นิ้ว เราสามารถแจกแจงได้ดังต่อไปนี้

1.คิดว่าตัวเองมีความคิดที่ถูกต้อง ทันสมัยกว่า และอยู่เหนือกว่าผู้อื่นเสมอ

2.  นิยมชาติตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ไม่ชอบรัสเซีย และจีน

3.  มักจะเหยียดผู้อื่นที่มีความคิด และพฤติกรรมไม่เหมือนตัวเอง

4.  หลงใหลในระบอบประชาธิปไตยแบบตะวันตก เชื่อว่า การเลือกตั้งทั่วไปคือวิธีเดียวที่จะให้ได้คนดีคนเก่งมาบริหารประเทศ ผู้ที่ได้รับเลือกมาโดยประชาชนลงคะแนนให้ ไม่มีใครแม้กระทั้งศาลจะมาถอดถอนออกจากตำแหน่งได้

5. มีความกลัวมาก ว่าประเทศไทยจะไม่ได้รับการยอมรับจากต่างชาติ หากไม่ใช้ระบอบการปกครองแบบประเทศตะวันตก

6. พยายามใช้วาทกรรม คำหรูๆ เพื่ออวดภูมิว่าคัวเองมีความรู้ และทันโลกมากว่าผู้อื่น แต่หลายๆครั้ง หรือส่วนใหญ่เสียด้วยซ้ำ สิ่งที่แสดงภูมิก็ไม่ได้เป็นจริงตามนั้น

7. ต้องแสดงออกในทุกโอกาสว่า ตัวเองให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียมกันในสังคม และความเท่าเทียมกันทางเพศ ทั้งที่บางครั้งบางคนก็ไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ

8. มีทัศนคติลบอย่างรุนแรงต่อทหารทุกเหล่าทัพ และพยายามขัดขวางการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์กองทัพในทุกโอกาสที่มี

9. มีทัศนติลบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่เชื่อว่าสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นส่วนหนึ่งของความมั่นคงของประเทศ พยายามตัดทอนงบประมาณที่เกี่ยวกับสถาบันและโครงการตามพระราชดำริ ในทุกโอกาสที่ทำได้ และมีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

10. รีบร้อนแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่างๆข้างต้น โดยยังไม่ได้สืบค้นข้อมูลเพื่อได้ข้อเท็จจริง จนต้องออกมาขอโทษผู้เสียหายอยู่เนืองๆ

พวกเราเห็นด้วยกันไหมครับ ใครต้องการเพิ่มเติมอย่างไร สามารถ comment เข้ามาได้เลย นะครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นักวิชาการ มธ. คนแรกของอาเซียน คว้ารางวัล People of ACM

นักวิชาการ มธ. คนแรกของไทยและอาเซียน ได้รับเลือกเป็น People of ACM จากบทบาทพัฒนาทักษะซูเปอร์คอมพิวเตอร์ให้ประชาชนภาคเหนือ เชื่อมเทคโนโลยีขั้นสูงสู่การสร้างนวัตกรรมแก้ปัญหาพื้นที่

นักวิชาการ มธ. ชูแผน 3 ระยะ แก้วิกฤติซากขยะหลังน้ำลดหาดใหญ่

นักวิชาการธรรมศาสตร์ เสนอแผน 3 ระยะแก้วิกฤติซากขยะ “หาดใหญ่” หลังน้ำลด ระยะเร่งด่วน “เทศบาล-อบต.” ต้องกำหนดจุดทิ้งขยะใกล้ชุมชน

น้ำลดแต่ความเครียดยังพุ่ง! นักวิชาการเตือนภาวะ Survival Guilt

นักวิชาการ มธ. ห่วงแม้น้ำหาดใหญ่ลด แต่ความเครียดยังพุ่ง เสนอเร่งดูแลสุขภาพจิตและเฝ้าระวัง 3 กลุ่มเสี่ยง ชี้คนเสพข่าวหนักอาจเข้าสู่ภาวะ Survival Guilt ขณะเดียวกัน “ธรรมศาสตร์” ร่วมวุฒิสภาและหลายหน่วยงาน ตั้งฐานข้อมูลน้ำท่วมระดับประเทศ ช่วยเตือนภัยและวางนโยบายรับมือภัยพิบัติให้แม่นยำขึ้น

นักวิชาการ มธ. เชื่อ ‘จีดีพี Q4’ 1.1% ไม่เกินจริง หนุนรัฐปูพรมถก FTA ดันส่งออก  

นักวิชาการธรรมศาสตร์ เชื่อมีความเป็นไปได้ที่จีดีพีไตรมาส 4 จะอยู่ที่ 1.1% ชี้แม้ไม่บรรลุผลเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ

อดีตรองอธิการบดี มธ. สะกิด 'สภาหอการค้า-สภาอุตฯ' หนุน 'นายกฯ' หาตลาดใหม่สู้สหรัฐ

อดีตรองอธิการบดี มธ. ขอเชียร์ให้นายกรัฐมนตรียึดมั่นในความถูกต้อง ไม่ยอมก้มหัวให้ประเทศมหาอำนาจ จัดการกับกัมพูชาให้จบให้ได้ หากทำได้โอกาสที่จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหลังการเลือกตั้ง จะเท่ากับ 100%

ชวนรู้จักกับ “วารสารศาสตราธร” รางวัลคุณภาพคนวงการสื่อไทย พร้อมส่องรายชื่อคนดัง ที่เคยได้รับรางวัล 3 ปีย้อนหลัง สะท้อนไอดอลสื่อยุคใหม่ที่สังคมต้องการ

หากเอ่ยชื่อ “รางวัลวารสารศาสตราธร” ซึ่งในปีนี้จะมีอายุเพียง 4 ปี อาจรู้สึกว่าเป็น “รางวัลน้องใหม่” แต่ถ้าบอกว่าจัดตั้งและมอบโดยคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สถาบันผู้บุกเบิกการศึกษาด้านสื่อสารมวลชนแห่งแรกของประเทศไทย